@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 21 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 21 ธ.ค. 55

แพรไพลินรู้สึกแปลก ๆ ที่แสงกล้าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอยังจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนั้นได้
“เปิดประตู เรายังคุยกันไม่จบ”
“กลับไปซะ !เราไม่มีอะไรจะคุยกันแล้ว”
แสงกล้ายังคงเคาะประตูจะให้แพรไพลินเปิด
“ฉันบอกให้คุณกลับไป ฉันจะทำงาน เลิกยุ่งกับชีวิตฉันซะที กลับไป กลับไป !”
เขายิ้มแย้มตรงหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเลยตัดสินใจไม่พูดถึงเรื่องที่เคยทะเลาะกัน
“ผลการตรวจสอบเป็นยังไงบ้างครับ”

“วิเคราะห์จากปลอกกระสุน มาจากกระสุนจุดสามแปดทั้งหมด แต่มีเรื่องผิดปกติอยู่ข้อหนึ่ง”
“อะไรครับ”



แพรไพลินเคาะโน้ตบุ๊ก ปรากฏภาพปลอกกระสุนและเห็นยี่ห้อหนึ่งชัดเจน
“ปลอกกระสุนทุกนัด ยี่ห้อ ...”
แพรไพลินเคาะคีย์บอร์ดต่อ ภาพบนจอปรากฏภาพปลอกกระสุนอีกอันหนึ่งเพื่อเปรียบเทียบกับของเดิม
“แต่มีอยู่นัดหนึ่งไม่ใช่ ปลอกกระสุนนัดนี้ ยี่ห้อ ...”
“หมายความว่ายังไง”
“เป็นไปได้ว่ากระสุนนัดนี้ถูกยิงมาจากปืนกระบอกอื่น”
“แสดงว่ามีบุคคลที่สามฆ่าผู้กองคราม”
“หลักฐานชี้ไปทางนั้น”
“แล้วเราจะสืบหาตัวได้ไง ในเมื่อไม่มีหลักฐานอื่น”
“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา ฉันกำลังตรวจสอบลายนิ้วมือที่ติดอยู่บนปลอกกระสุนนัดนี้ว่าเป็นของใคร”
“ตรวจสอบลายนิ้วมือ?”

ภาพกราฟิกบนจอเห็นมือ ๆ หนึ่งกำลังบรรจุกระสุนอต่ละนัดปืนลงในแมกกาซีนปืน
“คนที่บรรจุกระสุนลงในแมกกาซีนต้องทิ้งลายนิ้วมือไว้ที่ปลอกกระสุนฉันกำลังจะเอาลายนิ้วมือนั้นมาตรวจสอบ”
ภาพกราฟฟิคกำลังทำการประมวลผลลายนิ้วมือ กับบุคคลต่าง ๆ เปลี่ยนใบหน้าไปเรื่อยๆ
“คุณกำลังตรวจกับใคร”
“เริ่มจากฐานข้อมูลใกล้ตัวที่สุด ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเพชรยอดสังข์"
แสงกล้าหันไปมองหน้าจออย่างทึ่ง ๆ แล้วจึงหันไปทางแพรไพลิน
“แขกมาถึงบ้าน ไม่มีกาแฟบริการเหรอครับ”
“เข้าออกได้จนเหมือนบ้านคุณ ต่อไปก็บริการตัวเองแล้วกัน”
“กาแฟสองน้ำตาลหนึ่ง ครีมไม่ต้องครับ”
แพรไพลินมองแสงกล้าอย่างระอาเล็ก ๆ ลุกขึ้น เดินออกไปชงกาแฟให้ แสงกล้ามองตามแล้วยิ้มให้

บนถนนสายหนึ่ง รถคันหนึ่งพุ่งเข้ามาชนรถแท็กซี่อย่างจัง แสงกล้าลงจากรถแท็กซี่ด้วยท่าทางหงุดหงิด !
“ให้มันได้งี้สิ ยิ่งรีบยิ่งช้า”
แสงกล้าตัวจริงอยู่ตรงนี้ ! ไม่ใช่คนที่อยู่กับแพรไพลิน

