@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[3] วันที่ 27 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[3] วันที่ 27 ธ.ค. 55

แสงกล้าหันมาจ้องหน้าสมิงเป็นทำนองตำหนิ สมิงยิ้มเจื่อนๆ หัวเราะแหะๆ
“ศรัทธา เป็นชื่อเรียก แทนความเชื่อมั่นในการทำความดี ขอเพียงเราศรัทธาที่จะต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและถูกต้อง ความดีจะไม่มีวันดับสูญ คนดีจะไม่มีวันหายไปจากสังคมไทย" ผู้การอินทนนท์บอก
“แนวคิดศรัทธาในการทำความดี จะถูกปลูกฝังจากรุ่นสู่รุ่น ค่านิยมของการทำดีเพื่อสังคมจะต้องคงอยู่ตลอดไป"
ในอดีต … ดร. เมฆา ฐานรัฐเรียกผู้การอินทนนท์เข้ามาหาเพื่อปรึกษาตั้งหน่วยงานนี้ นภาพูดต่อ
“ดอกเตอร์เมฆาตั้งหน่วยงานลับ...ศรัทธาขึ้น เพื่อจรรโลงไว้ซึ่งการทำความดีในสังคม ปกป้องคนดีให้ปลอดภัยจากคนชั่วที่นับวันจะมากขึ้น กฏหมายปกติเอาตัวมาลงโทษไม่ได้"

ในอดีต ดร. เมฆาส่งกล่องฮาร์ดดิสก์ให้ ผู้การอินทนนท์รับมามอง
“รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในฮาร์ดดิสก์”
“ทำไมต้องเป็นผม ผมเกษียณแล้วนะครับดอกเตอร์”


เมฆายิ้มๆแล้วบอก
“ถ้าไม่ใช่ผู้การ ผมคงต้องใช้สตรีหมายเลข 1”
“นภา”
“ผมไม่อยากทำงานกับคนในครอบครัว นอกจากนภา ผมไว้ใจผู้การมากที่สุด”
อินทนนท์นิ่งไปพักหนึ่งคล้ายกำลังตัดสินใจ
“ขอศึกษารายละเอียดก่อนนะครับ ยังไม่รับปากว่าจะทำหรือไม่ทำ”
“ฝากด้วยก็แล้วกัน... ผมเชื่อในการตัดสินใจของผู้การครับ”

ปัจจุบัน ผู้การอินทนนท์มีสีหน้าจริงจัง แววตาดูเครียดเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เมื่อเกิดเหตุการณ์เลวร้ายมากขึ้น”
ภาพของคนดีอย่าง ร.ต.อ.คราม ทรัพย์เอนกกับทอรุ้งต้องเสียชีวิต, ดอกเตอร์เมฆาถูกลอบสังหาร
“ฉันจึงไม่ลังเลใจที่จะทำสร้างหน่วยงานพิเศษนี้ ตามความฝันของดอกเตอร์เมฆา” ผู้การอินทนนท์บอก
แสงกล้ามองไปรอบๆ ตัวเห็นอุปกรณ์สื่อสารทันสมัย จอภาพหลายจอภาพที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
“ผบ.นภา ถือเป็นหนึ่งใน ศรัทธา”
“ฉันรับทำงานนี้... เพื่อสังคม” นภาบอก
“แต่ ผบ.ตกลงมาจากตึกโรงพยาบาล เสียชีวิตไปแล้ว”
สมิงมองนภาอย่างนึกรู้ทัน
“อย่าเชื่อในทุกอย่างที่เห็นสิหมวด เพราะความจริงอาจจะมีมากกว่านั้น”
จ่าสมิงหันไปทางผู้การอินทนนท์แล้วถาม
“ผู้การอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดใส่มั้ยครับ”
ผู้การอินทนนท์นิ่งไม่ตอบ

วันนั้น … ในห้องดับจิต วิญญูยืนมองตู้เก็บศพนภา ลิ้นชักเลื่อนออกมาทันที เขาเดินเข้ามาใกล้ ๆ ลิ้นชักนั้น ยืนมองร่างนภาเพื่อตรวจให้แน่ใจ
นอกประตูด้านในห้องดับจิต อินทนนท์กำลังจ้องมองเหตุการณ์นี้ด้วยสายตาระทึก
ผู้การอินทนนท์เห็นทีมช่วยชีวิตพร้อมอุปกรณ์อยู่ในรถเข็นพร้อมจะเข็นออกไป นาฬิกาดิจิตอลนับถอยหลัง 4 นาที
หมอนพและทีมงานช่วยชีวิตมีท่าทางกังวัลใจ หมอนพหันมากระซิบกับอินทนนท์
“เรามีเวลาไม่เกิน 4 นาที... มิเช่นนั้นหัวใจจะหยุดเต้นถาวร”

