@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 1 ม.ค. 56

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 1 ม.ค. 56

ร่างของรวิยังคงดิ้นด้วยความเจ็บปวดอยู่บนเตียงผ่าตัดในห้องฉุกเฉิน อุปกรณ์ช่วยชีวิตมีอยู่รายรอบ ด้านข้างเตียงเห็นมีมีดผ่าตัดวางเรียงรายกันอยู่ พยาบาลหลายคนพยายามรั้งร่างดิ้นพราดๆ ของรวิไว้
"ต้องเอามันออกมา เอาลูกสะกดวิญญาณออกมา"
พยาบาลพูดกับพยาบาลอีกคน
"ไปตามหมอมาเร็ว"
พยาบาลอีกคนรีบออกจากห้องผ่าตัดไป ส่วนที่เหลือพยายามยื้อยุดรวิไว้ไม่ให้อาละวาดมากไปกว่านี้
"วิญญู... ท่านทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ฉันจะเอาชนะลูกสะกดวิญญาณให้ได้"

รวิเหวี่ยงเหล่าพยาบาลที่พยายามมาฉุดตัวเธอไว้จนกระจายไปคนละทิศละทาง คนนึงสลบเหมือดเพราะโดนรวิเอาหัวกระแทกกับฝาผนัง อีกคนหนึ่งโดนรวิเอาสันมือสับเข้าที่ต้นคอหลับกลางอากาศ



ในห้องฉุกเฉินเหลือรวิเพียงคนเดียว แม้จะเจ็บปวดแต่รวิกัดฟันหันขวับมาทางมีดผ่าตัดที่วางเรียงรายอยู่บนถาดข้างเตียงผ่าตัด
"ฉันจะเอาออกมาด้วยตัวของฉันเอง"
รวิคว้ามีดผ่าตัดเล่มหนึ่งขึ้นมา และ ร้องเจ็บปวดหัวอย่างรุนแรง แต่กัดฟันยกมีดขึ้นเหนือหัว กรีดเต็มแรงเข้าที่บริเวณที่ลูกสะกดวิญญาณฝังอยู่
"อ๊าก"
เลือดจากศีรษะรวิ...สาดลงบนพื้น !! ไหลนองไปทั่ว รวิหายใจหอบเหนื่อยอ่อน แต่ไม่สามารถเอาลูกสะกดออกมาจากศีรษะได้ รวิเสียงแผ่ว
"ท่าน ฉันรักท่าน ฉันจงรักภักดีกับท่านมาโดยตลอด ทำไมท่านต้องทำกับฉันแบบนี้ ทำไม"
รวิอยู่ในสภาพโคม่า เลือดไหลนอง น้ำตาไหลด้วยความเสียใจแล้วหมดสติไป

บริเวณโถงขมังเวทย์ วิญญูนอนอยู่บนแท่นชาร์จพลัง ลืมตาลุกโพลงรับรู้เรื่องราวของรวิ
“รวิ... เธอพยายามจะทำลายลูกสะกดวิญญาณทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”
วิญญูนิ่งแววตาเครียด เพราะความจริงตัวเองก็ผูกพันกับผู้หญิงคนนี้อยู่ไม่น้อย

เช้าวันใหม่ ในห้องฉุกเฉิน รวินอนเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ภายในห้อง เธอได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว แต่ชีพจรเต้นอ่อนแรงมาก วิญญูปรากฏร่างยืนอยู่ข้างเตียง รวิที่อ่อนแรงหันมามอง
"ท่าน"
วิญญูมองรวิ สายตานิ่งเฉย