ขมังเวทย์ที่จำแลงเป็นแสงกล้ามองไปยังคอมพิวเตอร์ที่วิเคราะห์ลายนิ้วมือ แล้วจึงลุกขึ้นเดินออกไปมองหาแพรไพลินก่อนเดินตรงมาจับเม้าท์ที่โน้ตบุ๊ก
แพรไพลินเข้ามาพอดีถาม
“ทำอะไร”
“ผมอยากรู้ผลวิเคราะห์”
“อย่ามายุ่งเครื่องมือฉัน โน่น...ฉันเอากาแฟมาให้แล้ว”
แสงกล้าลุกถอยหนีไปที่โต๊ะ แพรไพลินเข้ามานั่งหน้าคอมเพื่อจะตรวจหาผล แสงกล้าสายตาเจ้าเล่ห์คิดอะไรบางอย่าง

บนถนน แท็กซี่กำลังทะเลาะกันอย่างรุนแรงกับคนขับรถอีกคันหนึ่ง แสงกล้ายืนเท้าเอวมองแล้วไม่ค่อยสบอารมณ์ ยกวิทยุและวอออกไป
“เกิดอุบัติเหตุที่ถนน...”
พญ. แพรไพลิน นวิยากุลกำลังประมวลผลที่จอ วิเคราะห์ผลเป็นภาพผู้ต้องสงสัยทีละคน ๆ
แล้วคอมพิวเตอร์ที่ประมวลผล...ปรากฎเป็นภาพของ จักร อมตฤทธา พร้อมตัวหนังสือปรากฏกระพริบถี่ ๆ
Matching... 98%”
“จักร…”
แพรไพลินรีบเอาแฟลชไดร์ฟอันหนึ่งเสียบเข้าไปที่โน้ตบุ๊ก กดปุ่มถ่ายข้อมูลทั้งหมดสำรองไว้ทันที
ทันใดนั้นภาพในจอก็ดับลงทันที เธอหันไปเห็นแสงกล้าคัทเอาท์ระบบไฟในห้องแลป
“ทำบ้าอะไร”
“จำเลยของคุณเป็นถึงรองนายก ผมไม่อยากให้คุณทำคดีนี้ มันอันตรายเกินไป"
“หน้าที่ของเราคือสืบหาความจริง ถ้ามัวแต่กลัวแล้วใครจะปกป้องผู้บริสุทธิ์ การหยุดหรือยอมแพ้ก็เท่ากับเราสมรู้ร่วมคิดกับคนชั่ว"
“ผมไม่อยากให้คุณต้องเสียชีวิตอย่างผู้กองคราม มันไม่คุ้มกันหรอก ผมเป็นห่วงคุณมากนะ"
แสงกล้าเข้ามากอดแพรไพลิน แพรไพลินตกใจ
“ผมรักคุณ”
แพรไพลินหันมามองแสงกล้าแล้วค่อย ๆ เอามือจับที่ต้นคอของเขา เธอแปลกใจสังเกตเห็นว่าไม่มีสร้อยคอ เธอนึกถึงอดีตที่แสงกล้าเข้ามาหาแพรไพลินที่เนติเทค
“เอ๊า..รู้แล้วยังมาล็อคตัวอีก ดูสิ..สร้อยผมเกือบขาดเลย”
แสงกล้าดึงสายสร้อยออกมาดู แพรไพลินมองเห็นเป็นสร้อยพระ
วินาทีนั้น แพรไพลินรู้ได้ทันทีว่าคน ๆ นี้ไม่ใช่แสงกล้า เธอถอยออกห่างออกมาทันที
“จริงสิ...ฉันจะเสี่ยงชีวิตเพื่ออะไร มันไม่มีประโยชน์เลย”
แสงกล้ายิ้มพอใจ
“เดี๋ยวฉันไปหาของให้คุณทานดีกว่า”
แพรไพลินเดินออกไปโดยผ่านโน้ตบุ๊ก และรีบดึงเอาแฟลชไดร์ฟที่เสียบไว้ออกมา
“ขอบคุณครับ”
แสงกล้ามองตามแพรไพลินออกไปด้วยสายตาไม่ไว้ใจ และหันกลับมามองที่โน้ตบุ๊กบนโต๊ะเหมือนรู้ว่าแพรไพลินคิดจะทำอะไร