แสงกล้ามีสีหน้าเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หันไปถามอินทนนท์
“ผู้การใช้ยากระตุ้นทำให้หัวใจหยุดเต้นเพื่อหลอกไอ้วิญญูว่า ผบ.นภา เสียชีวิต”
“ใช่.. เป็นการเสี่ยงมากเพราะเรามีเวลาไม่เกิน 4 นาที ที่จะทำให้หัวใจกลับมาเต้นใหม่อีกครั้ง"

ภายในห้องดับจิต วิญญูเพ่งมองตรงไปยังตำแหน่งหัวใจของนภา หัวใจด้านใน...หยุดเต้นโดยสิ้นเชิง ! วิญญูยิ้มเหี้ยมพอใจ
ทางด้านนอกประตูห้องดับจิต ผู้การอินทนนท์กับหมอนพต่างหันขวับไปดูนาฬิกาดิจิตอลที่นับเวลาถอยหลัง เลขนาฬิกาดิจิตอลลดลงเรื่อยๆ เหลือเพียงแค่นาทีเศษ
วิญญูยืนมองอาการของนภาอย่างค้นหาเพื่อตรวจสอบความผิดปกติ
นาฬิกาดิจิตอลเวลาลดลงจนเหลือเพียงแค่ 30 วินาที
วิญญูตรวจดูรอบๆ จนมั่นใจ จึงขยับจะเดินออกไป
“ไปรอในนรกก่อน อีกไม่นานไอ้เมฆาจะตามไป ฮึ ๆ ๆ”
ศพนภานอนนิ่งที่ไร้วิญญาณ วิญญูเดินออกไปจากห้องดับจิต
อีกด้านหนึ่งของห้องดับจิต ประตูเปิดออกผู้การอินทนนท์เข้ามาพร้อมกับทีมช่วยชีวิต พร้อมอุปกรณ์ปั๊มหัวใจ อุปกรณ์ช่วยชีวิตเต็มอัตรา
ตัวเลขดิจิตอลเหลือเวลา 10 วินาที ผู้การอินทนนท์ยืนนิ่งมอง ทีมแพทย์ฯ ฉีดยาตรงเข้าไปยังหัวใจและปั๊มหัวใจของนภา กราฟหัวใจนภาเต้นขึ้นมาเป็นปกติ ผู้การอินทนนท์มองเหตุการณ์กู้ชีพนั้น ยิ้มพอใจ

ในสถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้นภา ฐานรัฐสีหน้าและแววตาดูเครียดและแข็งกร้าว
“มีใครรู้เรื่องนี้บ้างมั้ยครับ” สมิงถาม
“ไม่มี นอกจากฉันกับทีมงาน” อินทนนท์บอก
“ผบ.ทำให้ทุกคนคิดว่าตายแล้วเพื่อทำงานใต้ดินเล่นงานรองจักรกับพวก” แสงกล้าบอก
แสงกล้ามองไปรอบๆ เห็นอุปกรณ์พิเศษในฐานนภา
“ถ้าเดาไม่ผิด อุปกรณ์พวกนี้เชื่อมต่อโดยตรงกับเครือข่ายสำนักงานสืบสวนพิเศษโดยผบ.รวิไม่เคยรู้” แสงกล้าว่า
“ถึงตอนนี้คงไม่มีประโยชน์ เพราะมันเห็นหน้าฉันแบบเต็มๆ ความลับเรื่องความตายคงไม่เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว”
นภาพูดจบก็ชี้ไปที่จอภาพวงจรปิดแสดงภาพภายในโรงพยาบาล เห็นวิญญู, รวิ, ลูกน้อง และเจ้าหน้าที่สำนักงานสืบฯ กำลังเดินอยู่ตรงทางเดินโรงพยาบาล