ทางเดินในโรงพยาบาล แพรไพลินเดินมากับหมอที่กำลังกล่าวสรุปให้ฟัง
“เมื่อคืนเราได้รับตัว ผบ.รวิ มา เธอคลุ้มคลั่งผ่ากระโหลกตัวเองออกเป็นทางยาวเหมือนต้องการเอาอะไรออกมา"
"แล้วพบอะไรมั้ยคะ"
“ไม่พบ.. แต่เลือดไหลออกมาไม่หยุด บาดแผลขนาดใหญ่มาก...มีผลกระทบโดยตรงต่อก้านสมอง”
แพรไพลินสีหน้าไม่ค่อยดี กำลังเดินตรงไปที่ห้องฉุกเฉินกับหมอ
วิญญูยืนจ้องหน้ารวิอยู่ รวิมองวิญญูด้วยแววตาเศร้า
"เธอไม่มีวันเอามันออกมาได้สำเร็จหรอก"
“ท่าน ฉันรักท่าน” รวิเสียงแผ่วเบามาก
“บางครั้งความรักเพียงอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ.. ไม่สามารถทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้หรอกรวิ"
วิญญูตรงเข้ามาจับหน้ารวิ จ้องลงตรงที่ดวงตาของรวิ
“ขอบใจที่ทำทุกอย่างเพื่อฉัน และนี่คือสิ่งสุดท้ายที่เธอจะทำเพื่อฉัน วิญญาณของเธอจะเพิ่มพลังความเป็นอมตะให้กับฉัน”
วิญญูจับที่หน้าผากรวิ บังเกิดแสงสว่างวาบคล้ายกำลังดูพลังชีวิตออกจากร่างเธอ ชีพจรรวิเต้นช้าลงเรื่อยๆ รวิจ้องหน้าวิญญูด้วยแววตาเศร้า คาดไม่ถึงว่าตัวเองจะต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือคนรัก

แพรไพลินกำลังเดินใกล้เข้ามาที่ห้องฉุกเฉิน พร้อม ๆ กับคุยกับหมอ
"คงมีแต่หมอเท่านั้นแหละครับ ที่จะช่วยชีวิตผบ.รวิให้กลับมาได้"
“อาการเป็นยังไงบ้างคะตอนนี้”
“อาการคลุ้มคลั่งหมดลงไปแล้ว แต่ชีพจรอ่อนมาก เป็นตายเท่ากัน”
แพรไพลินถอนหายใจด้วยความเครียด
“ขอฉันไปดูอาการพี่รวิหน่อยนะคะ”
แพรไพลินเดินเข้าไปยังห้องฉุกเฉิน ที่ตอนนี้มีรวินอนหายใจรวยรินอยู่เพียงคนเดียว รวิอาการทรุดหนัก หรี่ตามองเห็นว่าเป็นแพรไพลิน
แพรไพลินมองเธอด้วยแววตาสงสาร
“พี่รวิ... ฉันมาช่วยพี่แล้ว”
“ช่วย” รวิเสียงแผ่วเบา
“อย่าห่วงไปเลย ฉันแยกออกระหว่างเรื่องส่วนตัวกับเรื่องมนุษยธรรม ยังไงพี่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นพี่สาวแท้ๆ ของฉัน ฉันต้องช่วยพี่ให้ได้”
แพรไพลินหันไปตรวจอาการของเธอในเบื้องต้นเพื่อต้องการจะช่วย สายตารวิเริ่มพร่ามัวเพิ่มขึ้นๆ สัญญาณชีพจรอ่อนแรงลงเรื่อยๆ แพรไพลินตรวจอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางด้านข้าง
"พี่รวิ... พี่ต้องเข้มแข็งผ่านวันนี้ไปให้ได้นะคะ เรายังมีเรื่องต้องปรับความเข้าใจกันอีกมาก"
แพรไพลินจับมือรวิไว้

“เราจะเริ่มต้นกันใหม่ ที่ผ่านมาฉันให้อภัยพี่จนหมดแล้วค่ะ”
รวิรับรู้ได้ แต่อาการแย่ลงเต็มที น้ำตาไหลออกมาด้วยตระหนักถึงความดีของแพรไพลินที่มีต่อเธอ
ทันใดนั้นชีพจรของรวิก็ลงต่ำลงจนเป็นเส้นตรง รวิหัวใจหยุดเต้น เสียชีวิตในที่สุด
แพรไพลิน พยายามเรียก
"ไม่... พี่รวิ... พี่รวิ"
แพรไพลินเศร้าน้ำตาคลอ มือยังคงจับรวิอยู่ เสียใจที่ไม่อาจช่วยอะไรได้แล้ว