พญ. แพรไพลิน นวิยากุลเดินเข้ามาอีกห้องหนึ่งด้วยความรู้สึกกลัวและตกใจ เพราะไม่รู้ว่าใครปลอมตัวเป็นแสงกล้า!!
เธอมองแฟลชไดร์ฟที่เธอแอบนำออกมาแล้วรีบเดินหนีเพื่อออกไปจากบ้านให้เร็วที่สุด แต่เจอแสงกล้าขวางไว้
“จะไปไหน”
“เอ้อ...อาหารในตู้เย็นหมด ฉันจะออกไปซื้อ คุณรอฉันก่อนนะ”
“ไม่ต้อง ผมยังไม่หิว”
แสงกล้าเดินเข้ามากอดแพรไพลิน แล้วดึงเอาแฟลชไดร์ฟมาจากมือแพรไพลิน
“ผมอยากได้ข้อมูลนี่มากกว่า”
“คุณ !”
“คิดจะเอาข้อมูลหนีไป ไม่ง่ายไปหน่อยเหรอครับดอกเตอร์”
“แกเป็นใคร”
“แสงกล้า”
“แสงกล้าไม่ใช่คนสุภาพ ไม่ดื่มกาแฟ สวมสร้อยพระติดตัว”
แสงกล้า ยิ้มเหี้ยมเยือกเย็น
“เยี่ยมมากสมกับเป็น ผอ.เนติเทค แต่น่าเสียดาย...คดีนี้ปิดแล้ว”
แสงกล้าบีบแฟลชไดร์ฟในมือแหลกเป็นผุยผง
“แกเป็นใครกันแน่”
“ฮึ ๆ ๆ”
เธอหันไปมองในกระจกเงา เห็นร่างขมังเวทย์สะท้อนอยู่...แล้วจู่ ๆ กระจกก็แตกละเอียด
แพรไพลินหันกลับมาเจอขมังเวทย์ยืนอยู่ตรงหน้า
“ฮึ ๆ ๆ”
เธอรีบวิ่งหนีออกไปจากห้องทันที

แพรไพลินพยายามจะวิ่งออกไปจากบ้าน แต่แล้วเธอก็ถูกสะกดให้หยุดนิ่งไว้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวใดๆได้ เธอหันกลับมาเจอขมังเวทย์ยืนยิ้มเหี้ยมมองอยู่
“ฉันชอบผู้หญิงเก่ง”
ขมังเวทย์มองยิ้มแล้วเริ่มสะกดแพรไพลินที่เริ่มรู้สึกกลัว

บนท้องถนน ตำรวจจราจรกำลังเจรจากับแท็กซี่และคนขับที่ยังไม่ยอมลงให้กัน แสงกล้ายังคงละล้าละลังหาแท็กซี่ แต่ยังไม่มีสักคันที่จะผ่านมา ตำรวจหันมาพูดกับแสงกล้า
“ช่วงนี้หาแท็กซี่ยากครับหมวด”
แสงกล้าท่าทางหงุดหงิด จนในที่สุดมีแท็กซี่คันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอด แสงกล้ารีบขึ้นรถแท็กซี่คันนั้นออกไปทันที

ภายในทาวน์โฮม ขมังเวทย์มองตรงไปยังแพรไพลินที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยแววตาหวาดกลัว
“หมอเก่งกว่าที่คิดเยอะ ฉันมีวิธีทำให้เราเป็นมิตรกันมากกว่านี้”
ขมังเวทย์จ้องเขม็งตรงไปยังแพรไพลิน... ลูกสะกดที่บริเวณท้ายทอยกำลังเปล่งรังสีควบคุมบังคับ
เธอมีสติแต่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอมือสั่นค่อย ๆ เคลื่อนเอามือปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด ๆ แม้ว่าเธอจะพยายามฝืน แต่ไม่อาจขัดจิตของขมังเวทย์ที่บงการอยู่ได้
ขมังเวทย์ยิ้มเหี้ยมด้วยความพอใจ

ในเวลาต่อมา รถแท็กซี่แล่นมาจอดที่ถนนหน้าทาวน์โฮม แสงกล้าลงมาจากรถ แล้วเดินไปยังทาวน์โฮมโดยไม่เร่งรีบ เพราะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแพรไพลิน

แสงกล้ากำลังจะเข้าไปในบ้านก็มองเห็นแพรไพลินจากด้านหลัง เธอกำลังถอดเสื้อออก แสงกล้าเห็นแล้วตกใจแทบหันหน้าหนี
“เฮ้ย..มาผิดเวลา”
เขาหันหลังหนีจะเดินออกไป แต่ก็หยุดคิดโดยพลัน บอกกับตัวเองตามสัญชาติญาณ “ไม่ใช่..ไม่ใช่นิสัย”
แสงกล้าหันกลับไปมองเห็นด้านหลังของแพรไพลิน และเห็นขมังเวทย์กำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอ
แสงกล้ารีบพุ่งเข้าไปภายในทาวน์โฮมทันที
แพรไพลินรู้สึกกลัวแต่ขยับตัวไม่ได้ ขมังเวทย์เดินตรงมาหา ไล้มือไปตามใบหน้า...
ดวงตา.. จมูก.. และริมฝีปากของเธอ
“อีกไม่นาน เราจะเป็นพวกเดียวกัน ทั้งจิตและวิญญาณ ฮึ ๆ”
ขมังเวทย์จับไหล่ทั้งสองข้างเธอ และกำลังจะดึงร่างเธอเข้ามากอดไว้
ที่มุมหนึ่ง แสงกล้าพุ่งเข้ามาพร้อมกับปืนในมือ ยิงกระสุนเข้าใส่ขมังเวทย์ เปรี้ยง!
กระสุนปืนนัดหนึ่งพุ่งตรงเข้ามายังร่างขมังเวทย์ ขมังเวทย์หันไปมอง ฉับพลันลูกกระสุนหยุดกลางอากาศทันที ขมังเวทย์ยิ้มแล้วสะบัดหลังมือ กระสุนกลับไปยังแสงกล้า เขาหลบกระสุนได้หวุดหวิด !
“รู้มั้ย โทษของพวกมารคอหอยเป็นยังไง”
ขมังเวทย์หันมาจ้องมองแสงกล้าอย่างไม่เกรงกลัว
“แกก็รู้ใช่มั้ยว่าโทษของพวกขืนใจเป็นยังไง”
แสงกล้ารัวปืนยิ่งใส่ขมังเวทย์เปรี้ยง ๆ ๆ แต่กระสุนก็ยังคงหยุดเป็นกลุ่ม หนำซ้ำยังกระเด็นกลับออกไปยังร่างของแสงกล้าจนเขาต้องหลบพัลวัน
“น่าเบื่อพวกแมงหวี่แมลงวัน !”
ทั้งคู่เดินเร็วผ่านหน้าแพรไพลินซึ่งยังบังคับตัวเองไม่ได้ แววตาเธอรู้สึกเป็นห่วงแสงกล้า

ในบริเวณห้องแลปทาวน์โฮม ขมังเวทย์เดินเข้ามาในห้องมองหาแสงกล้า เขาซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งด้านหลังโต๊ะ ขมังเวทย์แววตาแข็งกร้าวมองหา
ทันใดนั้นโต๊ะที่เขาหลบอยู่ก็ลอยขึ้น ขมังเวทย์บังคับให้โต๊ะลอยหวือเข้าใส่แสงกล้า ข้าวของกระจาย
แสงกล้าล้มคว่ำไม่เป็นท่า ตัดสินใจยิงสวนป้องกันตัว เปรี้ยง ๆ จนกระทั่งกระสุนหมดแล้วโดดหนีไป กระสุนลอยอยู่รอบ ๆ ตัวขมังเวทย์ ขมังเวทย์ปาดมือรวบหัวกระสุนทั้งหมดไว้ในกำมือเดียว
แล้วตามแสงกล้าออกไป

