@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 21 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 21 ธ.ค. 55

เพลงบรรเลงการทำพิธีเผาดังขึ้น เจ้าหน้าที่นำโลงศพเข้าเตาเผา ทุกคนในงานต่างยืนมองเปลวไฟที่เผาโลงศพของครามและทอรุ้ง
ในห้องแลปของเนติเทคฯ ในเวลากลางวัน วันเดียวกัน พณ. แพรไพลิน นวิยากุลกำลังเคาะคอมพิวเตอร์วิเคราะห์คดีการตายของครามและทอรุ้งอยู่ เธอสีหน้านิ่ง คิด...
“ปลอกกระสุนในห้องนิรภัยเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะระบุได้ว่า มีใครอยู่ในคืนวันเกิดเหตุบ้าง"
แพรไพลินยกโทรศัพท์ภายในขึ้นมา แล้วโทรออก

“ฉันต้องการวิเคราะห์ปลอกกระสุนทั้งหมด ส่งมาที่แลปด้วย …”
ชั่วครู แพรไพลินก็มีสีหน้าไม่พอใจถาม
“อะไรนะ ถูกสำนักงานสืบฯ ยึดไปแล้ว คำสั่งของ ผ.บ.รวิ”
แพรไพลินวางหูโทรศัพท์ด้วยสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง



บนโต๊ะทำงาน วันเดียวกันของ พ.ต.ต. หญิง รวิ อิงคพัฒน์ ผบ. สำนักงานสืบสวนพิเศษเงยหน้าขึ้นมองแพรไพลินที่บุกเข้ามาหาถึงที่ห้องทำงาน
“ใช่ ฉันเป็นคนสั่งให้เก็บหลักฐานชิ้นนั้น”
“เพื่ออะไร” แพรไพลินถาม
“ฉันต้องการให้หน่วยงานอื่นสืบหาความจริงพร้อม ๆ กับเนติเทค”
“ทำไม”
“เพื่อความสมบูรณ์และถูกต้อง”
“แต่ท่านนายกฯ มอบหมายให้เนติเทครับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง ทำแบบนี้ก็เท่ากับขัดแข้งขัดขา ไม่ยอมให้ฉันทำงานได้สะดวก”
รวิตบโต๊ะเปรี้ยง ลุกขึ้นชี้หน้าแพรไพลิน แววตาแข็งเสียงกร้าว
“หยุดนะ ดอกเตอร์แพรไพลิน ! อย่าคิดว่าท่านนายกเมตตาแล้วจะมาข่มฉันได้ ถึงยังไงเธอก็เป็นลูกน้อง อยู่ภายใต้การควบคุมของฉัน ลูกน้องไม่มีสิทธิออกคำสั่งหัวหน้า !”
“ฉันต้องการหลักฐานชิ้นนั้น เพื่อพิสูจน์ว่าผู้กองครามไม่ผิด”
“จะผิดหรือถูก ครามก็ตายไปแล้ว อย่าสร้างเรื่อง..ทำให้คนที่มีลมหายใจต้องลำบากเพราะซากคนตายเลย”
“แต่ว่า...”
“ไม่อนุมัติ ! มันเป็นเรื่องของเธอที่ต้องสืบเสาะด้วยวิธีอื่น ถ้าทำไม่สำเร็จฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้"
ผบ. รวิเดินออกไปจากห้องทันที แพรไพลินไม่พอใจเดินตามออกไป

