@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 26 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 26 ธ.ค. 55

วิญญูทั้งเหวี่ยง ทั้งตบหลายครั้ง แต่รวิยังไม่ยอมคลายออกจากอ้อมกอดของวิญญู กอดรัดอยู่อย่างนั้น
“ฉันรักท่านนะคะ.. ฉันขอโทษ !”
รวิกระชากปืนพกออกมากดลงที่อกข้างซ้ายของขมังเวทย์ ลั่นไกตรงที่หัวใจ เปรี้ยง !
กระสุนอักขระของขมังเวทย์ แทงทะลุหน้าอก กระแทกตรงไปยังหัวใจของวิญญู เชาชะงักและหยุดคุ้มคลั่งไปทันที แววตาที่กำลังโดนสะกดเปลี่ยนไปทันที กลายเป็นแววตาเดิมของวิญญู

สมิงเบิกตากว้าง รับรู้ได้ว่าวิญญูออกจากอำนาจการควบคุมของเขาไปแล้ว
"เกิดอะไรขึ้น"

“มันกล้ามาก.. เสี่ยงใช้กระสุนอักขระยิงตัดขั้วหัวใจตัวเอง ! เพื่อออกจากการควบคุมของเหล็กไหลทมิฬ"
“เราจะทำยังไงต่อไป”
“รอมันฟื้น มันขัดอำนาจเหล็กไหลทมิฬไม่ได้ทุกครั้งหรอก”
สมิงและแสงกล้แววตาเครียดกังวลไม่น้อยไปกว่ากัน


ร่างวิญญูล้มคว่ำที่แท่นวางภาพอนันตคทา เลือดไหลออกมาจากบริเวณอก บาดเจ็บจากกระสุน
รวิกำลังประคองร่างวิญญูเพื่อจะพาไปยังแท่นแคปซูลชาร์จพลัง พลางหันไปทางลูกน้องจักรกับดาหลา
“ช่วยกันหน่อย เราต้องรีบนำท่านวิญญูไปที่แท่นก่อนจะสายเกินไป”
“ปล่อยให้ตายไปเถอะ! ถ้าฟื้นเดี๋ยวก็อาละวาดอีก” ดาหลาบอก
รวิเหยียดปืนในมือวาดตรงไปยังจักร
“ไม่ได้ขอร้อง แต่นี่เป็นคำสั่ง”
“แน่ใจนะที่ทำแบบนี้”
"ฉันรู้ตัวเสมอว่ากำลังทำอะไรอยู่"
ดาหลาขยับกระชากปืนจะยิงเข้าใส่รวิ แต่ช้ากว่า รวิยิง...เปรี้ยง ! เข้าใส่ดาหลา ปืนหล่นลงพื้นทันที รวิเบี่ยงปืนมาที่จักร เหยียดตรงจ่ออยู่ที่ตรงหน้าผากของจักร
“นัดต่อไป กลางหน้าผาก !”
จักรไม่มีท่าทางหวาดกลัว แต่จำต้องหันไปสั่งลูกน้อง
“เอาตัวมันไปไว้ที่แท่น”
ลูกน้องจักรตรงเข้าไปประคองร่างวิญญูไปวางไว้ที่แท่น โดยรวิถือปืนยืนคุมเชิงอยู่ตรงนั้น
ทันทีที่ร่างวิญญูนอนลงบนแท่นชาร์จพลัง รวิก็รีบเคลื่อนภาพอนันตคทาเข้ามาไว้ที่ด้านบนแท่นทันที
ฉับพลันบังเกิดเป็นแสงสว่างนวลพุ่งตรงจากภาพอนันตคทาตรงไปยังร่างของวิญญู
ร่างของวิญญูที่เลือดไหลนองอยู่นั้น เลือดกลับไหลเวียนกลับ กระสุนอักขระที่แทงเข้าไปยังขั้วหัวใจกลับหลุดออกมา
ร่างของวิญญูเริ่มหายใจได้รวยริน แต่ยังไม่ได้สติฟื้นขึ้นมา
“มั่นใจได้ยังไงว่ามันจะไม่คุ้มคลั่ง...เอาภาพวาดไปให้ไอ้สมิง”
“มั่นใจไม่ได้ ! ตราบใดที่รองฯ จักรไม่คิดจะทำอะไรบ้าง”
"เธอต้องการให้ฉันทำอะไร"
รวิจ้องหน้าจักรอยู่ตรงนั้น ยังไม่ตอบคำถาม