ภายในห้องดับจิต ลูกน้องปราดเข้าไปดึงลิ้นชักที่เก็บศพของนภาออก สายตาทุกคนเห็นว่า ลิ้นชักมีแต่ความว่างเปล่า
“นังนภายังไม่ตาย” วิญญูพูดขึ้น
“มันวางแผนหลอกเรามาตลอด...ฉันจะตามล่ามันมาให้ท่านเอง” รวิบอก
“ไม่ต้อง !”
รวิชะงักหันไปมองวิญญูด้วยสายตาไม่เข้าใจ
“อยู่เฉยๆ ทำเรื่องที่ควรทำ ตามหาจักระนารายณ์ ศาสตราวุธชิ้นสุดท้ายให้พบ ส่วนนังนภากับพวก.. ฮึๆ ฉันมีวิธีทำให้พวกมันออกมาหาพวกเราเอง”
วิญญูยิ้มเหี้ยมแววตามีเลศนัย หันขวับมาจ้องที่กล้องวงจรปิดภายในห้องดับจิตราวกับรู้ว่ามีใครจับตามองอยู่
วิญญูที่จ้องมาที่กล้องวงจรปิดราวกับรู้ว่า มีใครจับตามองอยู่ เขาเอื้อมมือมาดึงกล้องหลุด ภาพในกล้องวงจรปิดภายในฐานนภากลายเป็นพร่าดำไปทันที
“ต่อไปเราคงทำงานยากขึ้น” นภาบอก
“แต่ก็ยังดีที่เรารู้แผนการทั้งหมดของพวกมันแล้ว รองจักรต้องการสร้างอำนาจความยิ่งใหญ่ให้กับตัวเองด้วยการรวบรวมศาสตราวุธทั้ง 4 ชิ้น เพราะเชื่อตามคัมภีร์เทวาศาสตราวุธโบราณว่า หากใครครอบครองแล้วจะยิ่งใหญ่ในทุกสิ่ง"
“ไอ้จักรก็แค่เหยื่อของการถูกหลอกใช้” จ่าสมิงว่า
“จ่าพูดอย่างนี้หมายความว่า...” แสงกล้าพูดขึ้น
“คนที่ต้องการยิ่งใหญ่... เป็นคนเหนือคนคือไอ้พญามารวิญญู !”
“พูดเหมือนเคยรู้จักมัน” แสงกล้าบอก
จ่าสมิงพูดน้ำเสียงจริงจังพลางชี้ไปที่ล็อคเก็ต
“รู้จักสิ... รู้จักดีด้วย ยังมีอีกหลายเรื่องที่หลายคนยังไม่รู้ เรื่องราวนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับล็อคเก็ตบนคอของหมวด”
แสงกล้าจับล็อคเก็ตบนคอจ้องมองอย่างตั้งใจ

ในอดีต บริเวณที่พักของจอมแสง เธอกำลังเลี้ยงดูทารกที่มีล็อคเก็ตที่ห้อยอยู่
“หมวดแสงกล้า... หมวดไม่ใช่เด็กกำพร้าธรรมดาๆ อย่างที่เข้าใจมาตลอดชีวิต แต่หมวดเป็นลูกชายคนเดียวของ โชติฌาณ ศิษย์ผู้พี่สายไสยเวทย์ขาว ของผมเอง"
“จ่ารู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นเด็กคนนั้น แค่สร้อยเส้นเดียวเนี่ยนะ”

สมิงจับล็อกเก็ตบนคอแสงกล้าจ้องมองอย่างตั้งใจ
“ไม่ใช่แค่ล็อคเก็ต แต่เป็นเพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาต่างหาก”
เหตุการณ์การปะทะกันแต่ละครั้งระหว่างแสงกล้ากับขมังเวทย์ ทุกครั้งขมังเวทย์ไม่สามารถใช้เวทมนตร์บังคับแสงกล้าได้เลย
“ผมสงสัยมานานแล้วว่าทำไมพญามารไม่สามารถบังคับหมวดได้เลยสักครั้ง”
แสงกล้ากำล็อคเก็ตเส้นนั้นไว้แล้วมอง
“เพราะล็อคเก็ตเส้นนี้”
“ไม่ใช่แค่เพราะล็อคเก็ต แต่เป็นเพราะความเป็นสายเลือดไสยเวทย์ขาว ! พญามารบังคับคนที่มีไสยเวทย์ติดมากับสายเลือดไม่ได้”
“หมายความว่า”
“หมวดเป็นทายาทโดยตรงของโชติฌาณ.. เจ้าแห่งไสยเวทย์ขาว !”
ทุกคนชะงักไปกับการเปิดผยความจริงครั้งนี้ของสมิง

