@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 27 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 27 ธ.ค. 55

แสงกล้าเดินเข้ามาเอามือแตะที่ไหล่คมศร มองด้วยแววตาจริงจัง
"ฝากดูแลหมอแพรด้วย"
แสงกล้าพูดจบก็เดินนำสมิงกับเจ้าหน้าที่ฯ ขึ้นรถคันแรกไปทันที รถสำนักงานสืบฯ คันแรกแล่นออกไป คมศรมองตามนิดหนึ่ง แล้วจึงเดินออกไปกับแพรไพลินเพื่อไปขึ้นรถตู้อีกคันหนึ่ง

ภายในรถเคลื่อนย้าย แสงกล้ากำลังตรวจสอบอาวุธด้วยแววตาเครียด สมิงจ้องมองอาการของแสงกล้าแล้วเข้าใจ

"หมวดตัดสินใจถูกต้องแล้ว เราไม่ควรเอาคนรักมาเสี่ยงในสถานการณ์แบบนี้"
แสงกล้าเหลียวมามองสมิง นึกแปลกใจที่สมิงพูดเหมือนรู้ใจเขา



แพรไพลินมองไปทางด้านหน้ารถตู้ แล้วนิ่วหน้า
“เราจะไปไหน...”
“เนติเทคฯ ครับ หมวดแสงกล้าสั่งให้นำดอกเตอร์กับท่านเลขาไปวิเคราะห์สถานการณ์ที่นั่น"
คมศรชะงักไปทันที นึกรู้ความคิดของแสงกล้า
“เปลี่ยนเส้นทาง ตามรถแสงกล้าไป”
"เสียใจด้วยครับดอกเตอร์ ภารกิจนี้รหัสแดง นอกจากหัวหน้าชุดแล้ว ใครจะเปลี่ยนคำสั่งกลางคันไม่ได้"
แพรไพลินกับคมศรจำต้องปล่อยให้เป็นไปตามคำสั่งของแสงกล้า

บนถนนที่มืดมิด รถสำนักงานสืบแล่นสาดไฟ ฝ่าความมืดออกไปอย่างรวดเร็ว โดยรถตู้คันที่แพรไพลินนั่งอยู่ ขับแยกเส้นทางออกไปอีกทางหนึ่ง

สมิงมีสีหน้าจริงจัง หันมามองแสงกล้าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่บ้าบอเหมือนเคย
“สังหรณ์ใจว่างานนี้หนักกว่าที่เราคิด”
สมิงส่งแมกกระสุนอักขระให้แสงกล้า
“จัดหนัก จัดเต็ม ชุดนี้สำหรับพญามาร”
แสงกล้ารับแมกกระสุนมา สีหน้าฮึกเหิม

ผู้หญิงลึกลับใส่ชุดดำทั้งชุดขี่มอเตอร์ไซค์วิ่งฝ่าความมืดเข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมอาวุธต่างๆ ครบมือ
บริเวณคลังสินค้าอีกแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้กับที่เดิม บริเวณหลังคาคลังสินค้าที่เปิดออก เห็นพระจันทร์ดวงกลมกำลังเคลื่อนตัวขึ้นมา ใกล้จะตรงกับตำแหน่งกลางฟ้าเต็มทีแล้ว
ร่างวิญญูที่มีศาสตราวุธทั้งสามชิ้นล้อมอยู่ รวิยืนมองอารักขาอยู่ห่างออกไป
แสงจันทร์เป็นลำยาวค่อยๆ เคลื่อนเข้าใกล้ศาสตราวุธทั้งสามชิ้น ยิ่งแสงจากดวงจันทร์เคลื่อนเข้าใกล้มากขึ้นเท่าไร ศาสตราวุธก็แวววาวประหนึ่งจะเกิดฤทธานุภาพ
รวิที่ยืนอยู่ชะงักไปนิดหนึ่ง ด้วยรู้สึกได้ว่ากำลังจะเกิดสิ่งผิดปกติด้านนอกอาคาร รวิกระชากปืนออกมา ดึงลูกเลื่อนออกเตรียมพร้อมแล้วเดินออกไป