แสงกล้ากับสมิงเดินคุยกันอยู่ภายในบริเวณบ้าน สีหน้าของทั้งคู่ดูไม่ค่อยสบายใจนัก
“เมื่อไหร่พญามารถึงจะฟื้น” แสงกล้าถาม
“ชั่วเวลาหนึ่งตะวัน หนึ่งจันทรา”
"โชคดีที่จ่าชิงตรีศูลกับสังข์มาได้ ไม่อย่างนั้นป่านนี้พวกมันคงได้ศาสตราวุธไปถึงสามชิ้น"
สมิงนิ่งๆบอก
“ถ้าได้ไปสาม ก็เหมือนได้ไปสี่”
"ทำไม"
“เล็กๆ เคยมีใครบอกมั้ยว่าหมวดช่างสงสัย จำมัย จำมัย จำมัยตลอด”
“อย่ากวน ตอบ! ทำไมได้สามชิ้นเหมือนได้สี่ชิ้น”
“เพราะเทวาศาสตราวุธจะเรียกหากันเอง”
สมิงพูดพลางเดินไปที่แท่นซึ่งตอนนี้วางตรีศูลวัชระกับสังข์ไชยมงคลอยู่
“เรียกหากันเอง”
“ศาสตราวุธทั้งหมดมีพลังดึงดูดต่อกัน ถ้าได้มาสามชิ้น จะเกิดปรากฏการณ์บางอย่าง แสดงตำแหน่งของศาสตราวุธชิ้นที่สี่”
แสงกล้าคิดนิดหนึ่ง
“ระหว่างเรากับพญามาร ถ้าใครชิงศาสตราวุธของอีกฝ่ายมาได้ก่อน ก็เท่ากับได้ของครบทั้ง 4 ชิ้น”
“ถูกต้อง เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม”
สมิงพูดด้วยสีหน้าและแววตามุ่งมั่น

ภายในห้องทำงานของจักร รวิหันมายังจักรด้วยท่าทางมีมาดและไม่เกรงกลัวจักรเท่าไรนัก เพราะถือว่าตัวเองเป็นคนของวิญญูซึ่งมีอำนาจมืดเหนือจักรอยู่มาก
“เราต้องชิงตรีศูลวัชระกับสังข์ไชยมงคลกลับมา”
“พูดง่ายแต่ทำยาก วิญญูยังทำไม่ได้ ต้องนอนแบบเป็นซากศพอยู่อย่างนั้น” จักรบอก
"ท่านวิญญูทำไม่ได้ แต่รองจักรทำได้"
“ทำไมถึงมั่นใจ” ดาหลาถาม
รวิไม่ตอบดาหลา หันไปมองจักรด้วยสายตาเหยียดหยันเล็กน้อย
"ด้วยวิธีไหน" จักรถาม
“แค่รู้จักคิด รู้จักใช้อำนาจ คนที่ไม่รู้จักศักยภาพและอำนาจของตัวเองไม่มีวันก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ รองจักร...ท่านทำอะไรได้อีกมาก แค่รู้จักคิดให้มากขึ้น !”
จักรจ้องหน้ารวิด้วยความไม่พอใจนัก

วันใหม่ เวลากลางวัน เจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนพิเศษกำลังพาหญิงนักเที่ยว ผมสั้นทำสี แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ด ท่าทางเมามายเหมือนยังไม่สร่างเข้ามาตามทางเดิน
ดาบแหบกับจ่าหวานเดินเข้ามามอง
"ไปขุดมาจากไหนเนี่ย" ดาบแหบถาม
“ผับซอย 4 เมาโค้ก” เจ้าหน้าที่บอก
"โอ้โฮ.. สภาพดูไม่ได้เลย" จ่าหวานว่า
“หอบมาซื้ดต่อหน้าต่อตาสายตรวจ แถมยังบอกว่ารู้แหล่งขาย ขอมาสารภาพกับดาบ"
“กับฉันเนี่ยนะ !” ดาบแหบบอก
จ่าหวานกับดาบแหบชำเลืองมองหญิงนักเที่ยวท่าทางเมามายไม่ได้สติ