วันเดียวกัน แต่ผ่านเวลามา บริเวณเซฟเฮ้าส์ใหม่ แสงกล้าได้รับการฝึกฝนจากสมิง แสงกล้าพยายามจ้องไปที่วัชระ แสงปรากฏบนวัชระนิ่งกว่าเดิม สมิงยิ้มพอใจ
แสงกล้ากำวัชระไว้ในมือซ้าย ส่วนมือขวาจับปืนแล้วเหยียดตรงกำลังเล็งยิงไปยังจุดหมายเบื้องหน้า แสงกล้ากดไกยิงเปรี้ยงออกไป กระสุนวิ่งแหวกอากาศ พุ่งกระแทก ตรงเข้าไปยังเป้าหมายจุดดำตรงกลางเป๋ง สมิงยกนิ้วให้ด้วยความพอใจ
แสงกล้าจ้องไปที่วัชระในมือ กำไว้แน่น แล้วเหยียดปืนในมือไปเบื้องหน้าอีกครั้ง ตรงเป้าเห็นจุดดำมีรอยทะลุตรงกลางเมื่อครู่.... แสงกล้ายิงเปรี้ยงออกไป กระสุนวิ่งแหวกอากาศอีกครั้ง คราวนี้พุ่งตรงเข้ากลางเป้าหมาย ทะลุตรงพอดีรอยทะลุของจุดดำเมื่อกี้พอดี
สมิงยกนิ้วพอใจให้สองมือเลย

เวลากลางคืน แพรไพลินเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าเศร้า เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความเครียดที่เกิดขึ้น กุ๊บกิ๊บตรงเข้ามาหาด้วยสีหน้าตกใจ
“หมอคะ... อาการคุณเพชรแท้ทรุดหนักค่ะ”
แพรไพลินตกใจ รีบออกไปกับกุ๊บกิ๊บ

เส้นกราฟชีพจรของเพชรแท้เต้นช้ามาก ด้านข้างเห็นแพรไพลินมองด้วยสายตาวิตก
"ให้ยากระตุ้นการเต้นของหัวใจแล้ว ไม่ได้ผลดีขึ้นเลยค่ะหมอ"
แพรไพลินสีหน้าไม่ค่อยดี มองหน้าแม่ด้วยความเป็นห่วง เสียงวิญญูดังก้องขึ้นในหัวแพรไพลิน
“เวลาของเพชรแท้ใกล้หมดแล้ว”
แพรไพลินหันขวับหาที่มาของเสียง
“แก"
"อะไรคะหมอ" กุ๊บกิ๊บถาม
แพรไพลินคิดได้จึงรีบกลบเกลื่อน
"เอ้อ.. เปล่า ไม่มีอะไรหรอก"
“หมอก็เห็นแล้ว ถึงรวิจะผ่าเอาลูกสะกดวิญญาณออกไปได้ แต่ก็ยังอาการปางตาย ทางเดียวที่แม่ของหมอจะรอดได้ คือชิงวัชระจากแสงกล้ามาให้ฉัน หมอมีเวลาตัดสินอีกไม่นานหรอกนะ" วิญญูบอก
แพรไพลินอึ้ง น้ำตาคลอมองแม่ด้วยความเป็นห่วง พยายามระงับสติอารมณ์ไม่ให้ฟูมฟายมากไปกว่านี้ เพชรแท้ที่ยังคงหลับไหลไม่ได้สติ
แพรไพลินสูดลมหายใจเต็มแรง เช็ดน้ำตา สีหน้ามุ่งมั่นคล้ายตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ เธอลุกขึ้นเดินออกไป

แพรไพลินเดินเข้ามาตามทางเดิน และกำลังโทรศัพท์หาแสงกล้า สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
"แสงกล้า... ฉันมีเรื่องด่วนจะปรึกษา พรุ่งนี้ออกมาพบกับฉันได้มั้ย"
แพรไพลินสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะเหมือนกำลังหลอกให้แสงกล้าออกมาพบเพื่อวัชระ

วันใหม่ บริเวณเซฟเฮ้าส์ใหม่ จ่าหวานกับดาบแหบกำลังถอดประกอบอาวุธปืน ทำความสะอาดกันอยู่ ทำความสะอาดไปพลาง ทะเลาะกันไปพลาง
สมิงเดินเข้ามามองไปทางซ้ายทีขวาทีแล้วถามหา
"มีใครเห็นหมวดแสงกล้ามั้ย"
"ไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้ว" ดาบแหบบอก
“ไปไหนวะ”
สมิงพยายามมองตามหา