บริเวณภายนอกคลังสินค้า แสงกล้ากับสมิงนำกองกำลังแบ่งออกเป็นสองชุด เคลื่อนที่เร็วฝ่าความมืดมาทางซ้ายและขวาของภายนอกคลังสินค้า
บริเวณภายนอกคลังฯ มีเหล่าลูกน้องเหล่าร้ายยืนระแวดระวังอยู่ในจำนวนที่มากกว่าถึง 3-4 เท่า
แสงกล้ากระชับปืนในมือมั่น มองไปด้านสมิงที่ซุ่มอยู่อีกทาง ส่งสัญญาณมือให้แยก บุกเดี่ยวกันไปเล่นงานเหล่าร้ายแต่ละข้าง
แสงกล้าบุกเดี่ยวเข้าไปเล่นงานเหล่าร้ายได้ 3-4 คน ท่ามกลางความเงียบ
สมิงเล่นงานเหล่าร้ายในฟากตัวเองได้ไปหลายคน
ร่างวิญญูที่อยู่บนแท่นที่มีศาสตราวุธรายล้อมกำลังถูกแสงจันทร์ส่องมาถึง
ทันทีที่แสงจันทร์ส่องมาถึง ศาสตราวุธทั้งสามก็บังเกิดฤทธานุภาพให้เห็น ส่องประกายวาววับเข้าสู่ร่างวิญญู ที่หน้าผาก เหล็กไหลทมิฬที่อยู่ภายในส่องเป็นประกายและสั่นพลิ้ว
วิญญูยังคงไม่ได้สติอยู่ตรงนั้น แต่สีหน้าจากซีดเผือดกลับกลายเป็นมีสีเลือดมากยิ่งขึ้น
แสงกล้ากับสมิงหันมาส่งสัญญาณให้จ่าหวานกับดาบแหบที่หลบอยู่ทางแนวทางด้านหลัง
จ่าหวานกับดาบแหบพาเหล่าเจ้าหน้าที่ฯ ลุกขึ้นสาดกระสุนเข้าใส่เหล่าร้ายที่เหลือทันที บุกฝ่าเพื่อเข้าไปภายในคลังสินค้า
แสงกล้าและสมิงนำกองกำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปภายในคลังสินค้าได้สำเร็จ

ภายในคลังสินค้าแห่งแรก แสงกล้ากับสมิงนำกองกำลังบุกเข้ามาภายในคลังสินค้า แต่ต้องชะงักด้วยความตกใจ ภายในคลังสินค้าโล่งและว่างเปล่า ไม่ปรากฏร่องรอยของศาสตราวุธ และแท่นชาร์จพลังของขมังเวทย์เลยแม้แต่ชิ้นเดียว
แสงกล้าหยิบเครื่อง GPS ภาคสนามแบบมีเสาขึ้นดู
"พิกัดจีพีเอสตรงทุกอย่าง"
"พญามารไม่ได้อยู่ที่นี่"
“นึกแล้วว่าพวกแกต้องมา”
แสงกล้า สมิง จ่าหวาน ดาบแหบ และเจ้าหน้าที่ต่างมองไปรอบ ๆ แต่ไม่ปรากฏร่างของรวิให้เห็น ได้ยินแค่เพียงเสียงเท่านั้น
“แสงกล้า หมวดมาช้าไปนิด ฉันผิดหวังในตัวแกมาก”
สมิงกระซิบแสงกล้า
“มันรู้ตัว ย้ายทุกอย่างออกไปหมดแล้ว”
กลุ่มของแสงกล้าที่อยู่ในพื้นที่โล่ง ถูกกระหน่ำยิงมาจากทุกทิศทุกทางทางด้านบนของคลังสินค้า ทั้งหมดแตกฮือกระจายกันหาทางหลบ แต่รอดยากเพราะอยู่ในพื้นที่โล่ง รวิกำลังนำเหล่าร้ายซุ่มโจมตี ยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฯ ตายเป็นใบไม้ร่วง
แสงกล้าและสมิงตกเป็นรองเพราะโดนล้อมไว้หมดแล้ว