แสงกล้าเข้ามาหลบที่มุมพุ่มไม้ด้านหนึ่ง แกะแมกกาซีนออกมาดูเห็นว่ากระสุนหมด สีหน้าของเขาไม่ค่อยดี แสงกล้าหยิบกระสุนอาคมที่สมิงเคยให้มา เขายกขึ้นมาดูเห็นอักขระชัดเจน
"เอาวะ...”
แสงกล้าเอากระสุนอาคมทั้งสามนัดใส่ในแมกกาซีน แล้วกระแทกกลับเข้าไปในกระบอกปืนอย่างเดิม ขมังเวทย์เดินออกมามองหาแสงกล้า แล้วจึงโปรยเหวี่ยงหัวกระสุนในมือออกเต็มแรง
หัวกระสุนพุ่งเข้าใส่บริเวณที่แสงกล้าหลบอยู่ จนเขาต้องกระโดดหลบออกมาแทบไม่ทัน
กระสุนเหล่านั้นโดนพื้น โดนต้นไม้ โดนพุ่มไม้ บังเกิดแสงแปลบปลาบดูน่ากลัว..
แสงกล้าลุกขึ้นมา วาดปืนในมือยิงกระสุนอาคมเข้าใส่ขมังเวทย์...เปรี้ยง !
กระสุนพุ่งเข้าหาขมังเวทย์อย่างรวดเร็ว แล้วค่อย ๆ ลดความเร็วลง ขมังเวทย์เอามือคว้ากระสุนไว้ได้อีกครั้งโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ
“อ้าว.. ไหนบอกว่าของดีของแรง ไม่ได้เรื่อง”
แสงกล้าชะงักเมื่อเห็นว่ากระสุนอาคมไม่สัมฤทธิ์ผล ขมังเวทย์ยิ้มเหี้ยมสะใจ

บริเวณกำแพงของทาวน์โฮม จ่าสมิงเหวี่ยงตัวปีนกำแพงโดดข้ามลงมาบริเวณด้านใน ด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ
“จะใช้ของไม่บอกกันสักคำ!”

ขมังเวทย์หัวเราะที่แสงกล้าทำอะไรไม่ได้ ชูหัวกระสุนอาคมในมือให้แสงกล้าเป็นเชิงเย้ย ๆ
"ฮึ ๆ"
ขมังเวทย์ขว้างหัวกระสุนในมือใส่แสงกล้า เขาตัดสินใจยิงปืนสวนออกไปทันที... เปรี้ยง !

สมิงจ้องไปยังการต่อสู้ระหว่างขมังเวทย์กับแสงกล้า และจ้องไปยังกระสุนปืน

หัวกระสุนอาคมของแสงกล้าพุ่งเข้าไปหาขมังเวทย์อย่างรวดเร็ว กระทบกับกระสุนที่
ขมังเวทย์ขว้างออกมา เกิดแสงวาบที่ปลายกระสุน…แล้วพุ่งทะลวงผ่านกระสุนของขมังเวทย์
กระสุนพุ่งเข้าเจาะฝ่ามือขมังเวทย์จนเลือดพุ่งกระฉูด
“เฮ้ย... ได้ผลแล้ว”
ขมังเวทย์ตกใจไม่คิดว่ากระสุนของแสงกล้าจะทำร้ายตัวเองได้ ขมังเวทย์โดนมนต์สะกดของสมิง ทรุดร่างลงคุกเข่าด้วยความเจ็บปวดมาก ร้องเสียงดังออกมา
“อ๊าก”
สีหน้าของขมังเวทย์ดูอ่อนพลังและได้รับความเจ็บปวดอย่างรุนแรง

แพรไพลินที่นิ่งเหมือนกำลังถูกมนต์สะกด บริเวณท้ายทอยที่มีลูกสะกดฝังอยู่อ่อนแสงลง เหมือนคลายมนต์ขลังไปตามพลังของขมังเวทย์ ลำตัวของเธอถูกกระชากอย่างรุนแรงจนหลุดจากมนต์สะกด ทรุดลงแทบพื้น เธอเหลียวซ้ายแลขวา รีบคว้าเอาเสื้อมาใส่แล้วก้าวออกไปทันที

ขมังเวทย์ทรุดตัวลงแทบพื้น แสงกล้าก้าวเข้าไปใกล้พร้อมกับวาดปืนในมือเหยียดตรง
“หมดเวลาทำชั่วแล้ว”
แสงกล้ากำลังจะยิงขมังเวทย์ แพรไพลินวิ่งเข้ามาที่ด้านหนึ่ง
“แสงกล้าเป็นยังไงบ้าง”
แสงกล้าหันไปเห็นแพรไพลินปลอดภัยก็ดีใจ
"ผมไม่เป็นอะไร"
แสงกล้าหันกลับจะมายิงปืนใส่ขมังเวทย์ แต่ขมังเวทย์หายไปแล้ว แสงกล้ารีบวิ่งออกไปหมายจะตามล่าขมังเวทย์ แพรไพลินรีบตามออกไป