ในอดีต สถานที่ในบรรยากาศขรึมขลัง เวลากลางวัน วิญญู, มงคล, โชติฌาณ กำลังนั่งสมาธิอย่างตั้งใจหน้าไตรรัตน์
ไตรรัตน์จ้องมองคนทั้งสามพร่ำสอนอย่างตั้งใจ
“ศิษย์เอกของอาจารย์ไตรรัตน์ ปรมาจารย์ไสยเวทย์มีสามคน ฉัน พี่โชติฌาณและ วิญญู อาจารย์สั่งสอนให้พวกเรามุ่งมั่นใช้ไสยเวทย์ขาวเพื่อทางดีงามช่วยเหลือคนที่ประสบทุกข์ ในบรรดาลูกศิษย์ของอาจารย์ไตรรัตน์ทั้งสามคน พี่โชติฌาณมีคุณธรรมสูง... อาคมไสยเวทย์ขาวจึงสูงส่ง มีความก้าวหน้าไปไกลกว่าทุกคน"
โชติฌาณพบรักกับจอมแสง ทั้งสองยิ้มแย้มหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม ท่ามกลางแววตาไม่พอใจของวิญญู
“ไม่เพียงก้าวหน้าทางไสยเวทย์ ... พี่โชติยังเป็นที่รักของคนที่รายล้อม หนึ่งในนั้นคือแม่ของหมวด ทั้งสองรักกันโดยไม่รู้มาก่อนเลย ว่าความรักจะสร้างความไม่พอใจให้กับใครบางคน"

ทุกคนฟังเรื่องราวที่สมิงเล่าและจ้องหน้าแสงกล้าอยู่ตลอด
“ความก้าวหน้าของพี่โชติสร้างความไม่พอใจให้กับวิญญู มันคิดยิ่งใหญ่จึงเปลี่ยนความคิด ก้าวเข้าสู่ไสยเวทย์ดำในเวลาเดียวกับที่หมวดลืมตาดูโลก !”
วิญญูได้ตำราและฝึกปรือวิชาไสยเวทย์ดำ
“เมื่อได้ตำราไสยเวทย์ดำ ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป วิญญูเปลี่ยนพฤติกรรมจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากดีกลายเป็นชั่ว จากคนรู้จักโลก..ลดละกิเลส กลับถูกครอบงำด้วยอำนาจมืด กลายเป็นพญามารทำทุกอย่างเพื่อสนองกิเลสที่รุมเร้าจิตใจ"
ที่มุมหนึ่งในอดีต ไตรรัตน์และโชติฌาณถูกแทงตายนอนจมกองเลือดอยู่ทางหนึ่ง อีกมุมหนึ่ง วิญญูยืนนิ่ง แววตาแข็งกร้าวไม่มีความอ่อนโยนแม้แต่น้อย
สมิงน้ำเสียงสลดลง
“วิญญูฆ่าทุกคนที่จะเป็นอุปสรรคต่อการก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ ทั้งอาจารย์ไตรรัตน์และพี่โชติฌาณพ่อของหมวด ในเวลานั้น คนที่มันคิดจะกำจัดรายต่อไป คือสายเลือดไสยเวทย์ขาวคนเดียวที่เหลืออยู่"
วิญญูก้าวออกไปด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม

สมิงรีบมาที่พักของจอมแสงที่กำลังดูแลทารกแบเบาะอยู่ จอมแสงหันมามองด้วยแววตาแปลกใจ
“รีบหนีเร็ว อยู่ไม่ได้แล้วจอมแสง” มงคลบอก
“ทำไม”
“พญามารกำลังมา... มันจะมาทำร้ายจอมแสงกับลูก หนีไป”
“แล้วพี่โชติ”
“พี่โชติตายแล้ว”
“อะไรนะ”
“พี่โชติตายแล้ว ตายเพราะน้ำมือของมัน เธออยู่ไม่ได้แล้ว ไม่งั้นเธอกับลูกต้องเป็นอันตรายมากกว่านี้ รีบหนีไปเร็ว"
จอมแสงผงะไปด้วยความตกใจ