อานุภาพของศาสตราวุธทั้งสามกำลังดึงเหล็กไหลทมิฬออกจากหน้าผากของวิญญู
เหล็กไหลทมิฬลอยอยู่เหนือศีรษะวิญญูแล้วสลายไปในพริบตา ! ร่างของวิญญูบังเกิดแสงล้อมรอบตัว บาดแผลและอาการบาดเจ็บต่างๆ หายไปสิ้น
ใบหน้าวิญญูกลายเป็นใบหน้ากากของขมังเวทย์ครอบคลุมอยู่
ขมังเวทย์ดีดร่างตัวเองขึ้นมาจากแท่นชาร์จพลัง

แสงกล้ากับสมิงและเจ้าหน้าที่พยายามต่อสู้ฝ่าวงล้อมของเหล่าร้ายที่กระหน่ำยิงออกมา
สมิงบอกกับแสงกล้า
“หมวด...ผมรู้วิธีทำให้พวกเรารอดแล้ว”
"ยังไง"
“เลือดเข้าตา... ล่อแม่มแบบตรงไปตรงมา ปลายเท้าชนปลายเท้าเลยดีกว่า ตามมานะหมวด"
สมิงบ้าเลือดลุกขึ้นมาจากที่ซ่อน วิ่งออกมาจากกำบัง ยิงกระหน่ำเข้าใส่กลุ่มเหล่าร้ายแบบไม่นับ
แสงกล้าลุกขึ้นยิงตาม จ่าหวาน กับ ดาบแหบ เอาบ้าง
คราวนี้เหมือนได้ผล เหล่าร้ายร่วงกันเป็นใบไม้ร่วง สมิงคว้าระเบิดมือขึ้นมาดึงสลัก แล้วโยนเข้าใส่ที่ผนังด้านหนึ่งของคลังฯ ... ระเบิด ตูม !!! เกิดเป็นช่องว่างสามารถหนีออกไปได้
“ทางเปิด... รีบไป”
แสงกล้า กับ สมิง ยิงต่อสู้กับเหล่าร้ายและรวิ
จ่าหวาน ดาบแหบ ประคองพาลูกน้องที่เหลืออยู่กำลังจะหนีออกไปทางผนังด้านที่ถูกระเบิดพัง
แต่ก่อนที่จะถึง บังเกิดแสงวาบไปทั่วทั้งช่องผนัง คลื่นพลังงานทะลุเข้ามาปะทะร่างของเจ้าหน้าที่ลอยเคว้งไปคนละทิศละทาง
สมิงกับแสงกล้าจ้องไปที่ผนังที่ถูกระเบิดนั้น ร่างของขมังเวทย์ตรงออกมา ลมพายุพัดเร็วแรงรอบๆ ตัว ทำลายข้าวของโดยรอบไปทั่ว
"พญามารฟื้นแล้ว"
รวิหันไปเห็นร่างของขมังเวทย์ที่เป็นปกติ เธอยิ้มยินดี
"ท่าน...”
รวิกับเหล่าร้ายที่ซุ่มอยู่ ยิงกระหน่ำลงมายังกลุ่มแสงกล้าอีกครั้ง คราวนี้ล้มตายไปอีกหลายคน ที่เหลือกระจัดกระจายหนีหัวซุกหัวซุนเหมือนไม่มีทางรอด
“ฆ่ามันให้หมด... อย่าให้เหลือ”
เจ้าหน้าที่ของ แสงกล้า จ่าสมิง และพวกโดนกำจัดไปทีละคนๆ จนเหลือแค่ แสงกล้า สมิง จ่าหวาน ดาบแหบ เท่านั้น และไม่มีทางจะรอดแล้ว
เหล่าร้ายคนหนึ่งเหยียดแขนตรง กำลังเล็งปืนในมือตรงไปยังแสงกล้าที่ต่อสู้อยู่อีกทางหนึ่ง โดยแสงกล้าไม่รู้ตัวว่ากำลังจะถูกลอบยิง คนร้ายกำลังจะกระแทกนิ้วลงที่ไกปืน ส่งกระสุนออกไป ....
ฉับพลัน... เกิดเสียงเปรี้ยง !
กระสุนนัดหนึ่งวิ่งแหวกอากาศ พุ่งตรงเข้าเจาะกลางกบาลเหล่าร้ายคนนั้นทันที
ร่างหญิงในชุดดำกำลังโรยตัวลงมาจากหลังคาคลังสินค้าที่เปิดออกรับแสงจันทร์
หญิงในชุดดำยิงกระหน่ำเข้าใส่กลุ่มคนร้ายที่กำลังลอบโจมตีเจ้าหน้าที่ฯ คนร้ายล้มตายกันเป็นแถบ
รวิโกรธมาก ยิงเข้าใส่หญิงในชุดดำนั้น หญิงในชุดดำหลบกระสุนรวิไปได้อย่างหวุดหวิด จังหวะนั้นเองที่แว่นตาหลุดออกมาจากใบหน้าของเธอ ... ปรากฏภาพใบหน้าของหญิงชุดดำนั้น คือ ผบ.นภา ! แววตาของเธอแข็งกร้าวจริงจัง
แสงกล้าหันไปเห็นใบหน้าจริงจังของนภา
“ผบ.นภา !”