ในห้องสอบสวน หญิงนักเที่ยวนอนฟุบเมามายอยู่กลางโต๊ะสอบสวน ดาบแหบเดินเข้ามามอง
"เหม็นเหล้าหึ่ง"
จ่าหวานเดินตามเข้ามาพร้อมกับแฟ้มบันทึกการสอบสวน
"เอ้า รีบๆ สอบสวนเร็ว ชักช้าเสียเวลา คุณน้องบอกพี่มาเร็ว ซื้อยามาจากไหน”
จ่าหวานทำท่ารำคาญๆ เบื่อๆ เดินเข้ามาจะกระชากตัวหญิงนักเที่ยวขึ้น แต่กลับโดนกระชากตวัดแขนเล่นงานกลับจนแทบล้มคว่ำ
ดาบแหบกระชากปืนออกมาจะเล่นงานหญิงนักเที่ยว หญิงนักเที่ยวหันขวับมา ม้วนตัวเตะเข้าใส่มือข้างที่ถือปืนของดาบแหบ จนปืนหล่นลอยหวืออกไปจากมือ
"เฮ้ย แกเป็นใครกันใคร"
หญิงนักเที่ยวท่าทางเปลี่ยนไป เป็นกร้าวและดุดันมากกว่าเดิม ตวาดดาบแหบกับจ่าหวานลั่น
“หุบปาก แล้วรอรับคำสั่ง !”
ทั้งสองคนชะงักตกใจ

ภายในห้องทำงานของคมศร ในพรรคไทธิวัตถ์ เขากำลังเตรียมข้อมูลทางไอแพด แล้วนิ่วหน้าเมื่อเห็นมีอีเมล์เข้ามา เขาลากนิ้วเปิดเมล์นั้น
คมศรสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นแปลกใจ เมื่ออ่านเมล์
"คำสั่งแต่งตั้งเลขาส่วนตัวรองนายกฯจักร... เป็นไปได้ยังไง"
จักรเปิดประตูเข้ามาโดยไม่เคาะ คมศรชะงักไป
"รองจักร"
"ได้รับคำสั่งแต่งตั้งแล้วใช่มั้ย เริ่มทำงานวันนี้เลย นายต้องเป็นเลขาส่วนตัวของฉัน ปฏิเสธไม่ได้เพราะเป็นมติของพรรคฯ"
"แต่ว่า...”
จักรสวนขึ้นทันที
"เช้าวันนี้ฉันจะแถลงข่าวด่วน"
“เอ้อ.. ผมจะประสานงานกองงานสื่อมวลชน”
“ไม่ต้อง ! ฉันต้องการให้ไปร่วมแถลงข่าวกับฉัน มีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำ”
"เรื่องสำคัญ"
คมศรจ้องจักรอย่างค้นหาความจริง แต่จักรทำสีหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เดี๋ยวนี้.. นี่คือคำสั่ง !”
คมศรพยายามระงับอารมณ์ จักรเดินออกไป

วันเดียวกัน ภายในร้านกาแฟดีไซน์ดิบๆแห่งหนึ่ง ประตูร้านถูกเปิดออก ผู้การอินทนนท์ที่มีสีหน้ารีบเร่ง แววตาไม่ค่อยสบายใจนักเดินเข้ามา บาริสต้าสาวทักทาย
"สวัสดีค่ะผู้การ วันนี้รับอะไรดีคะ"
“คาปูนิโช่ร้อน”
บาริสต้าหยิบถ้วยกาแฟให้อินทนนท์ทันที ทั้งสองสบตากันนิดหนึ่ง อินทนนท์เดินออกไป
ที่มุมตู้ติดผนังผลิตภัณฑ์กาแฟ อินทนนท์เดินเข้ามา มองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าไม่มีคนจึงเอาถ้วยกาแฟวางลงที่ด้านหนึ่งของตู้ ขอบตู้ด้านติดผนังเด้งออกทันที ปรากฏเป็นช่องเล็กๆ ขนาดคนเดินเข้าไปได้
ผู้การอินทนนท์เดินเข้าไปภายใน