รวิเดินออกไปยังบริเวณทางเดินในสำนักงานสืบฯ เพื่อจะกลับไปบ้าน
“เกลียดชังอะไรฉันนักหนา ทั้ง ๆ ที่เราก็เป็นพี่น้องกัน” แพรไพลินบอก
รวิหันขวับมายืนยัน
“เธอไม่ใช่น้องฉัน”
“แต่เรามีพ่อคนเดียวกัน”
“ผู้ชายที่เห็นแก่ตัว...ทิ้งแม่ฉันไปแต่งงานใหม่ ฉันไม่เคยนับถือเป็นพ่อ” รวิบอก
แพรไพลินถึงกับอึ้งไป พูดอะไรไม่ออกเพิ่งตระหนักว่า รวิผูกใจเจ็บเรื่องนี้อย่างรุนแรง
“ในงานศพของเค้า ฉันไม่เคยรู้สึกเสียใจหรือต้องไว้อาลัยด้วยน้ำตา มีแต่จะ ดีใจ สุขใจ ที่คนที่ฉันเกลียดตายไปซะได้"
“ถึงยังไงท่านก็เป็นพ่อ...ฉันขอเถอะค่ะ เราควรให้อภัยแล้วเริ่มต้นใหม่ พี่ต้องก้าวผ่านอดีตที่ปวดร้าวไปให้ได้ พี่จะได้อยู่ในโลกแห่งความจริงอย่างมีความสุข"
“อย่ามาสั่งสอน แม่เธอทำลายความสุขของครอบครัวฉัน”
แพรไพลินชะงักไปทันทีเมื่อรวิพูดถึงเพชรแท้
“ฟังนะแพรไพลิน กรรมมันตามสนองเธอแล้ว พวกเธอพรากความรักไปจากครอบครัวฉัน เหมือนวันนี้ที่เธอไม่เคยได้รับความรักจากแม่ของเธอ”
รวิเดินเข้ามาประจันหน้ากับแพรไพลิน จ้องมองด้วยแววตาเกลียดชัง
“คนที่ทำลายความรักของฉัน มันต้องได้รับกรรมอย่างสาสม”
รวิพูดจบก็ก้าวเดินออกไปเลย แพรไพลินเสียใจที่รวิไม่ยอมให้อภัยครอบครัวของเธอ

ผ่านเวลาสู่เวลากลางคืน ที่บริเวณเมรุ ในบรรยากาศมืดมิด วังเวงดูน่ากลัว สัปเหร่อกำลังทำการเรียงกระดูก แต่ได้เพียงกองเดียว อีกกองหนึ่งมีแต่ผ้าขาวว่างเปล่า
แสงกล้าเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ทำไมกระดูกมีแค่คนเดียว”
“ศพผู้กองครามหายไป เราเผาแค่โลงเปล่า”
ร.ต.ต. แสงกล้าตกใจ แล้วหันไปเห็นชายชุดดำที่มุมหนึ่ง ทันทีที่แสงกล้าหันไป ชายชุดดำก็วิ่งหนีไปทันที
แสงกล้าวิ่งไล่ชายชุดดำที่วิ่งหายไปตามมุมต่าง ๆ ภายในวัด แต่ไม่พบชายชุดดำ

อีกมุมหนึ่งของวัด ชายชุดดำยืนศพผู้กองคราม แสงกล้าเดินเข้ามาด้านหลัง ถือปืนเล็งไปที่ชายชุดดำทันที
“หยุดนะ !”
ชายชุดดำหันมา แสงกล้าตกใจ!!
“สมิง...”
“เรียกทำไม คิดถึงผมเหรอ”
“เอาศพมาทำอะไร”
“หมวดอยากได้คำตอบไม่ใช่เหรอว่าทำไมผู้กองครามฆ่าคุณทอรุ้ง”
สีหน้าจ่าสมิงนิ่งดูน่ากลัว
วิญญู อัคนียืนอยู่ริมหน้าต่างห้องนอนในคอนโดฯของ ผบ. รวิ เขามองวิวด้านนอกจากคอนโดสูงลิบ..เห็นแสงไฟระยิบระยับ ภาพสะท้อนในกระจก เขาเห็นรวิเดินเข้ามา
“ศพถูกเผาไปแล้ว หลักฐานชิ้นสำคัญถูกยึด ฉันปิดช่องทางในการสืบหาความจริงหมดแล้ว"
“เธอไม่เคยทำให้ผิดหวัง”
วิญญูยิ้มอย่างมีเลศนัย เดินตรงมาหารวิด้วยแววตาเสน่หา ตรงเข้าถอดเสื้อคลุมของรวิออก เผยให้เห็นรอยสักสวยงามทางด้านหลังรวิ
“ฉันคงต้องให้รางวัล”
วิญูญูเอามือไล้ไปตามเนื้อตัวรวิ ไล่ไปตามรอยสัก อารมณ์ต็มไปด้วยความเสน่หา รวิยิ้มยั่วยวน “ฉันพร้อมจะรับรางวัลแล้วค่ะ”
ทั้งสองคนสวมกอดกันราวกับเป็นคนรักที่สนิทชิดเชื้อกันมานาน วิญญูซุกไซ้ไปทั่วเรือนร่างของรวิ