รวิหันไปมองหญิงลึกลับชุดดำ นิ่วหน้าสงสัยยังเห็นไม่ชัดเจนว่าเป็นนภา
“ผบ.นภา”
นภา ฐานรัฐในชุดดำยิงเข้าใส่ร่างขมังเวทย์ กระสุนพุ่งเข้าใส่ร่าง แต่กลับไม่โดนขมังเวทย์เลยสักนิดเดียว
นภาหันไปทางแสงกล้าบอก
“รีบหนีออกไป !”
การต่อสู้ของขมังเวทย์กับนภาเป็นไปอย่างเร้าใจ แม้นภาจะทำอะไรขมังเวทย์ไม่ได้ แต่ก็เบี่ยงเบนความสนใจจากขมังเวทย์ไปจากกลุ่มแสงกล้าและสมิงได้
แสงกล้ากับสมิงยิงต่อสู้กับรวิและพวกที่กำลังโจมตีอยู่ทางด้านบน ทั้งหมดสามารถล่าถอยจเกือบจะถึงผนังด้านที่โดนระเบิด จ่าหวานกับดาบแหบสามารถหนีออกไปได้แล้ว
ขมังเวทย์หันไปมองทางแสงกล้ากับสมิงอย่างไม่พอใจ พุ่งตรงเข้าเล่นงานสมิงกับแสงกล้าแบบประชิดตัว
นภายิงเข้าใส่ขมังเวทย์อีก แต่คราวนี้กลับโดนตอบโต้จากรวิ จนต้องรีบกระโดดหลบไปอีกทางหนึ่ง สมิงกับแสงกล้าโดนขมังเวทย์บีบคอจากมือทั้งสองข้าง ทั้งสองคนตัวลอยจากพื้น
นภาพยายามจะถลาออกมาช่วย แต่กลับโดนยิงสะกัดจากรวิจนโงหัวไม่ขึ้น
สมิงกับแสงกล้า โดนบีบคอจนเกือบจะหมดลม สมิงพยายามจะยกปืนขึ้นยิง แต่ขมังเวทย์ส่งสายตาสะกดมายังมือของสมิง ทำให้สมิงยกมือไม่ขึ้น
“อ๊าก” สมิงร้อง

ดาบแหบกับจ่าหวานวิ่งหน้าตั้งอยู่กลางถนนเปลี่ยว ทั้งสองหันมาพูดกัน
“เฮ้ย... กลับไปช่วยหมวดกับจ่าหมิง” ดาบแหบว่า
“แล้วทำไมดาบไม่ไปล่ะ” จ่าหวานบอก
แต่แล้วทั้งสองต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นแสงไฟจากรถคอนเทนเนอร์วิ่งพุ่งเข้ามาใส่ทั้งคู่ที่ร้องขึ้นพร้อมกัน
“เฮ้ย !”
ทั้งสองโดดหลบกระเจิงไปที่ข้างทาง รถคอนเทนเนอร์จอดที่ข้างทางอย่างรวดเร็ว ประตูรถเปิดออก ผู้การอินทนนท์ชะโงกหน้าออกมา
“รีบขึ้นรถ !”