ภายในเป็นฐานปฏิบัติการลับ มีจอภาพเรียงรายเต็มไปหมดราวกับเป็นสถานีรับสัญญาณวงจรปิด ณ สถานที่ต่างๆ จอภาพที่รายรอบมีตัวหนังสือบอกสถานที่เช่น หน้าสำนักงานสืบฯ / พรรคไททิวัตถ์ / ทำเนียบรัฐบาล / ถนนและแยกสำคัญๆ ต่างๆ
ที่จอกลาง.. ปรากฏภาพขบวนรถตู้ของสำนักงานสืบฯ จอดลงที่ถนนๆ หนึ่ง สตรีลึกลับนั่งอยู่ที่ด้านหน้า คีย์คีย์บอร์ดควบคุมการทำงาน ที่มุมหนึ่งของห้อง วิกผมสั้น และชุดหญิงเที่ยวก่อนหน้านี้วางกองอยู่ใกล้สตรีผู้นั้น
ในจอมอนิเตอร์ ประตูรถตู้สำนักงานสืบฯ เปิดออก วินเดินลงมาจากรถตู้ โดยมีรวินั่งอยู่ภายในรถด้วย
ผู้การอินทนนท์เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบร้อนรน
"พวกมันกำลังจะทำอะไร"
สัญญาณรับภาพผ่านไหล่สตรีลึกลับ ไปยังจอรับภาพด้านหน้าเห็นบรรยากาศริมถนน
“ไม่ใช่เรื่องดี !”
“คนของเราอยู่ที่นั่นด้วยใช่มั้ย”
“อยู่... พร้อมอุปกรณ์ !”
อินทนนท์มองไปที่จอภาพเห็นบริเวณขบวนรถของสำนักงานสืบฯ มีดาบแหบกับจ่าหวานร่วมอยู่กับเจ้าหน้าที่สำนักงานสืบฯ ส่วนหนึ่ง กำลังเดินไปเดินมาที่หน้ารถตู้นั้น

เช้าวันเดียวกัน แสงกล้าแต่งตัวเรียบร้อยแล้วใส่สายสะพายปืนพก แล้วเอาเสื้อแจ็คเก็ตมาใส่คลุม กำลังจะเดินออกไป แต่หันไปเห็นนิตยสารที่แพรไพลินเป็นแบบปกโดยบังเอิญ แสงกล้าหยิบขึ้นมาดูแล้วยิ้มๆ
"สวัสดีครับดอกเตอร์"
เสียงเคาะประตูดังขึ้น แสงกล้าเหลียวไปมอง

ประตูห้องแสงกล้าเปิดออก แสงกล้าชะงักนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่าเป็นวินกับเจ้าหน้าที่ฯ ส่วนหนึ่ง
"ผบ.รวิ มีคำสั่งให้หมวดไปทำงานด่วน"
"งานอะไร"
“รีบไป.. ผบ.จะสรุปภารกิจให้ฟังด้วยตัวเองในรถ รีบไป.. มีเวลาไม่มาก”
ร.ต.ต.แสงกล้า อภิไชยจำต้องเดินออกไปกับวินและเจ้าหน้าที่ฯ