ริมน้ำสวยแห่งหนึ่ง แพรไพลินยืนนิ่งมองสายน้ำที่กำลังไหลไปอยู่เบื้องหน้า นึกถึงเรื่องราวที่เธอที่จำเป็นต้องทรยศต่อแสงกล้าแล้วไม่สบายใจ
เธอหันไปมองที่มุมหนึ่ง เห็นแสงกล้ากำลังเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเป็นห่วงเธออยู่ไม่น้อย
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมหน้าตาคุณดูไม่สบายใจเลย”
แพรไพลินอึกอักบอก
“เกิดเรื่องนิดหน่อยค่ะ”
"มีเรื่องกับคุณแม่เหรอ"
"เปล่าค่ะ"
แพรไพลินชำเลืองมองวัชระที่ห้อยคอแสงกล้า แต่พอแสงกล้าจ้องหน้าเธอ เธอก็รีบหลบสายตาเขาทันที
“มีอะไรให้ผมช่วยมั้ย”
“จำเรื่องที่เราคุยกันได้มั้ย คุณเคยบอกว่าไม่มีอะไรสำคัญกว่าคนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแม่ เราควรจะดีกับท่าน ในยามที่ท่านยังอยู่บนโลกใบนี้”
“จำได้สิ... ผมยังนึกอิจฉาที่คุณยังมีแม่ให้กอด”

“วันเกิดของแม่ แม่มาหาฉันที่บ้าน เราคุยกันหลายเรื่อง ความขัดแย้งระหว่างเราไม่เหลืออีกแล้ว ฉันรู้แล้วว่าแม่กับฉันผูกพันกันมากแค่ไหน”
“ฟังดูแล้วก็น่าจะดี คุณเศร้าทำไม”
“คุณจะทำยังไง... ถ้าความรักที่มีต่อคนๆ นึง อาจทำร้ายความรู้สึก ทำลายความเชื่อใจของคนอีกคนที่มีให้กับเรา”
แสงกล้า ยิ้มๆบอก
“พูดยังกับคุณกำลังจะมีกิ๊ก”
“ฉันพูดจริงจังนะคะแสงกล้า คุณจะเลือกอะไร ระหว่างความรักต่อผู้มีพระคุณ กับความรักกับคนที่เราผูกพันกับเขามากที่สุด”
แสงกล้าจ้องหน้าแพรไพลินด้วยรู้สึกได้ว่าเธอมีอาการผิดปกติ และมีเรื่องรุมเร้าอยู่ในใจเธอ
"คุณแม่ห้ามไม่ให้คุณคบกับผม"
แพรไพลินพยายามระงับอารมณ์ไม่ให้เศร้าแล้วบอก
“เปล่าค่ะ.. ไม่ใช่ ขอกอดหน่อยได้มั้ย ฉันคิดถึงคุณค่ะแสงกล้า”
แสงกล้าอึ้งพูดไม่ออก แพรไพลินสวมกอดแสงกล้าไว้แน่นเหมือนไม่อยากจะเสียเขาไป
“ระหว่างเราสองคน... มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย มากซะจนฉันต้องยอมรับความจริงว่ารู้สึกยังไงกับคุณ ฉันรักคุณค่ะ... แสงกล้า”
แพรไพลินจ้องหน้าแสงกล้า เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้เหมือนจะจูบเขา ทั้งสองคนเคลื่อนใบหน้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วเธอเหลือบมองไปที่วัชระที่แสงกล้าใส่อีกครั้ง คราวนี้แสงกล้าเริ่มไหวตัว
"คุณจ้องวัชระที่คอผมสองครั้งแล้ว"
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันอยากจะบอกคุณว่า ฉันเสียใจ ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย แต่มันไม่มีทางเลือก"
แพรไพลินดึงสเปรย์ขวดเล็กๆ ออกมาที่หน้าแสงกล้า ฉีดใส่หน้าแสงกล้าฟุ้งกระจาย
แสงกล้ามึนพยายามเบิกตามองหน้าแพรไพลินที่พร่ามัวไม่ชัด เขาล้มคว่ำลงไปทันที แพรไพลินรีบประคองร่างแสงกล้าไว้ไม่ให้ล้ม เธอค่อยๆ ประคองเข้าไปที่อีกมุมหนึ่ง
“ฉันต้องทำเพื่อแม่... คุณคงเข้าใจนะคะ”
แพรไพลินจ้องไปที่วัชระเส้นนั้นแล้วดึงสร้อยที่ห้อยคอวัชระของแสงกล้าออกมา

