@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[3] วันที่ 30 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[3] วันที่ 30 ธ.ค. 55

บริเวณวัดร้าง แสงกล้ายังคงนอนไม่หลับตั้งแต่เมื่อคืน เขาเอามือจับวัชระที่ห้อยคออยู่ จ้องมองอย่างครุ่นคิด รอบๆ ข้างแสงกล้า สมิง จ่าหวาน และ ดาบแหบ ต่างหลับอยู่ตามมุมต่าง ๆ
แสงกล้าหันไปมองทางอินทนนท์ที่ยังไม่หลับเช่นกัน
“เราจะทำยังไงกันต่อไปครับท่าน”
“หาทางชิงของสำคัญทั้งสี่กลับมา” อินทนนท์บอก
"ด้วยวิธีไหนครับ"
“พวกมันคงรู้แล้วว่าได้ศาสตราวุธไปไม่ครบ บางทีเราอาจจะไม่ต้องทำอะไรเลย แค่รอเวลาให้พวกมันเป็นฝ่ายมาหาเราเอง”

บริเวณเชิงตะกอน ไฟมอดใกล้จะดับหมดแล้ว นภาที่นั่งอยู่ด้านหน้าผลอยหลับไป
นภาที่หลับอยู่นิ่วหน้าคล้ายกำลังฝัน ภาพเหตุการณ์ในอดีตเข้ามาในความทรงจำของเธออีกครั้ง
“อำนาจมืดจะครอบครองทุกชีวิตบนโลกนี้ ไม่มีใครขัดขวางเส้นทางของฉันได้ ที่ ๆ คนดีอย่างพวกแกจะไปอยู่รวมกันมีอยู่ที่เดียว.. คือ...นรก”



วิญญูยกร่างนภาขึ้นด้วยมือเดียวแล้วโยนไปกระแทกหน้าต่าง ร่างของเธอกระแทกกระจกหน้าต่างจนแตกละเอียด ร่างของนภากระแทกที่หลังคารถยนต์คันที่จอดอยู่ เสียงสัญญาณกันขโมยดังลั่น
นภาที่ยังคงหลับอยู่... เธอนิ่วหน้า ระลึกถึงความหลังตอนที่สามารถรอดชีวิตไปได้

ทางเดินใต้ดินของโรงพยาบาล เหตุการณ์หลังจากที่นภาตกลงมาจากตึกแล้ว ดวงตะวันกำลังเข็นเตียงนภาไปตามทางเดินที่เงียบไม่มีคน ผู้การอินทนนท์เดินตามมาอย่างรวดเร็ว นภาที่ไม่ได้สติ แต่นิ่วหน้าคล้ายกำลังเจ็บปวดสาหัส
“ยืนยันสถานที่แน่นอนแล้วใช่มั้ย”
“ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งส่งสถานที่มาให้ค่ะ ย้ำว่าเราต้องรีบไปภายในคืนนี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป"
นภาที่เจ็บปวดและยังไม่ฟื้น แต่รับรู้ได้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว

ร่างนภานอนอยู่ในบ่อว่าน และยังคงไม่พื้นจากอาการบาดเจ็บ รอบๆ บ่อว่านมีแสงสว่างโดยรอบคล้ายมีเวทย์มนตร์บางอย่างล้อมรอบอยู่ อินทนนท์เดินเข้ามามองจอมนางที่กำลังดูอาการและรักษานภา
จอมนางรู้ว่าอินทนนท์กำลังจ้องอยู่ แต่ไม่หันหน้ามา
“เชื่อมั่นเถอะว่าคุณกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง" จอมนางบอก
“คุณตาบอด” อินทนนท์ว่า
“ใช่... แต่ไม่ใช่ปัญหาที่ฉันจะช่วยผู้หญิงคนนี้”
“คุณเป็นใครกันแน่”
“ผู้นำสาร...”
"ผู้นำสาร?” อินนนท์ทวนคำแต่นิ่วหน้าด้วยความสงสัย
จอมนาง ผู้เป็นน้องสาวของจอมแสง หยิบถุงผ้าออกมา เมื่อเปิดออกก็เห็นยาสมุนไพรเม็ดกลมใสราวกับเป็นลูกแก้ว เธอหยิบออกมา
“ก่อนอาจารย์ไตรรัตน์จะตาย ท่านเรียกฉันเข้าไปสั่งให้นำสิ่งนี้มาให้ผู้หญิงคนนี้”
อินทนนท์มองด้วยสายตาประหลาดใจ
“อาจารย์มองเห็นอนาคตบางอย่าง... อีก 20 ปีผู้หญิงคนนึงจะตายไม่ได้ เธอต้องรอดชีวิตด้วยมนตราแห่งไสยเวทย์ขาว เพื่อความถูกต้องและความดีงามที่จะคงอยู่ตลอดไป"
จอมนางหย่อนลูกแก้วสมุนไพรลงไปในบ่อน้ำว่านที่นภาแช่ตัวอยู่ บังเกิดแสงสีสวยงาม ร่างของนภาที่แน่นิ่งกลับสีน้ำมีนวลคล้ายกำลังจะกลับมามีชีวิต