บริเวณทางเดินไปยังลานหน้าพรรคไทธิวัตถ์ รถของนักข่าวสำนักฯ ต่าง ๆ ทะยอยเข้ามาติดตั้งกล้อง เตรียมรับการแถลงข่าวของจักรที่หน้าพรรคฯ
คมศรเดินมาตามทางเดิน สีหน้าคมศรยังเต็มไปด้วยความแปลกใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถามเจ้าหน้าที่พรรคที่เดินมาด้วยกัน
"รองจักรฯ จะแถลงข่าวเรื่องอะไร"
"ไม่มีใครทราบครับ รู้แต่ว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เรียกสำนักข่าวมาทุกแห่ง"
“เริ่มเมื่อไหร่”
"ไม่น่าจะเกินสิบโมงเช้าครับ"
คมศรมองบรรยากาศโดยรอบแล้วสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ นึกรู้ว่ากำลังจะมีเรื่องสำคัญเกิดขึ้น

บริเวณถนน แสงกล้าเดินอยู่บนทางเดิน มีวินกับเจ้าหน้าที่ฯ เดินตามประกบซ้ายขวา ดาบแหบเดินเข้ามาหาแสงกล้าติดตั้งหูฟังพร้อมวิทยุสื่อสารให้ที่หูด้านหนึ่งของแสงกล้า
"ขออนุญาตครับหมวด" ดาบแหบบอก
ส่วนจ่าหวานก็ติดตั้งหูฟังและวิทยุสื่อสารให้ที่หูด้านหนึ่งของวิน
“ขออนุญาตครับ”
ประตูอัตโนมัติรถตู้สำนักงานสืบฯ เปิดออก พ.ต.ต. หญิง รวิ อิงคพัฒน์นั่งด้วยมาดเท่อยู่ภายในรถ
“สวัสดีหมวดแสงกล้า สำนักงานสืบสวนพิเศษยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับทีมปฏิบัติการเฉพาะกิจของเลขาคมศร เชิญขึ้นรถ”
รวิผายมือเชิญขึ้นมานั่งข้าง ๆ กัน แสงกล้าชะงักนิดหนึ่ง ก่อนจำจะต้องขึ้นไปนั่งบนรถอย่างเสียไม่ได้ ประตูรถตู้ปิดลง ดาบแหบ จ่าหวาน และวิน เดินขึ้นรถอีกคันหนึ่งขับนำรถตู้ออกไป ภายในรถตู้มีเพียงรวิกับแสงกล้าสองคนเท่านั้น

ผู้การอินทนนท์นิ่วหน้าเมื่อเห็นแสงกล้าอยู่ตรงนั้นด้วย
"มันจะพาแสงกล้าไปไหน"
“ไม่ทราบ” หญิงลึกลับบอก
“เราติดต่อกับแสงกล้าผ่านวิทยุสื่อสารได้ใช่มั้ย เพราะพวกมันไม่รู้ว่า ดาบแหบเป็นคนของเรา"
"ใช่"
นิ้วของหญิงลึกลับกำลังคีย์ข้อมูลผ่านคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์
“ยังไม่ต้องบอกแสงกล้าว่าเราติดต่อเค้าได้ แค่ดักฟังเสียงในรถก็พอ”
ผู้การอินทนนท์มองภาพเบื้องหน้าด้วยสีหน้าไม่สบายใจ

แสงกล้าจ้องหน้ารวิแล้วถาม
“จะไปไหน”
รวิทำหน้าเรียบเฉยจ้องตอบ
“ฉันต้องถามเธอมากกว่า จะพาเราไปไหน”
แสงกล้าสีหน้าแปลกใจเพราะไม่เข้าใจ พอดีกับวินวิทยุเข้ามาบอกรวิ
“รถถ่ายทอดสดสกายนิวส์เน็ตเวิร์คตามเรามาแล้วครับ”
รวิวิทยุติดต่อวิน
"ดี.. บอกให้รักษาระยะห่างไว้ ตามเราไปเรื่อยๆ"
รวิถามแสงกล้าอีก
"บอกได้รึยัง.. ว่าเราจะไปไหน"
ร.ต.ต. แสงกล้า อภิไชยจ้องรวิด้วยความไม่เข้าใจเช่นเดิม