ขมังเวทย์กำลังบีบคอทั้งสมิงและแสงกล้าด้วยมือทั้งสองข้าง นภากำลังยิงต่อสู้กับรวิและลูกน้องอย่างเร้าใจ แสงกล้ากำลังจะยกปืนที่บรรจุกระสุนอาคมจ่อไปที่ขมังเวทย์
ขมังเวทย์หันขวับมายังแสงกล้าจะใช้สายตาสะกดแสงกล้า แต่กลับทำอะไรแสงกล้าไม่ได้ !
“ทำไมข้าถึงทำอะไรแกไม่ได้”
ขมังเวทย์มองไปที่คอของแสงกล้า เห็นล็อกเก็ตที่แสงกล้าห้อยอยู่ ซึ่งขณะนี้พลิกจากด้านที่เป็นหิน
มาอยู่ในด้านที่เป็นกระจกสะท้อนแสงแวววับ แม้จะเก่ามากแล้วก็ตาม
สมิงเห็นขมังเวทย์กำลังจ้องไปที่สร้อยล็อกเก็ตนั้น สมิงมองตามสายตาขมังเวทย์ไปเห็นล็อกเก็ต
บนคอแสงกล้าแบบถนัดตา สมิงก็นิ่วหน้าตกใจเหมือนกับขมังเวทย์

อดีตเมื่อ 20 ปีก่อน บริเวณบ้านจอมแสง ไตรรัตน์ ผู้เป็นอาจารย์ของวิญญูและมงคลเป็นคนสวมล็อกเก็ตนี้บนคอของเด็กทารกคนหนึ่งเพื่อรับขวัญ ทั้งมงคลและวิญญูร่วมอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย
จอมแสงยิ้มรับขวัญลูกน้อย
“ใส่ติดตัวไว้ เป็นมงคลแก่ชีวิต” ไตรรัตน์ว่า
ล็อกเก็ตบนคอเด็กทารกปรากฏแสงวาววับราวกับมีฤทธานุภาพอยู่

ขมังเวทย์จ้องไปยังล็อกเก็ตนั้นเขม็งเหมือนจำได้ แสงกล้าที่กำลังโดนบีบคออยู่ ยกแขนวาดปืนในมือเหยียดตรงใบหน้าขมังเวทย์ แล้วยิง...เปรี้ยง !
กระสุนอักขระพุ่งตรงเข้ากลางแสกหน้าขมังเวทย์จนหน้ากากแตกกระจาย
ขมังเวทย์ร้องอย่างเจ็บปวด
“อ๊าก”
ขมังเวทย์ดันร่างของสมิงและแสงกล้าออกไปอย่างสุดแรง เอามือกุมหน้าไว้ด้วยความเจ็บปวด ร่างของสมิงกับแสงกล้าลอยหวือออกไปล้มคว่ำอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของคลังฯ ทั้งคู่พยายามพยุงร่างตัวเองขึ้นมา
“จ่า...เป็นไงบ้าง” แสงกล้าถาม
“อิ่มเอมเป็นสุขมั้งหมวด โดนซะขนาดนี้”
ทั้งสองหันไปมองขมังเวทย์ เห็นใบหน้าชัดเจนว่า เป็นคนๆ เดียวกับวิญญู!!
“วิญญู”
“คิดไว้ไม่มีผิดว่าต้องเป็นมัน”
ขมังเวทย์ตั้งตัวได้ส่งสายตาอำมหิตเข้าใส่แสงกล้ากับสมิง บังเกิดคลื่นลมวนเวียนรอบๆ ตัว
สมิงกับแสงกล้าลุกขึ้นตั้งรับพร้อมเผชิญหน้า
แต่แล้วระหว่างเผชิญหน้ากันอยู่นั่นเอง อินทนนท์ขับรถคอนเทนเนอร์พังกำแพงเข้ามาทางด้านหลัง พุ่งชนขมังเวทย์จนร่างลอยคว้างออกไปอีกทางหนึ่ง
“ขึ้นรถ”
แสงกล้าชะงักไปนิดหนึ่ง หันไปมองทางด้านนภาที่กำลังยิงต่อสู้อย่างดุเดือดกับรวิกับลูกน้อง
“ไม่ต้องห่วงผบ.นภา !”
สมิงกับแสงกล้ารีบขึ้นมาทางด้านหลังคอนเทนเนอร์ ที่เปิดออกโดยจ่าหวานและดาบแหบ
แสงกล้ากับสมิงหันไปยิงต่อสู้กับสมุน จ่าหวานกับดาบแหบรีบปิดประตูหลังตู้คอนเทนเนอร์
ผู้การอินทนนท์รีบขับรถคอนเทนเนอร์แล่นออกไป