“ผู้หญิงคนนี้ต้องรอดชีวิต เพื่อทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามที่ควรจะเป็น”
จอมนางนิ่งคล้ายทำสมาธิที่บ่อว่านสักครู่ แล้วจึงลุกขึ้นเหมือนจะเดินออกไป
"คุณจะไปไหน"
"ภารกิจของฉันเสร็จสิ้นตามที่ได้รับมอบหมาย หมดหน้าที่ของฉันแล้ว"
"เดี๋ยวก่อน...”
จอมนางไม่ฟังอินทนนท์ เดินหายไปในความมืดทันที
อินทนนท์หันกลับไปมองที่ร่างนภา สีหน้านภาดีขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนปกติ นภาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา มองไปรอบๆ งงๆ
"คุณปลอดภัยแล้วนภา"
นภานิ่งคิด มองไปรอบๆ แล้วถาม
“ท่านผู้การ... ฉันจำได้ว่าโดนโยนลงมาจากชั้นบนของโรงพยาบาล แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”
“มีผู้หญิงคนหนึ่งติดต่อไปที่เรา เธอต้องการช่วยชีวิตคุณ”
"ใคร"
“เรารู้แต่ว่าเธอเป็นความหวังเดียวที่จะทำให้คุณรอดชีวิต”
นภาจับเนื้อจับตัวตัวเองด้วยความแปลกใจ
“เรายังมีภารกิจมากมายที่ต้องทำด้วยกัน ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า คุณต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อสร้างความถูกต้องและยุติธรรมให้กับโลกใบนี้”
นภา ฐานรัฐอึ้งไปนิดหนึ่ง อินทนนท์จ้องหน้านภาด้วยสายตาเชื่อมั่น

นภาผวารู้สึกตัว ตื่นขึ้นมาจากความฝัน มองไปรอบๆ ตัว ยังคงอยู่ในอารมณ์เศร้าจากการจากไปของเมฆา เธอลุกขึ้นเดินมายังเชิงตะกอนที่ใช้เผาศพ เห็นร่องรอยของขี้เถ้าที่อยู่บนเชิงตะกอนนั้น เธอยืนมองด้วยความสะเทือนใจ
“ลาภ ยศ ชื่อเสียง ตำแหน่ง คนเราจะแสวงหาไปทำไมให้มากมาย สุดท้ายก็เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้สักอย่าง”