ภายในห้องส่ง วันเดียวกัน ที่ห้องส่งสกายเน็ตเวิร์ค อินเตอร์ลูดข่าวด่วน Sky Networks เข้ามา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นภาพจากห้องส่ง มีผู้อ่านข่าวชายกำลังรายงานข่าว
“สกายนิวส์เน็ตเวิร์คกำลังเกาะติดการแถลงข่าวอย่างเร่งด่วนของรองนายกรัฐมนตรี จักร อมตฤทธา อยู่นะครับว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ในเบื้องต้นเราทราบว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องราวที่กำลังเป็นที่สนใจของประชาชนทั้งประเทศ"
ผู้อ่านข่าวชายเบี่ยงตัวหันไปยังจอด้านหลัง เห็นน้ำใสนั่งอยู่ในรถถ่ายทอดฯ กำลังรอรายงาน
“ทีมข่าวสกายนิวส์เน็ตเวิร์คกำลังติดตามขบวนรถของสำนักงานสืบสวนพิเศษ ซึ่งไม่แจ้งว่าจะไปที่ไหน แต่ทีมงานโฆษกรัฐบาลแจ้งว่า.. การแถลงข่าวของรองจักรจะเริ่มขึ้นทันทีที่รถของสำนักงานสืบฯ ถึงจุดหมายครับ"
ผู้อ่านข่าวหันไปพูดกับน้ำใสที่อยู่ทางจอภาพด้านหลัง
“คุณน้ำใสครับ เชิญครับ”

น้ำใสอยู่บนรถถ่ายทอดสดที่ตามขบวนรถของสำนักงานสืบฯ หันมารายงานข่าวกับกล้อง
“ค่ะคุณฐิติคะ.. เช้าวันนี้สกายนิวส์เน็ตเวิร์คได้รับแจ้งด่วนให้ติดตามขบวนรถของสำนักงานสืบสวนพิเศษ เพื่อร่วมกับการแถลงข่าวของรัฐบาล และขณะนี้ดิฉันกำลังอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะมุ่งหน้าแยกบางเขน”
ผู้อ่านข่าวชายถาม
"พอจะทราบมั้ยครับว่าขบวนรถจะไปไหน"
“ยังไม่ทราบค่ะ เราได้รับแจ้งให้ตามไปห่างๆ เท่านั้น ขณะนี้ถึงขบวนรถกำลังติดอยู่ที่แยกหลักสี่ค่ะ”

แสงกล้าจ้องหน้ารวิด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจ รวิสีหน้าเรียบเฉยจ้องหน้าตอบ
“คุณต้องการอะไร”
“ทวงคืนสมบัติของแผ่นดินคืน ด้วยฝีมือของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภายใต้การดูแลของเลขาคมศร สุริยน”
แสงกล้าชะงักไปทันที
“สมบัติอะไร”
“เรารู้ทันกันน่าแสงกล้า เธอกับจ่าสมิงได้ ตรีศูลวัชระ กับ สังข์ไชยมงคล คืนมาตั้งแต่คืนก่อนแล้ว”
แสงกล้ามีสีหน้าหนักใจขึ้น แต่ปฏิเสธไม่ได้
“ทีมงานของเธอปฏิบัติหน้าที่ได้ดีมาก สำนักงานสืบสวนพิเศษและรัฐบาลถือเป็นหนี้บุญคุณ ฉันต้องการให้เธอพาไปที่เก็บของสองชิ้นนั้น !”
พ.ต.ต. หญิง รวิ อิงคพัฒน์สีหน้าเข้มแสดงออกถึงความเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด

หญิงลึกลับชะงักเมื่อได้ยินคำสนทนานั้น หันไปทางอินททน์
“พวกมันจะชิงศาสตราวุธคืน !”
“ไม่มีทาง ! แสงกล้าไม่มีทางบอกพวกมันหรอกว่าเก็บตรีศูลกับสังข์ไว้ที่ไหน”

แสงกล้าจ้องหน้ารวิแบบไม่เกรงกลัว
"พาเราไปที่เก็บตรีศูลวัชระกับสังข์ไชยมงคล"
“ผมไม่จำเป็นต้องทำตาม”
“แต่นี่เป็นคำสั่ง !”

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 26 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2 ผลิตโดย : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manage