ที่มุมหนึ่งของคลังสินค้า นภายิงต่อสู้กับรวิและเหล่าร้ายอย่างเร้าใจ
ขมังเวทย์ค่อยๆ ลุกขึ้นมาอย่างช้าๆหลังจากที่โดนรถพุ่งชนเมื่อครู่ พร้อมหันมาจะเล่นงานนภา
“ดอกนี้.. สำหรับเมฆา !”
นภาหันขวับมาเผชิญหน้ากับขมังเวทย์ กระชากเครื่องยิงลูกระเบิดที่สะพายอยู่ทางด้านหลังออกมา ประทับเล็งแล้วยิงเข้าใส่ร่างขมังเวทย์
ลูกระเบิดออกจากเครื่องยิงพุ่งเข้าใส่บริเวณหน้าขมังเวทย์ ระเบิด..ตูม ! เปลวไฟและควันพวยพุ่งกระจาย รวิตกใจถลาออกมาหาขมังเวทย์ด้วยความเป็นห่วง
“ท่าน...”
พอควันสงบ เสียงมอเตอร์ไซค์ก็แผดเสียงลั่น นภาบิดเครื่องมอเตอร์ไซค์หนีออกมา ผ่านช่องผนังที่โดนระเบิดอย่างเหนือชั้น !!
รวิที่กำลังประคองร่างขมังเวทย์ลุกขึ้น ทั้งสองหันไปมองด้วยสายตาไม่พอใจ

นภาขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาจากด้านในของคลังสินค้า สมุนเหล่าร้ายวิ่งขึ้นรถตามเธอออกมา ระดมยิงเข้าใส่แบบไม่นับ เธอเหลียวไปยิงต่อสู้กับเหล่าร้ายด้วยมาดเท่ เล่นงานเหล่าร้ายจนย่ำแย่ตามมาไม่ได้
นภาขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าความมืดออกไปอย่างรวดเร็ว

รถคอนเทนเนอร์วิ่งพุ่งผ่าความมืดมาตามถนนเปลี่ยวอย่างรวดเร็ว ทางด้านหลัง นภาขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาอย่างกระชั้นชิด ประตูด้านหลังคอนเทนเนอร์เปิดออก นภาขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นไปบนคอนเทนเนอร์อย่างรวดเร็ว

ภายในเนติเทคฯ เวลากลางคืน พญ. แพรไพลิน นวิยากุลยืนฟังรายงานจากกุ๊บกิ๊บด้วยท่าทางไม่สบายใจ คมศรสังเกตเห็นอาการนี้อย่างชัดเจน
“มีรายงานว่าเกิดการต่อสู้อย่างรุนแรงที่คลังสินค้าแถบลาดกระบังค่ะ”
“คลังสินค้าเครือไดมอนด์กะรัตใช่มั้ย”
“ใช่ค่ะ ตามรายงานแจ้งว่าเกิดระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ทราบจำนวนผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต"
แพรไพลินถามคมศร
“แสงกล้าวิทยุเข้ามาบ้างมั้ย”
“ไม่”
แพรไพลินท่าทางไม่ค่อยสบายใจ คมศรสังเกตเห็นอาการนี้
“คุณเป็นอะไร ดูไม่ค่อยสบายใจ”
แพรไพลินไม่ตอบรีบออกไป คมศรเดินตาม