นภาชะงักไป หันมองไปตามเสียง เห็นเมฆายืนอยู่ในมุมมืดมุมหนึ่งไกลออกไป เธอมองที่เชิงตะกอนก่อนบอก
“เมฆา? แต่คุณตายไปแล้ว... ไอ้วิญญู”
นภาชะงักคิดว่าเป็นวิญญูที่ปลอมตัวมา เธอกระชากปืนพกออกมาเหนี่ยวไกยิงออกไป เปรี้ยงๆ ๆ แต่พอเหลียวไปมองอีกครั้งร่างของเมฆาหายไปแล้ว
นภาหันมาที่ข้างตัว ก็ชะงักไปทันทีเพราะเมฆากลับมาปรากฏตัวอยู่ที่ข้าง ๆ เมฆาเอามือแตะมือข้างที่ถือปืนของนภา กดให้นภาลดปืนลง ใบหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความเมตตา
“อย่ากังวลใจไปเลย... ผมเป็นสามีของคุณ สามีที่รักภรรยาคนนี้มากที่สุด ผมไม่มีวันทำร้ายคุณหรอก”
นภามองหน้าเมฆา พอเห็นรอยยิ้มและแววตาผูกพัน เธอชะงักไปนิดหนึ่ง เอื้อมมือไปแตะที่ใบหน้า ระลึกได้ว่าเป็นเมฆาตัวจริงแน่นอน
นภาโผเข้ากอดเมฆาทันที น้ำตาแห่งความปิติเอ่อล้น เมฆายิ้มกอดตอบ
นภามองไปทั่วร่างเมฆา
“เมฆา... คุณรู้มั้ยคะว่าฉันเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน คุณปลอดภัยใช่มั้ย คุณยังไม่ตาย”
เมฆายิ้มตอบนิ่งๆ
“ผมยังตายไม่ได้ ตราบใดที่คุณยังเป็นแบบนี้”
เมฆาเอานิ้วเช็ดน้ำตานภาที่ไหลออกมาด้วยความปิติ
“จำไม่ได้เหรอ เราเคยพูดกันเสมอ...ความดีไม่มีวันตาย ตราบใดที่เรายังมีศรัทธา ความดีจะคงอยู่บนโลกใบนี้ตลอดไป”
“เมฆา...คุณคือความหวัง เป็นแสงสว่างในชีวิตฉัน ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ ฉันพร้อมจะสู้กับความชั่วร้ายทุกอย่าง เราจะไม่มีวันพ่ายแพ้ต่อความไม่ถูกต้อง ฉันจะพิสูจน์ให้พวกมันเห็น พวกมันไม่มีทางทำลายศรัทธาในการสร้างความดี”
นภากอดกับเมฆาด้วยความยินดีที่เขายังคงรอดชีวิต