แสงกล้าแปลกใจที่สมิงเอาศพของครามออกมา สายตาจ้องตรงไปยังร่างนั้น
“ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมคนดีต้องพ่ายแพ้ต่ออำนาจมืด ทำไมความดีไม่ปกป้องให้รอดพ้นจากอันตราย"
“คนดีก็ตายเป็นนะหมวด”
“หมายความว่าไง”
“เกิด แก่ เจ็บ ตาย ต่อให้เป็นคนดีแค่ไหน ถ้าหมดอายุขัย อะไรก็ฉุดไม่อยู่”
“กำลังจะบอกว่าผู้กองครามหมดอายุขัย ไม่ได้พ่ายแพ้ต่ออำนาจมืด”
“คิดเองเป็นมะ... ต้องให้บอกทุกเรื่องเลยเหรอหมวด”
แสงกล้าจ้องสมิงอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นักที่จู่ ๆ ก็กวนขึ้นมาซะอย่างงั้น
“จะทำอะไร อย่าบอกนะเอาศพมาปลุกเสกคาถาอาคม”
“ผมไม่ใช่พวกไสยดำ แค่จะหาความจริง”
สมิงเริ่มบริกรรมคาถา แสงกล้ามองด้วยความแปลกใจ

วิญูญนอนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับรวิบนเตียงนอนในบรรยากาศเร่าร้อน ท่ามกลางแสงเทียนและควันจากกำยานที่จุดไว้

ควันสีขาวลอยออกจากร่างของคราม ขณะที่จ่าสมิงกำลังหลับตาบริกรรมคาถาจนเหงื่อท่วมใบหน้า แสงกล้ามองจ้องด้วยความอยากรู้ จนเมื่อสมิงเป่ามนตร์ใส่ศพคราม ฉับพลัน กระสุนลูกสะกดก็ผุดขึ้นจากร่างของคราม ลอยขึ้นมาทันที แสงกล้าตกใจกับภาพดังกล่าว

ภายในคอนโดฯ น้ำใสสีหน้าเหงานั่งมองท้องฟ้ายามราตรีเบื้องหน้า ในมือถือมีรูปถ่ายของแสงกล้า รูปเดียวกับที่วางไว้ที่โต๊ะทำงาน เธอมองรูปถ่ายแล้วพึมพำ
“แสงกล้า... ฉันคิดถึงนาย”
น้ำใสหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และกดจะโทรหาแสงกล้า แต่ก็ชะงัก
“โทรหานายตอนนี้ นายก็ต้องรำคาญ หาว่าฉันเซ้าซี้กวนใจอีก”
น้ำใสปิดและมือถือ พลางยกรูปแสงกล้าขึ้น และมองตรงไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้า
“ฟ้าตอนนี้สวยมั้ยแสงกล้า ฉันอยากให้นายมาอยู่ด้วยกับฉันตอนนี้จัง”
น้ำใสยิ้มเหงาๆ น่าสงสาร
ฝ่ายวิญญู อัคนีที่กำลังนัวเนียอยู่กับรวิ ฉับพลัน...แววตาเบิกกว้างทันที รับรู้ว่า สมิงค้นพบกระสุนลูกสะกดภายในศพของผู้กองคราม
รวิถลาเข้ามากอดจูบวิญญูอย่างนัวเนียต่อเนื่องด้วยอารมณ์พิศวาส แต่วิญญูกลับผลักรวิออกจนแทบคว่ำ... เขาลุกขึ้นใส่เสื้อคลุมออกไปจากห้องไปทันที
รวิ อิงคพัฒน์มองตามด้วยสีหน้าและแววตาไม่พอใจ