ที่ริมหน้าผา เวลากลางคืน มงคลยืนประจันหน้ากับวิญญูด้วยสายตาไม่เกรงกลัวกันเลยแม้แต่น้อย
“แกเอาตัวจอมแสงไปไว้ที่ไหน “ วิญญูถาม
“อย่ารู้เลย ต่างคนต่างอยู่กันไปเถอะ พี่จะจองเวรจองกรรมไปถึงไหน”
“ไม่ได้จองเวร แต่มันเป็นวิถีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
“ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนใจพี่ให้เป็นเหมือนเดิมแล้วใช่มั้ย คุณธรรมในตัวพี่มันหายไปไหนหมด"
“ฮึๆ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณธรรมหมายความว่ายังไง ตอนนี้แกกับฉันนิยามคำว่าคุณธรรมต่างกันลิบลับ”
“ถึงเราไม่ได้เป็นพี่น้องกันโดยสายเลือด แต่ฉันรักและนับถือพี่เหมือนเป็นพี่ชายแท้ ๆ ทำไมเราต้องมาเข่นฆ่ากันด้วย"
“บนโลกใบนี้ มหาคุณไสยฯ ต้องมีอยู่เพียงแค่หนึ่ง !”
วิญญูลอยตัวกลางอากาศ มงคลยืนจ้องประจันหน้า
“พี่กำลังปล่อยให้กิเลสครอบงำจิตใจ แท้จริงแล้วบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรจีรัง ทุกอย่างมีเกิด ต้องมีดับ มันเป็นสัจธรรมของโลก !”
วิญญูไม่ฟัง ทั้งสองคนมองดูเชิงกันแล้วกระชากปืนยิงใส่ แต่กระสุนของทั้งสองฝ่ายก็มาชนและระเบิดตรงกลาง...ปัง !
ทั้งสองยิงปืนรัวใส่กันอีกครั้ง ทำให้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย แต่ในที่สุดมงคลโดนวิญญูเล่นงานจนย่ำแย่เพราะสู้ไสย์เวทย์ดำไม่ได้ จนกระอักเลือดล้มคว่ำไป
“อย่าทำชั่วทำเลวอีกเลย กลับมาเป็นคนเดิมเถอะ !”
วิญญูไม่ฟัง ซัดมงคลอีกครั้งจนกระอักเลือด หมดลมล้มคว่ำไป วิญญูยิ้มพอใจ
สายตาสมิงที่ใกล้หมดสติเห็นร่างวิญญูจ้องเขาเขม็งแล้วเดินจากไป ก่อนภาพทั้งหมดจะดับวูบ
สมิงสีหน้าจริงจังขณะเปิดเผยความจริงที่แสงกล้าแทบล้มทั้งยืน
“หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ผมคิดว่าพญามารตายไปแล้ว.. คิดไม่ถึงว่ามันจะกลับมาอีกครั้ง"
“แล้วจอมแสงไปไหน ทำไมแสงกล้าถึงต้องไปอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”

บริเวณป่ารกริมหน้าผา เวลากลางวัน จอมแสงอุ้มพาแสงกล้าวัยทารกหนีมาด้วยความหวาดกลัว
พายุลมแรงโหมกระหน่ำเหมือนกำลังมีความเลวร้ายไล่ล่าเธออยู่อย่างไม่ลดละ จอมแสงหันหลังกลับไปมองด้วยความหวาดกลัว วิญญูปรากฏร่างขึ้นอย่างน่ากลัว
“ไม่... อย่า...อย่าทำอะไรฉันกับลูกเลย ฉันกลัวแล้ว”
วิญญูสะบัดแขนเต็มแรง ฟ้าผ่าเปรี้ยง ! เข้าที่ต้นไม้ใหญ่จนล้มลงฟาดเข้าใส่ร่างจอมแสงตกลงหน้าผาไปพร้อมกับเด็ก
“ว๊าย”
“จอมแสงโดนไอ้วิญญูทำร้ายจนตกหน้าผาไปพร้อมกับลูก ผมเองก็นึกว่าแสงกล้าตายไปพร้อมกับจอมแสงแล้ว"
วิญญูมองภาพนั้นด้วยความพอใจ

จ่าสมิงเดินเข้าไปแตะไหล่แสงกล้า พูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นและจริงจัง
“เมื่อก่อนเราอาจจะสู้กับพญามารแบบไร้ทิศทาง โอกาสจะชนะมันมีน้อยเต็มที แต่วันนี้เรามีความหวังแล้ว”
สมิงจ้องไปที่แสงกล้า นภากับอินทนนท์หันมาจ้องแสงกล้าอย่างจริงจัง
“คนๆ เดียวที่จะสามารถล้มพญามารได้ ต้องเป็นสายเลือดไสยเวทย์ขาวโดยตรงของโชติญาณ นั่นคือหมวดแสงกล้า !”
แสงกล้ามีสีหน้าและแววตาเครียดขึ้นมาทันทีเมื่อรับรู้ว่าภาระที่ยิ่งใหญ่อยู่กับตัวเอง