นภากับเมฆานั่งคุยกันท่ามกลางบรรยากาศแสงสวยพระอาทิตย์ใกล้ขึ้น
“คุณไปอยู่ที่ไหนมาคะ แล้วทำไมถึงตามมาที่นี่ถูก”
เมฆายิ้มๆบอก
“ผมอยู่กับคุณเสมอนภา ไม่เคยหนีไปไหนจากคุณเลย”
นภามองหน้าเมฆาด้วยความรู้สึกรักและผูกพัน พลางเอื้อมไปจับมือเมฆาไว้
“ฉันนึกว่าจะสูญเสียคุณไปแล้ว ถ้าคุณตาย... ความเชื่อมั่นในการทำความดีของฉันคงหมดสิ้นไป”
“ผมเข้าใจ เหมือนกับที่คนสมัยนี้ชอบพูดกันใช่มั้ย...ทำดีไม่ได้ดี แต่คุณเคยคิดบ้างมั้ย ความดีของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อะไรที่เรียกว่าดี และอะไรที่เรียกว่าทำความดี เมื่ออยู่ในชีวิตประจำวัน เรามักแยกไม่ออกในเรื่องของทางโลกและทางธรรม”
นภาชะงักหันมามองหน้าเมฆา รู้สึกได้ถึงความจริงจังในน้ำเสียงในครั้งนี้
เมฆาพูดเน้นย้ำ
“สำหรับผม... ความดีกับการ เกิด แก่ เจ็บ ตายมันเป็นคนละเรื่อง”
เมฆาพูดพลางลุกขึ้นยืน มองไปที่ท้องฟ้าเบื้องหน้าที่แสงอาทิตย์เริ่มส่องพ้นขอบฟ้า นภาลุกขึ้นมองตาม
“เมื่อหมดบุญ สิ้นอายุขัย คนดีก็ตายได้ แล้วการที่คนดีตายเนี่ย มันจะหมายถึงทำดีแล้วไม่ได้ดีงั้นเหรอ”
"แต่ความดีก็ไม่ควรจะพ่ายแพ้ต่อความชั่ว คนดีไม่ควรจะถูกคนชั่วทำลาย"
“ต่างกันตรงไหน... ในเมื่อสุดท้ายไม่ว่า ชั่ว หรือ ดี ก็ไม่มีใครหนีความตายพ้น”
นภาชะงักไป นิ่งฟังคำพูดของเมฆา แม้ว่าสายตายังคงไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไรนัก
“ทรัพย์สิน ฐานะ หรือหน้ากากทางสังคมที่มนุษย์สมมุติสร้างขึ้น ตัดสินความเป็นคนไม่ได้หรอกนะ ... คุณค่าของความเป็นคนไม่ได้สิ้นสุดลงที่ความตาย คุณงามความดีที่แต่ละคนสร้างไว้ให้กับสังคมต่างหาก ที่จะยังคงอยู่ในความทรงจำของคนตลอดไป”
เมฆาเดินเข้ามาหานภา เอามือแตะที่ไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้
“สังคมคงอยู่ไม่ได้ ถ้าคนไม่สร้างคุณค่าของตัวเองด้วยการสร้างความดี คุณต้องกลัวให้น้อยกว่าที่กล้า ศรัทธาให้มากกว่าที่เห็น ความดีไม่เคยพ่ายแพ้ต่อความชั่วร้าย !นี่คือสัจธรรมที่ไม่ต้องพิสูจน์”
“คุณตายแล้วใช่มั้ย” นภาเสียงแผ่ว
“ถึงตัวจะไม่ได้อยู่กับคุณ แต่ผมจะคงอยู่ในจิตใจของคุณตลอดไป”
เมฆาถอดสร้อยคอที่ร้อยแหวนเงินที่ใส่อยู่ภายในเสื้อ สวมให้กับนภา นภาจับสร้อยเส้นนั้น
“แหวนเงินวงแรกที่ฉันซื้อให้คุณ”
“นภา... คุณต้องเชื่อมั่นในคุณธรรม เชื่อมั่นในการทำความดี ศรัทธาของคุณเท่านั้นที่จะทำให้สังคมของเราดีขึ้น”
เมฆาเดินห่างออกมาจากนภา
“คุณจะไปไหน...”
“ผมไม่เคยตายไปจากจิตใจคุณเลย...นภา คุณต้องศรัทธา ความดีต้องชนะความชั่ว”
เมฆายิ้มแล้วค่อยๆ เดินจากออกไป นภามองตามด้วยแววตาอาวรณ์และร้องเรียก
"เมฆา... เมฆา...”
นภาพยายามร้องเรียก คว้าตัวเมฆาที่กำลังจะจากไป
นภาตกใจตื่น... ลุกขึ้นจากฝัน เธอหันไปมองรอบๆ ตัวคล้ายงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น
"ฝัน" นภารำพึง
นภาเดินไปมองเชิงตะกอนที่มอดไฟแล้ว สีหน้าและแววตาดูเข้มแข็งขึ้น
“เมฆา... คุณจากฉันไปอย่างไม่มีวันกลับแล้วจริงๆ”
นภาสลดลงนิดหนึ่งและกำลังจะเดินออกไป แต่แล้วเธอรู้สึกว่ามีอะไรห้อยอยู่ที่คอ จึงลองจับดูพบว่าเป็นสร้อยคอที่ร้อยแหวนเงิน ซึ่งเธอฝันไปเมื่อครู่ว่าเมฆาเป็นคนมาสวมไว้ให้
"เมฆา"
นภามีสีหน้าแปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

นภาเดินเข้ามาหาผู้การอินทนนท์กับพวก ซึ่งกำลังเตรียมตัวจะออกเดินทางไปจากวัดนี้
"ฉันพร้อมแล้วค่ะผู้การ เราต้องเอาของสำคัญกลับคืนมา" นภาบอก
อินทนนท์ยิ้มยินดีบอก
“ผบ.นภากลับมาแล้ว”
ทุกคนที่กำลังเก็บข้าวของต่างหันมามอง นภาจ้องไปที่ทุกคนแล้วประกาศกร้าว
“ร่างกายของดอกเตอร์เมฆาอาจจะสูญสิ้นไปหมดแล้วจากโลกใบนี้ แต่จิตวิญญาณแห่งความดีของเค้า ยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวเราอยู่ตลอดเวลา ดอกเตอร์เมฆาคือศรัทธา คือสัญญลักษณ์ตัวแทนของความดีที่ไม่มีวันตาย พวกเราต้องต่อสู้เพื่อความถูกต้องตลอดไป...”
นภามีสีหน้ามุ่งมั่น