สมิงชูกระสุนลูกสะกดในมือให้แสงกล้าดู
“กระสุนอาคม สะกดวิญญาณของผู้กองครามให้ทำทุกอย่างตามที่มันต้องการ ผู้กองครามควบคุมตัวเองไม่ได้"
“หมายความว่าผู้กองไม่ได้ฆ่าคุณทอรุ้ง... ถ้างั้นใครเป็นคนทำ”
“ไสยดำ !”
สมิงหยิบกระสุนปืนลูกสะกดเก็บไว้
“แล้วจ่าเป็นไสยอะไร”
สมิงจริงจัง แล้วบอก “ไส...หัวไปซะ” ก่อนหัวเราะ
“ฮึ ๆ ๆ จริงมั้ยหมวด ใคร ๆ ก็ไม่รักผม ชอบไล่ผมอยู่เรื่อย"
“เลิกเล่นซะที...แล้วเอาศพผู้กองไปทำพิธีได้แล้ว”
แสงกล้าจะเดินไป แต่จ่าสมิงเรียกไว้
“เดี๋ยวก่อนหมวด”
สมิงหยิบกระสุนปืนสามนัดที่ลงอาคมไว้ส่งให้แสงกล้า
“เก็บไว้ใช้”
“ผมมีกระสุนปืนแล้ว” แสงกล้าบอก
“เอาไว้เถอะน่า ที่มีอยู่มันไม่เหมือนกัน”
จ่าสมิงเอากระสุนปืนทั้งสามนัดยัดใส่มือแสงกล้าที่ทำหน้าไม่เชื่อ

วิญญูกำลังจะเดินออกไป รวิเข้ามาหา
“ท่านจะไปไหน”
“เธอมันไม่ได้เรื่อง... ไอ้สมิงพบกระสุนในศพไอ้คราม มันต้องกำลังวางแผนทำอะไรอยู่แน่ ๆ"
วิญญูเดินออกไป รวิไม่พอใจ

วันใหม่ เวลากลางวัน พญ. แพรไพลิน นวิยากุลเดินเข้ามามองไปยังตึกนิรภัย ที่เบื้องหน้าที่ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุอยู่ เธอเดินตรงเข้าไปยังทางเข้า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำความเคารพ เปิดทางให้เธอเดินเข้าไปในห้องนิรภัย ถึงกับอึ้งมองไปรอบ ๆ ตัว เธอเห็นเจ้าหน้าที่สำนักงานสืบฯ กำลังเคลียร์หลักฐานทั้งหมด ไม่หลงเหลือหลักฐานหรือคราบเลือดต่าง ๆ อยู่เลย ห้องถูกเก็บกวาดจนเรียบร้อย
กุ๊บกิ๊บกำลังเก็บอุปกรณ์บางอย่างอยู่กับเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งของเนติเทค แพรไพลินเดินตรงเข้าไปหา
“ใครสั่งให้เคลียร์ห้อง”
“คนที่หมอก็รู้ว่าใคร”
แพรไพลินไม่พอใจ
“กุ๊บกิ๊บ...ใครเป็นคนสั่งให้เคลียร์ห้องนี้”
“ผ.บ.รวิ ค่ะ ท่านผ.บ.ต้องการให้ตึกนี้เปิดดำเนินการโดยปกติให้เร็วที่สุดเพื่อตอกย้ำกับสื่อว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”
“แต่ฉันต้องการหลักฐานเพิ่มเติม”
“หมอเก็บไปหมดแล้วนี่คะ ไม่มีอะไรเหลือแล้วล่ะค่ะ”
แพรไพลินไม่พอใจเป็นอย่างมากมองไปรอบๆที่ไม่หลงเหลือหลักฐานสักชิ้น เธอรู้แก่ใจว่า รวิต้องการขัดขวางการทำงานของเธอ
แพรไพลินเดินไปตามทางเดินในเนติเทคฯด้วยความเครียดที่ยังหาหลักฐานเพิ่มเติมไม่ได้ แต่แล้วเธอต้องชะงักเมื่อเห็นคมศร สุริยนยืนพิงผนังตึกด้านหนึ่งด้วยมาดเท่ ๆ ยิ้ม ๆ อารมณ์ดีตามบุคลิกส่วนตัว
“คมศร คุณมาที่นี่ทำไม”
คมศรยิ้มขรึมจริงจังมากขึ้น
“มาหาคุณ”
“มาหาฉัน”
“ผมรู้ว่าคุณกำลังมีปัญหายุ่งยากใจเลยอยากมาช่วย”
“คุณรู้”
“ด้วยตำแหน่งเลขานายกฯ ผมเป็นตัวช่วยสำคัญให้คุณได้”
คมศรพูดจบก็ชูถุงพลาสติกที่ใส่หลักฐานปลอกกระสุนทั้งหมด พลางยิ้ม ๆ แพรไพลินอึ้งและแปลกใจ