แสงกล้าตามขมังเวทย์มาอีกมุมหนึ่ง แต่ก็ไม่พบ
“อย่าตามไปเลยค่ะ มันอันตราย”
แพรไพลินจับแสงกล้าไว้ แสงกล้าหันกลับมามอง
“มันกำลังพลาดเป็นโอกาสเดียวที่จะเล่นงานมันได้”
"แต่ฉันเป็นห่วงคุณไม่อยากให้คุณต้องเสี่ยงอีก"
แสงกล้าหยุด แต่เห็นรอยเลือดที่ไหลออกจากแขนของแพรไพลินหยดลงพื้น เขารู้ได้ทันทีว่าเป็นขมังเวทย์ แสงกล้าจับแขนแพรไพลินแล้วเหวี่ยงออกไปอีกทางหนึ่ง แพรไพลินตัวปลอมกลายร่างเป็นขมังเวทย์ทันที
“แกหลอกฉันไม่ได้หรอก"
“แน่ใจเหรอ”
ขมังเวทย์ต่อสู้กับแสงกล้าด้วยมือเปล่าพักหนึ่ง เขาเสียท่าล้มลงไปอีกทางหนึ่ง หน้าคว่ำลงแทบพื้น
“ระวังนะคะ”
พอแสงกล้าเงยหันไปมอง เขาถึงกับต้องผงะ เพราะตรงหน้าเขาตอนนี้มีแพรไพลินสองคน ทั้งสองคนไม่มีรอยเลือดที่แขนอีกต่างหาก
“มันปลอมตัวเป็นฉัน!” แพรไพลินตัวจริงบอก
“คุณอย่าไปเชื่อมันนะ !”
แพรไพลินตัวปลอมวิ่งมาหาแพรไพลิน จนทำให้แสงกล้าสับสน สาดปืนไปมาแต่ไม่กล้ายิง
“ฉันเอง”
“ฉันเอง” แพรไพลินตัวปลอมบอกแล้วผลักแพรไพลินตัวจริงออกไป
“แกออกไป”

ตอนนี้แพรไพลินทั้งสองคนยืนอยู่คนละฝั่ง มีแสงกล้ายืนตรงกลาง ทั้งคู่พูด“ยิงมันเลย” ขึ้นพร้อมกันจนแสงกล้าสับสน
แสงกล้าแยกแยะไม่ออกว่า ใครเป็นตัวจริงตัวปลอม สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสนจนต้องตัดสินใจถามคำถามเพื่อให้แพรไพลินทั้งสองคนตอบ
“หมอแพร ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน”
แพรไพลินตัวจริงถาม
"อะไรนะ"
"ผมถามว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน"
“หน้าสิ่วหน้าขวานยังเล่นไม่เลิก อีคิวต่ำแบบนี้อย่าหวังว่าฉันจะเซ็นใบผ่านให้คุณเลย”
แสงกล้าได้ยินประโยคนี้ก็ตัดสินใจวาดปืนอย่างรวดเร็วยิงใส่ร่างแพรไพลินปลอมทันที... เปรี้ยง !
กระสุนปืนอาคมพุ่งเข้าใส่อกของแพรไพลินปลอม แทงทะลุฝังเข้าไปด้านในจนเลือดสาด

สมิงจ้องเขม็งไปยังกระสุนที่แสงกล้ายิง คล้ายปลดปล่อยพลังงานทั้งหมดเข้าไปในกระสุนนัดนั้น
บังเกิดแสงวาบไปทั่วร่างแพรไพลินตัวปลอมจนกลายร่างเป็นขมังเวทย์
ร่างของขมังเวทย์ทรุดลง สีใบหน้าเต็มไปด้วยความจ็บปวดมาก จากนั้นก็ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อรวบรวมพลังทั้งหมด
ฉับพลัน...บังเกิดเมฆหมอกบดบังไปทั่วทั้งผืนแผ่นฟ้า กลางวันกลับกลายเป็นกลางคืน ฟ้าแลบแปลบปลาบ ลมพายุพัดสาดเข้าใส่บริเวณนั้นจนแพรไพลินกับแสงกล้าแทบยืนไม่อยู่ สายฟ้าฟาดลงที่บริเวณนั้น...เปรี้ยง ! ร่างของขมังเวทย์หายวับไปทันที

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 21 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2 ผลิตโดย : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manage