วันเดียวกัน จักรเข้ามาหาวิญญู วิญญูจ้องหน้าจักรแล้วพูดขึ้น
“ฉันมีวิธีที่จะเอาวัชระมาจากไอ้แสงกล้า”
"ทำยังไง"
"แพรไพลิน... ผู้หญิงคนนี้จะทำให้เราได้ตรีศูลวัชระที่สมบูรณ์"

รถของเพชรแท้แล่นเข้ามาจอดภายในบ้าน เธอเปิดประตูกำลังจะเดินลงมาจากรถทางเบาะหลัง
“มนุษย์ทุกคนมีบ่วงกรรม ... ความผูกพันในความรักจะทำให้พวกมันพลาด สูญเสียทุกอย่างให้กับเรา" วิญญูบอก
เพชรแท้เดินมาถึงประตูทางเข้า ดาหลากับสมุนเดินออกมา
"รองจักรเรียกฉันมาพบที่นี่"
“เชิญด้านนี้ดีกว่าค่ะ... ท่านวิญญูกำลังรอพบคุณอยู่”
เพชรแท้ชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อรู้ว่าเป็นวิญญูไม่ใช่จักร แต่ก็เดินตามดาหลากับสมุนไปอีกทางหนึ่ง
เพชรแท้สีหน้าหวาดหวั่น อย่างบอกไม่ถูก เมื่อมองบรรยากาศทางไปดูลึกลับน่ากลัว

เพชรแท้เดินเข้ามาภายในโถงของขมังเวทย์ ซึ่งมีบรรยากาศมืดสลัวขรึมขลังดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
เธอมองไปรอบๆ ชักจะเริ่มกลัว ครั้นจะเดินหันหลังกลับออกไป แต่ประตูหน้ากลับปิดเต็มแรง...ปัง ! เธอเดินต่อไปด้วยแววตาหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
"รองจักร... ฉันมาแล้วค่ะ รองจักร"
เพชรแท้เดินต่อไป มีของด้านหลังเพชรแท้หล่น... โครม ! เธอผวาสะดุ้งสุดตัวหันไปมอง เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าเป็นเพียงของชิ้นหนึ่งหล่นลงพื้นเท่านั้น
เงามืดวูบมาทางด้านหลังเพชรแท้ เพชรแท้ตกใจหันขวับไปดู แต่ไม่พบอะไร แววตาหวาดกลัวมากขึ้น
“มาตรงเวลาจริงๆ ... คุณเพชรแท้” ขมังเวทย์บอก
“ท่านวิญญู... ทำฉันตกอกตกใจหมดเลย ทำไมถึงนัดฉันมาที่นี่ล่ะคะ”
เพชรแท้พูดพร้อมๆ กับหันหลังกลับมา แต่เห็นวิญญูไม่ชัดเพราะเขาอยู่ในมุมมืดลับแนวเหลี่ยมเสาออกไป
ขมังเวทย์น้ำเสียงเหี้ยมบอก
“เพชรแท้ ฉันมีเรื่องขอความช่วยเหลือ”
“ด้วยความยินดีเลยค่ะ มีอะไรบอกมาได้เลย”
ขมังเวทย์ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกมาจากเหลี่ยมเสา สภาพที่แท้จริงของวิญญูในตอนนี้อยู่ในชุด
ขมังเวทย์ เพชรแท้เบิกตาโพลงด้วยความหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
“ไม่ว่าจะยินดีหรือไม่ก็ตาม...เธอต้องทำ !”
ขมังเวทย์ตรงเข้าประชิดตัวเพชรแท้ที่หนีออกไปไม่ทัน กระชากร่างเพชรแท้มากอดไว้ตรงหน้า
ขมังเวทย์ถือลูกสะกดฝังเข้าไปที่ท้ายทอยเพชรแท้ที่ร้องลั่น
“โอ๊ย”
เพชรแท้เบิกตากว้างด้วยความเจ็บปวด