คมศรยืนคุยกับแพรไพลินที่มุมสวยบรรยากาศดีไม่มีคนผ่านไปมา คมศรพูดคุยเป็นกันเองและอารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี ขณะที่แพรไพลินพยายามรักษาระยะห่างระหว่างเธอกับเขาไว้
แพรไพลินดูหลักฐานในมือ
“คุณได้หลักฐานพวกนี้มาได้ยังไง”
“ตามระเบียบ... สำนักงานสืบฯ ต้องแจ้งหลักฐานทุกชิ้นกับหน่วยงานเลขาฯ ผมรู้สึกแปลก ๆ เลยเอามาให้คุณ"
“พี่รวิตั้งใจไม่ให้ฉันตรวจสอบ”
“ทำไม”
“เค้าคงไม่สบายใจนักหรอกถ้าฉันมีผลงาน”
คมศรมองแพรไพลินด้วยแววตาเข้าใจ
“ปัญหาความรู้สึกส่วนตัวเดิม ๆ อีกแล้ว ทำไมเค้าไม่เลิกอาฆาตพยาบาทครอบครัวคุณซะทีนะ"
“คุณรู้”
คมศรยิ้มจริงใจ
“เราไม่ได้เพิ่งรู้จักกันนะ ผมยังจำเรื่องราวของคุณ และเรื่องราวระหว่างเราได้เสมอ"
แพรไพลินเห็นแววตาจริงใจของเขา รับรู้ได้ว่า ผู้ชายคนนี้ยังคงมีใจให้เธอไม่เสื่อมคลาย
“แพร... มีอะไรระบายออกมาได้ ผมพร้อมจะฟัง”
แพรไพลินเปลี่ยนเรื่องพูดทันที
“ไม่มีอะไรหรอก คมศร คุณเลิกเรียกฉันว่า “แพร” ซะทีเถอะ ปล่อยให้เรื่องราวระหว่างเราเป็นอดีตไปซะ"
คมศรยิ้มแล้วบอก
“ตราบใดที่คุณยังไม่มีใคร คุณไม่ใช่อดีต ผมไม่เคยบอกเลิกคุณสักคำ”
“เราคุยเรื่องนี้กันรู้เรื่องตั้งแต่สองปีที่แล้วนะคะ”
“การตายของผู้กองครามทำให้ผมได้คิด ชีวิตของคนเราไม่แน่นอน จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ ผมอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับคนที่ผมรัก"
คมศรเข้ามาจับมือแพรไพลิน
“เรากลับมาเหมือนเดิมได้มั้ย”
แพรไพลินดึงมือออก
“เพราะปัญหาในครอบครัวแพรใช่มั้ย ทำให้แพรกลัวที่จะมีใครสักคน รึว่าแพรมีใคร”
แพรไพลินอึ้ง คมศรมองคาดคั้นจากแพรไพลิน
“ฉันมีความสุขกับงาน ไม่พร้อมจะแบ่งเวลาให้ใคร ขอบใจคมศรมากนะที่อยู่เป็น
เพื่อนฉันมาตลอด คุณเป็นเพื่อนที่แสนดีของฉันจริง ๆ”
แพรไพลินเอื้อมมือไปแตะไหล่คมศรและมองด้วยสายตาขอบคุณแบบเพื่อน
คมศรผิดหวังที่เธอยังไม่เปิดใจให้เขา แต่คมศรไม่เศร้า ยิ้มสนุกสนานตามบุคลิกแบบเดิม
“ผมไม่ยอมแพ้หรอก วันหนึ่งเพื่อนคนนี้จะเปลี่ยนสถานะให้ได้ แล้วคุณคอยดู”
คมศรจับมือแพรไพลินที่แตะไหล่เขาเอามากุมไว้พร้อมกับรอยยิ้ม
แสงกล้าเดินเข้ามาบริเวณนั้นพอดี เห็นภาพความสนิทสนมของทั้งคู่ก็อึ้งไป เพราะคิดว่าเป็นคนรักกัน แสงกล้าหันหลังกลับ เดินออกไปอย่างเหงา ๆ และเข้าใจผิด