แพรไพลินเดินเข้ามาหยุดที่หน้าบ้านจักร เธอสูดลมหายใจเหมือนกำลังรวบรวมความกล้า ประตูบ้านค่อยๆ เปิดออกและตัดสินใจเดินเข้าไปภายในบ้าน

ภายในโถงขมังเวทย์ แพรไพลินส่งสร้อยที่มีวัชระของแสงกล้าให้วิญญู วิญญูยิ้มพอใจรับวัชระไป
“ดีมาก ดอกเตอร์แพรไพลินไม่ทำให้ผมผิดหวัง”
“หวังว่าคงทำตามสัญญา แม่ฉันต้องหาย”
"แน่นอน แต่ต้องหลังจากพิธีหลอมศาสตราวุธ"
"อะไรนะ"
“ผมไม่ทำอะไรโดยขาดหลักประกัน หมอต้องไปกับผม”
วิญญูดีดนิ้วที่หน้าแพรไพลิน ฉับพลันเธอหมดสติล้มฮวบลงไปทันที วิญญูรีบประคองเธอไว้
วิญญูชูวัชระในมือ แสงไฟจากภายในโถงตกกระทบกับวัชระบังเกิดเป็นประกายเจิดจ้า

บริเวณที่ศาสตราวุธแต่ละชิ้นที่วางเรียงรายกันอยู่ ตรีศูลวัชระ, อนันตคทา, จักระนารายณ์ และสังข์ไชยมงคล วิญญูเดินเข้ามาพร้อมกับวัชระในมือ
วิญญูเดินเข้าไปที่ตรีศูล วางประกอบประกบวัชระเข้าไปในตรีศูล บังเกิดแสงประกายเจิดจ้าวาบขึ้น มีแสงบางๆ ฉาบเชื่อมศาสตราวุธทั้งสี่เข้าด้วยกัน แสงสว่างส่องประกายสะท้อนเข้าไปยังใบหน้าของวิญญู
วิญญูยิ้มพอใจ มองศาสตราวุธทั้งสี่ทีละชิ้น
“เยี่ยมมาก...ในที่สุดเราก็ได้ศาสตราวุธมาครบทั้งสี่ชิ้นแล้ว” จักรบอก
วิญญูหันขวับไปมอง เห็นจักรเดินเข้ามาพร้อมกับดาหลา
"ทีนี้ก็เหลือรอเวลาที่จะหลอมละลายของทั้งหมด เมื่อนั้นอำนาจและความยิ่งใหญ่ทั้งหมด...ก็จะตกอยู่ในมือของฉัน" จักรบอก
วิญญูจ้องจักรด้วยความไม่พอใจ
"ฉัน"
จักรอึกอักนิดหนึ่งแล้วเปลี่ยนคำพูด
“อยู่ในมือเรา”
วิญญูพยักหน้าพอใจ หันไปสั่งดาหลา
"เตรียมคนให้พร้อม เราจะขนย้ายของทั้งหมดไปทำพิธีภายในวันพรุ่งนี้"
“จะขนย้ายไปที่ไหน” ดาหลาถาม
"ภายในถ้ำใต้ภูผามหาคีรี ที่ๆ สร้างศาสตราวุธทั้งสี่ชิ้น อำนาจและความยิ่งใหญ่กำลังรอเราอยู่ที่นั่น"
วิญญูสีหน้าเข้ม พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว สายตาจ้องไปที่ศาสตราวุธทั้งสี่ชิ้นที่มีแสงประกายสะท้อนดูขรึมขลัง

นภากับพวกกำลังประชุมเรื่องที่จะเล่นงานจักรกับวิญญู
"พรุ่งนี้ก็จะถึงฤกษ์ที่จ่าสมิงเคยบอกใช่มั้ย" อินทนนท์ว่า
“ใช่ครับ... พรุ่งนี้เป็นคืนเดือนดับ วันที่ โลก พระอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน ถ้าพ้นพรุ่งนี้ไป...มันก็ต้องรออีกยาว เรามีเวลาเล่นงานพวกมันอีกหลายรอบ"
มุมหนึ่ง.. แสงกล้าเดินคอตกเข้ามา สมิงหันไปเห็นเข้า ก็มีสีหน้าแปลกใจที่เห็นอาการของแสงกล้า
"เป็นอะไร ทำไมหงอยเกินเหตุ"
"พวกมันได้วัชระไปแล้ว" แสงกล้าบอก
"อะไรนะ"
"พวกมันใช้ดอกเตอร์แพรไพลินเป็นเหยื่อล่อ เอาวัชระไปได้แล้ว"
ทุกคนมีสีหน้าตกใจ