แพรไพลินรีบเข้ามายังห้องคอมพิวเตอร์ของเนติเทคฯ รัวคีย์บอร์ดเร็ว สายตานิ่งพยายามไม่แสดงอาการห่วงใยแสงกล้านัก แม้ความจริงจะห่วงอยู่ไม่น้อย
ภาพมุมสูงจากดาวเทียมกำลังสอดส่ายหาภาพบริเวณคลังสินค้าฯ
“จะหาภาพจากกล้อง CCTV อีกทำไม ไม่ได้ผลหรอก ผบ.รวิตัดสัญญาณไปหมดแล้ว"
“อาจจะมีกล้องบางตัวที่ยังทำงาน”
แพรำพลินรัวคีย์บอร์ดต่อ
“ไร้สาระน่า เป็นไปไม่ได้ !”
“ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่คลังสินค้า”
“ราไม่มีทางรู้อะไรมากกว่านี้ นอกจากพวกเค้าจะติดต่อกลับมา”
แพรไพลินไม่ฟัง รัวคีย์บอร์ดเร็วอย่างมีความหวัง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เธอมีสีหน้ากังวลใจอย่างเห็นได้ชัด
“ดูคุณไม่เหมือนแพรไพลินคนเดิม”
แพรไพลินฉุนขึ้นมาทันทีเมื่อโดนจี้จุดที่ตัวเองปิดบังไว้ เธอระงับอารมณ์ไม่อยากแสดงออก
“ฉันก็ยังเป็นฉัน หยุดสงสัย ช่วยฉันหาทางช่วยพวกจ่าสมิงดีกว่า”
“แน่ใจเหรอว่าคุณเป็นห่วงจ่าสมิง”
“ฉันห่วงงานที่กำลังทำอยู่”
คมศรสีหน้าขรึมและจริงจังบอก
“แพรไพลิน ผมไม่ใช่เพิ่งคบกับคุณ แต่อาการคุณไม่ปกติเป็นเพราะแสงกล้าใช่มั้ย”
แพรไพลินไม่พอใจไม่ตอบแต่ยังรัวคีย์บอร์ดอยู่
“ไม่น่าเชื่อว่าหมวดแสงกล้าจะมีอิทธิพลกับจิตใจคุณมากขนาดนี้”
“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบ”
“รู้ตัวรึเปล่าว่าตั้งแต่หมวดคนนั้นเข้ามาในชีวิต คุณเปลี่ยนแปลงไปมาก”
คมศรมองแพรไพลินด้วยสายตาผิดหวัง แต่เธอไม่สนใจ ละสายตาจากคมศรไปยังเครื่องคอมฯดังเดิม เขาถอนหายใจยาวเดินออกไปจากห้องอย่างเจ็บช้ำในใจ

คมศรเดินมาพิงผนังด้านตรงข้ามห้องคอมพิวเตอร์ด้วยแววตาเครียด ส่งสายตามองผ่านกระจกไปยังห้องคอมพิวเตอร์ เห็นแพรไพลินกำลังตั้งใจค้นหาข้อมูลโดยไม่เห็นความหวังดีของเขาเลยแม้แต่น้อย
คมศรถอนหายใจยาว นึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับแพรไพลินแล้วเศร้าใจ

รถคอนเทนเนอร์จอดอยู่ที่ลานจอดรถเปลี่ยวหลังร้านกาแฟฯ ที่เงียบสงัด ดาบแหบกับจ่าหวานยืนเฝ้าระวังสถานการณ์โดยรอบอยู่
ทั่วทั้งบริเวณลานจอดรถนั้น มีกล้องวงจรปิดหลายตัวติดตั้งอยู่ และสัญญาณไฟกำลังทำงาน

ภายในฐาน ร.ต.ต.แสงกล้า อภิไชยหันไปมองผบ. นภากับผู้การอินทนนท์ พลางมองไปทางจ่าสมิงที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ด้วยสายตาค้นหาด้วยเช่นกัน
“ผบ.นภา... ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยได้มั้ยครับว่าเกิดอะไรขึ้น ผบ.กับศรัทธาเป็นคนๆ เดียวกันใช่มั้ย”
“ทั้งใช่และไม่ใช่”
สมิงบ่นเบาๆ
“เอา.. เอาเข้าไป กลัวไม่งง”
แสงกล้าหันมาจ้องหน้าสมิงเป็นทำนองตำหนิ สมิงยิ้มเจื่อนๆ หัวเราะแหะๆ

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 27 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2 ผลิตโดย : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manage