ร.ต.ต. แสงกล้า อภิไชยเดินหน้าจ๋อยอยและหงอยเปิดประตูห้องพักแบบไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกัน เขาบ่นกับตัวเอง
“จะจ๋อยไปทำไมวะ ไม่ได้รักซะหน่อย”
แสงกล้าทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นห้องเหมือนต้องการระบายความอัดอั้นภายในใจ เหลียวไปหยิบนิตยสารที่วางอยู่กับเก้าอี้เล็ก ๆ ด้านหนึ่ง เอามาเปิด ๆ
นิตยสารในมือแสงกล้าเล่มนั้น มีคอลัมน์สัมภาษณ์แพรไพลิน “เคล็ดลับการทำงาน ดอกเตอร์หญิงเหล็ก” ที่คอลัมน์นั้นปรากฏรูปแพรไพลินยิ้มแย้มชัดเจน
เขาลดนิตยสารในมือลงทันที พลางถอนหายใจออกมาเบา ๆ
เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์ ตอนที่ 5

วันใหม่ ภายในห้องแลปที่ทาวน์โฮมแพรไพลิน เธอเปิดถุงพลาสติกเทปลอกกระสุนออกมาบนถาด เธอใช้ปากคีบเกลี่ยปลอกกระสุนแต่ละชิ้นเพื่อสังเกตหาความผิดปกติ
แพรไพลินหันไปเปิดโน้ตบุ๊กเพื่อตรวจสอบหาหลักฐานบางอย่างเกี่ยวกับกระสุนเหล่านี้
ลูกสะกดของขมังเวทย์ยังคงฝังอยู่ที่ท้ายทอยของเธอ ปรากฏแสงเรืองรองเล็ก ๆ ที่ลูกกลมนั้น

ในเวลาเดียวกัน ขมังเวทย์นอนอยู่ในแคปซูลชาร์จพลัง ท่ามกลางบรรยากาศลึกลับน่ากลัว เขาลืมตาขึ้นทันที คล้ายรับรู้อะไรบางอย่าง

ร.ต.ต.แสงกล้า อภิไชยเดินมาตามทางเดินบริเวณเรือนพักตำรวจด้วยอารมณ์สับสนในความรู้สึกตัวเอง ก่อนมาหยุดที่รถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองในบริเวณลานจิดรถ แล้วตัดสินใจโทรศัพท์ออกไป … ที่โทรศัพท์มือถือของเขาระบุชื่อคนที่โทรไปหา “เจ๊ไพลิน..”
โทรศัพท์ของแพรไพลินมีสายเรียกเข้า แต่เธอปิดเสียงไว้เพราะง่วนกับการทดสอบ

เขากดวางสายแบบไม่ค่อยสบอารมณ์ ยืนละล้าละลังอยู่ตรงรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง
“หยิ่ง ชอบให้ไปเซอร์ไพรส์”
แสงกล้าก้าวขึ้นไปบนรถมอเตอร์ไซค์จะสตาร์ทรถแต่เครื่องไม่ติด แสงกล้าพยายามอีกแต่ไม่ติดอีกตามเคย
“ให้มันได้งี้สิ รึว่าเราก้าวเท้าผิด เฮ้ย...ไร้สาระ”
เขาลงจากรถแล้ววิ่งไปโบกเรียกแท็กซี่
ที่มุมหนึ่ง จ่าสมิงยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยแววตาจริงจัง

ภายในห้องแลปทาวน์โฮม แพรไพลินตรวจสอบปลอกกระสุนปืนชิ้นหนึ่ง แล้วนำเอาภาพที่ได้มาเปิดขยายในโน้ตบุ๊ก เธอเคาะนิ้วรัวที่คีย์บอร์ดและคอมพิวเตอร์แสดงผลของกระสุนปืนทั้งหมดที่แพรไพลินนำมาวิเคราะห์
แพรไพลินพอใจมากกับผลที่ได้รับคล้ายเธอพบเงื่อนงำอะไรบางอย่าง
“ผลวิเคราะห์เป็นไงบ้างครับ”
เธอสะดุ้งตกใจที่หันไปเจอแสงกล้า
“มาไม่ให้สุ้มให้เสียง”
“ผมเห็นประตูหน้าเปิดอยู่”
แพรไพลินมองเขาแบบไม่ค่อยสนิทใจ เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งมีเรื่องกันที่เนติเทคฯ เพราะเขาเข้ายุ่งในเรื่องส่วนตัวของเธอกับแม่
“กำลังตรวจสอบหลักฐานอยู่เหรอครับ”
“เอ้อ... ค่ะ”
แพรไพลินรู้สึกแปลก ๆ ที่แสงกล้าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอยังจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนั้นได้
“เปิดประตู เรายังคุยกันไม่จบ”

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 21 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2 ผลิตโดย : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manage