บริเวณเจดีย์กลางน้ำ เวลากลางวัน วันเดียวกัน ศาสตราวุธทั้งสี่ถูกวางเป็นมุมเป็นเหลี่ยมใกล้ฐานเจดีย์ วิญญูยืนนิ่งจ้องไปที่ศาสตราวุธทั้งสี่ที่มีลำแสงพุ่งออกมาจากศาสตราวุธมากระทบร่างที่ยืนอยู่ตรงกลาง แล้วพุ่งตรงไปที่กลางลานด้านหน้า
บริเวณลานด้านหน้า แสงวาดเป็นแผนที่เส้นทางไปยังถ้ำใต้ภูผามหาคีรี
“ถ้าเดาไม่ผิด... ตอนนี้วิญญูกำลังใช้ศาสตราวุธชี้นำไปสู่ถ้ำใต้ภูผามหาคีรี เป็นเรื่องละทีนี้... คืนพรุ่งนี้ไอ้พญามารวิญญูหลอมรวมศาสตราวุธทั้งสี่แน่ๆ” สมิงพูดขึ้น
วิญญูสีหน้าเหี้ยม

นภาสีหน้าไม่ค่อยดีนักเมื่อรู้เรื่องทั้งหมด หันมาถามสมิง
“จ่ารู้มั้ยว่ามันจะหลอมของทั้งหมดที่ไหน”
“ไม่รู้หรอกครับ ศาสตราวุธทั้งสี่จะชี้เป้าให้ผู้ครอบครองรู้เอง”
"เสร็จกัน...ถ้าอย่างนั้นเราจะรู้ได้ยังไงว่าที่ไหน" อินทนนท์ว่า
แสงกล้าดึงโทรศัพท์ออกมาเห็นแผนที่ปรากฏอยู่บนจอภาพ มีจุดแสดงพิกัดสว่างวาบๆ
“ผมรู้ว่าพวกมันกำลังจะไปที่ไหน”

เมื่อตอนที่แพรไพลินมาพบแสงกล้าที่ริมน้ำสวย เธอกำลังพูดกับแสงกล้าอย่างจริงจัง
"ระหว่างเราสองคน... มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย มากซะจนฉันต้องยอมรับความจริงว่ารู้สึกยังไงกับคุณ ฉันรักคุณค่ะ.. แสงกล้า"
แพรไพลินจ้องหน้าแสงกล้า เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้เหมือนจะจูบเขา ทั้งสองคนเคลื่อนใบหน้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วเธอเหลือบมองไปที่วัชระที่แสงกล้าใส่อีกครั้ง คราวนี้แสงกล้าเริ่มไหวตัว
"คุณจ้องวัชระที่คอผมสองครั้งแล้ว"
แสงกล้าแอบหยิบเครื่องติดตามตัวขนาดเล็กออกมา แอบใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อด้านล่างของ
แพรไพลินโดยเธอไม่รู้ตัว
"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันอยากจะบอกคุณว่า ฉันเสียใจ ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย แต่มันไม่มีทางเลือก"
แพรไพลินดึงสเปรย์ขวดเล็กๆ ออกมาที่หน้าแสงกล้า ฉีดใส่หน้าแสงกล้าฟุ้งกระจาย

หน้าจอโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของแสงกล้าที่พิกัดกำลังสว่างวาบๆ ตามแผนที่
"ผมผิดสังเกตกับอาการของแพรไพลิน เลยแอบติดเครื่องติดตามตัวไว้ ก่อนจะหมดสติไป"
“เรามีทางตามพวกมันเจอแล้วนภา” อินทนนท์บอก
นภาหันไปสั่งลูกน้อง
“ส่งพิกัดจีพีเอสนี้แจ้งไปที่คมศร ส่งกำลังสนับสนุนมาด่วนที่สุด เรากำลังจะเปิดสงครามครั้งสุดท้ายกับพญามาร ฉันจะพิสูจน์ให้ไอ้พวกชั่วนั่นเห็นว่า... ความดีไม่มีวันตาย”
นภาสีหน้ามุ่งมั่น ท่ามกลางความฮึกเหิมของทุกคน