บริเวณสะพานสวย เวลาเช้ามืดใกล้พระอาทิตย์ขึ้น สีหน้าของร.ต.ต. แสงกล้า อภิไชยดูจริงจังและเครียดเมื่อนึกถึงคำพูดของจ่าสมิง
“วิญญูเป็นคนฆ่าพี่โชติฌาณพ่อของหมวด...”
ในความคิดของแสงกล้า จินตนาการเห็นโชติฌาณโดนวิญญูแทงเลือดพุ่งออกจากร่าง
“มันอยู่เบื้องหลังความเลวร้ายของสังคมไทยในทุกวันนี้”
เหตุการณ์ที่ ร.ต.อ.คราม ทรัพย์เอนกเสียชีวิต, ดร. เมฆา ฐานรัฐนอนอาการปางตาย ผบ. นภาโดนโยนออกมาจากตึก
แสงกล้ามายืนอยู่ที่กลางสะพาน ทอดสายตามองสายน้ำที่ไหลผ่านอยู่เบื้องล่างเหมือนกำลังสับสนกับความคิดและความเชื่อมั่นของตัวเองที่เป็นความหวังในทุกอย่าง รวมถึงความแค้นใจเรื่องที่วิญญูฆ่าพ่อของเขา
“ความหวังเดียวของเราที่เหลืออยู่ ในยามที่พญามารกำลังจะได้ครอบครองเทวาศาสตราวุธทั้งสี่ คนๆ เดียวที่จะสร้างความถูกต้องได้ คือสายเลือดโดยตรงของไสยเวทย์ขาวที่เหลืออยู่...หมวดแสงกล้า !”
แสงกล้าแววตาเต็มไปด้วยการครุ่นคิดยืนนิ่งอยู่ที่กลางสะพานบนบรรยากาศพระอาทิตย์กำลังขึ้นเหนือท้องน้ำ

เช้าวันเดียวกัน ที่บ้านพัก สมิงยืนนิ่งใช้สมองครุ่นคิด มองภาพถ่ายเก่าขาวดำของวิญญูในวัยหนุ่มที่ถืออยู่ในมือ สมิงถอนหายใจยาว พึมพำกับตัวเอง
“หมวดแสงกล้า... ถึงคุณจะเป็นความหวังเดียวที่เหลืออยู่ แต่คุณคงฆ่าไอ้วิญญูไม่ได้แน่นอน ชะตากรรมกำหนดมาอย่างนั้น !”
สมิงพูดกำกวมแบบนั้นด้วยสีหน้าและแววตาเครียด เขายังคงยืนนิ่ง ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต... บริเวณที่พักของจอมแสง เวลากลางวัน จอมแสงกำลังเลี้ยงดูแสงกล้าอยู่
“เพราะหมวดเป็นลูกชายคนเดียวของไอ้วิญญู ศิษย์ผู้พี่สาย ไสยเวทย์ขาวของผม”
วิญญูเดินเข้ามาหาจอมแสง ทั้งสองยิ้มแย้มกันแบบคนรัก
“พี่โชติฌาณกับไอ้วิญญูเป็นคนๆ เดียวกัน”

ความที่สมิงเล่าให้แสงกล้าและทุกคนฟังว่า วิญญู, มงคล, โชติฌาณ กำลังนั่งสมาธิอย่างตั้งใจหน้าไตรรัตน์ที่พร่ำสอนอย่างตั้งใจ แท้ที่จริงแล้วมีเพียงมงคลกับวิญญูนั่งอยู่กับไตรรัตน์เท่านั้น
“ความจริงแล้วศิษย์อาจารย์ไตรรัตน์ มีแค่สองคน”
ครั้นเวลาผ่านไป บุคคลิกของวิญญูก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
“แต่พี่โชติฌาณฝ่าฝืนคำสั่งอาจารย์ ฝึกไสยเวทย์ดำจนถูกอำนาจมืดครอบงำจิตใจ"
เรื่องเล่าจากอดีตที่ว่า ไตรรัตน์และโชติฌาณถูกแทงตายนอนจมกองเลือดนั้น วันนั้น มีเพียงไตรรัตน์นอนตายอยู่คนเดียว วิญญูยืนนิ่ง แววตาแข็งกร้าวไม่มีความอ่อนโยน
“พี่โชติฆ่าอาจารย์เพื่อความยิ่งใหญ่ของตัวเอง”
วิญญูก้าวออกไปด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม

สมิงรีบมาที่พักของจอมแสงที่กำลังดูแลทารกแบเบาะอยู่ จอมแสงหันมามองด้วยแววตาแปลกใจ
“รีบหนีเร็ว อยู่ไม่ได้แล้วจอมแสง พี่โชติฆ่าอาจารย์ไตรรัตน์ตายแล้ว คนต่อไปที่จะโดนฆ่าคือไอ้หนูนี่”
จอมแสงตกใจ
“ทำไมพี่โชติทำอย่างนั้น”
“ไสยเวทย์ดำครอบงำจิตใจพี่โชติกลายเป็นพญามารไปแล้ว เค้ากำลังจะมาทำร้ายจอมแสงกับลูก หนีไป"
“พี่โชติจะทำร้ายลูกตัวเองได้เชียวเหรอ” จอมแสงถาม
“พญามารทำได้ทุกอย่างเพื่อตัวเอง มีเพียงเด็กคนนี้ที่จะทำให้อำนาจไสยเวทย์ดำเสื่อมลง เค้าต้องฆ่าเด็กคนนี้แน่ๆ”
“แล้วพี่ล่ะ”
มงคลเน้นย้ำ
“พี่จะถ่วงเวลาไว้เอง จำไว้นะจอมแสง พี่โชติกลายเป็นพญามารไปแล้ว เค้าเป็นพ่อที่ฆ่าลูกได้ แต่ลูกชายคนนี้ จะไม่มีวันจะฆ่าพ่อตัวเองได้ ชะตากรรมกำหนดมาอย่างนั้น !”
"อะไรนะ"
“เด็กคนนี้เมื่อโตขึ้น จะสามารถทำให้ไสยเวทย์ดำเสื่อมลง เธอกับลูกต้องหนีไป รีบหนีไปเร็ว"
จอมแสงผงะไปด้วยความตกใจ
...จนถึงเหตุการณ์ที่จอมแสงโดนวิญญูไล่ล่าแล้วตกหน้าผาไป วิญญูยิ้มพอใจ

จ่าสมิงสีหน้าเครียดมาก เมื่อคิดถึงเรื่องราวความจริงที่ผ่านมา
“หมวดแสงกล้า ฉันจำเป็นต้องปิดเรื่องอดีตไม่ให้หมวดรู้ ถ้าพญามารครอบงำเอาหมวดไปเป็นพวกอีกคน โลกใบนี้คงสูญสิ้น !”

ภาพ CCTV มุมสูงที่ปรากฏบนจอวงจรปิดในห้องคอมพิวเตอร์ตอนเช้ามืด พญ แพรไพลิน นวิยากุลเห็นร่างของแสงกล้าชัดเจน ภาพกำลังซูมเข้าไปเห็นเป็นใบหน้าของแสงกล้าเพื่อความแน่ใจ
“หมวดแสงกล้า”
แพรไพลินรีบลุกเดินออกไปจากห้องคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจ และมองไม่เห็นว่า มีอะไรวางอยู่ทางด้านหน้า
ที่หน้าห้องนั้นมีแก้วกระดาษใส่กาแฟร้อน วางอยู่พร้อมกับขนมชิ้นเล็กๆ ข้างๆ แก้วมีกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่ง เขียนข้อความไว้สั้นๆ “กาแฟนมถั่วเหลือง... เป็นห่วง จาก คมศร” วางอยู่ด้วย

วันเดียวกัน น้ำใส ภูมิภักดิ์นั่งฟุบหลับอยู่ที่หน้าห้องพักแสงกล้า ในสภาพเหมือนไม่ได้นอน มาเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องนี้ทั้งคืน แสงกล้าเดินเข้ามาเห็น ตรงเข้าไปสะกิดเรียก
“น้ำใส... น้ำใส”
น้ำใสอาการงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นว่าแสงกล้าปลอดภัยและกลับมาบ้านแล้วก็ยิ้มยินดี
“แสงกล้า”
“มาทำไม”

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[3] วันที่ 27 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2 ผลิตโดย : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manage