ภาพอินเตอร์ลูดรายงานข่าวด่วนจากสกายนิวส์เน็ตเวิร์ค น้ำใส ภูมิภักดิ์ยืนรายงานข่าวอยู่ที่ตรงกลาง มีกราฟิกสวยงามอยู่ด้านหลัง พร้อมภาพข่าวจากสกู๊ปจริง
“ขอขัดจังหวะท่านผู้ชม...ด้วยข่าวด่วนนะคะ ขณะนี้มีรายงานว่าเกิดพายุไต้ฝุ่นขึ้นในแถบเอเชียตะวันออก ซึ่งมีความเร็วลมและอำนาจทำลายล้างรุนแรงมาก คาดว่าจะพัดเข้าชายฝั่งญี่ปุ่นภายในค่ำคืนวันนี้ นับเป็นพายุลูกที่ห้าในรอบปีนี้ ผลกระทบของพายุลูกนี้ ทำลายภาวะเศรษฐกิจและการเมืองโดยตรงกับประเทศในภูมิภาคแถบนี้ทั้งหมดค่ะ"
ข่าวตัดเข้าภาพการทำลายล้างของพายุไต้ฝุ่น
“เป็นที่น่าสังเกตว่า เกิดภัยธรรมชาติขึ้นบ่อยครั้ง และถี่มากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่มหันตภัยสึนามิเมื่อปีก่อน ราวกับโลกนี้กำลังจะเกิดอาเพทที่เราคาดการณ์ไม่ได้เลย”
จอภาพขนาดใหญ่กลางสี่แยก มีภาพการเกิดภัยธรรมชาติดูน่ากลัว ผู้สื่อข่าวอีกคนหนึ่งของสถานีอื่นรายงานข่าวเช่นเดียวกัน
“เกิดพายุหิมะถล่มที่อเมริกาตะวันตก นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายร้อยปีที่เกิดหิมะตกในเขตทะเลทราย ในเบื้องต้นยังประเมินค่าความเสียหายไม่ได้ แต่น่าจะเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ ต่อระบบเศรษฐกิจรวมของทวีปอเมริกา”
ที่ห้องข่าวครอบครัวข่าว 3 มีภาพผู้สื่อข่าวที่มีชื่อกำลังรายงานข่าวมหาอุทกภัย มีภาพผู้คนเดือดร้อนมากมาย
อีกมุมหนึ่งของห้องส่งอีกแห่งหนึ่ง มีภาพผู้สื่อข่าวกำลังรายงานข่าวเศรษฐกิจด้วยสีหน้าจริงจัง
“จากความตกต่ำทางเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้มีการประมาณการว่า ทั่วทั้งโลกจะต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 5 ปี ซึ่งขณะนี้ส่งผลกระทบแล้วกับตลาดหุ้นในทุกภูมิภาค ราคาหุ้นตกต่ำมากที่สุดเท่าที่เคยเปิดตลาดมา"
ภาพข่าวปรากฏภาพตลาดหุ้นที่ตกกระจาย ผู้คนดูสับสนอลหม่าน

ภายในอุโมงค์ มีแสงลอดลงมาเป็นสายริ้วดูสวยงาม เทวาศาสตราวุธทั้งสี่ชิ้นกำลังถูกนำมาวางเรียงรายกันเป็นแนว ด้านหน้าเป็นบ่อหลอมรวมศาสตราวุธขนาดย่อมๆ เตรียมพร้อมสำหรับพิธีในตอนกลางคืน
“วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกตอนนี้ เกิดจากการครอบครองศาสตราวุธทั้งสี่ของเราใช่มั้ย”
วิญญูที่ยืนจ้องอยู่ที่ด้านหน้า หันไปมองจักรด้วยใบหน้าและแววตานิ่งๆ แต่ดุดัน
“อำนาจและบารมีที่ยิ่งใหญ่ กำลังจะเป็นของเรา”
“นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีผลต่อทั่วทั้งโลก” จักรบอก
“อำนาจจะไม่หยุดแค่ที่นี่ เราจะยึดครองและปกครองผู้ที่อ่อนแอกว่าทุกคน โลกใบนี้จะกลายเป็นอาณาจักรเพียงหนึ่งเดียวของเรา ! อีกไม่นานหรอกจักร” วิญญูว่า
“วันนี้คือวันที่ฉันรอมาทั้งชีวิต” จักรว่า

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 1 ม.ค. 56

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2 ผลิตโดย : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manage