วันเดียวกัน ภายในทาวน์โฮม แพรไพลินกำลังเดินอยู่ภายในห้องทำงาน เสียงสัญญาณเตือนในคอมฯ ตั้งโต๊ะดังขึ้น แพรไพลินมากดดู ...เห็นข้อความเตือนวันเกิดแม่ “Today happy birthday Mom..”
แพรไพลินรำพึง
"วันเกิดแม่"
แพรไพลินนิ่งคิดถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับแม่แล้วสีหน้าเครียดมากขึ้น เพราะยังไม่เข้าใจกัน เสียงสัญญาณติดต่อทางเฟซไทม์ในคอมฯ ดังขึ้น แพรไพลินกดรับสายเห็นเป็นแสงกล้า

ภายในบริเวณเซฟเฮ้าส์แห่งใหม่ แสงกล้ากำลังใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อกับแพรไพลินทางเฟซไทม์
สีหน้าแสงกล้าดูเป็นห่วงแพรไพลินเป็นอย่างยิ่ง
“คุณเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่เป็นไร... ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันควรจะถามคุณมากกว่าว่าเป็นยังไง สายของเนติเทคฯ แจ้งฉันว่าพวกคุณโดนถล่ม”
"ใช่... เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ"
"ทุกคนปลอดภัยดีใช่มั้ย"
“ปลอดภัยดี... แต่ไม่ทุกคน”
แพรไพลินตกใจถาม
“มีใครเป็นอะไร”
"ดอกเตอร์เมฆา...”
"ทำไม.. ท่านนายกฯเป็นอะไร"
แพรไพลินสีหน้าตกใจมาก

เพชรแท้ที่นั่งอยู่ทางเบาะหลัง สีหน้าแจ่มใสไม่เหมือนโดนลูกกลมสะกดอยู่ คนขับหันมาถาม
"กลับเข้าบ้านเลยใช่มั้ยครับ"
"แวะซื้อของก่อน วันนี้วันเกิดฉัน ฉันจะไปทานเลี้ยงฉลองที่บ้านแพรไพลิน"
คนขับรถชะงักด้วยความแปลกใจ
“อะไรนะครับ”
“ไปแวะซื้ออาหารอิตาเลียนที่ร้านหน้าหมู่บ้านยายแพรฯ”
“เอ้อ... แล้วจะให้โทรแจ้งคุณแพรก่อนมั้ยครับ ว่าท่านกำลังจะเข้าไปหา”
"ไม่ต้อง... ฉันต้องการเซอร์ไพรส์ลูกสาว"
เพชรแท้ยิ้มแย้มท่าทางอารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง

แพรไพลินถอนหายใจยาวเมื่อรับรู้เรื่องราวทั้งหมดจากแสงกล้าผ่านการคุยเฟซไทม์
"เท่ากับสิ่งที่เราทำลงไปทั้งหมดสูญเปล่า" แพรไพลินว่า
"ก็คงอย่างนั้น...แต่ก็ยังดีที่เรามีโอกาสได้สู้"
"ผบ.นภา เป็นยังไงบ้างคะ"
“กำลังใจดีมาก... เรากำลังจะทำภารกิจใหญ่อีกครั้งเพื่อชิงศาสตราวุธทั้งหมดกลับมา รวมทั้งเปิดโปงความชั่วร้ายของพวกมัน”
"ต้องการความช่วยเหลืออะไรบอกมาได้เลยนะ ฉันจะจัดการให้"
“ขอบคุณมาก... ผมส่งอีเมลไปแล้วครับ”
สีหน้าแพรไพลินที่ยังคงหม่นหมอง ตัดสินใจได้ไม่ขาดเรื่องเกี่ยวกับแม่ตัวเอง
แสงกล้า มองหน้าแพรไพลิน
“สีหน้าคุณเครียด...ดูไม่ค่อยดีเลย มีอะไรในใจรึเปล่า”
แพรไพลินอึกอักบอก
“เอ้อ... ไม่นี่คะ”
“อย่าปฏิเสธ... คุณปิดผมไม่ได้หรอก”
"คุณรู้?”
แสงกล้า ยิ้มๆบอก
“ผมใส่ใจความรู้สึกของคนที่อยู่ในใจผมเสมอ มีอะไรไม่สบายใจเหรอ... เรื่องคุณแม่ใช่มั้ย"
“ก็ไม่มีอะไรมาก วันนี้เป็นวันเกิดคุณแม่ ฉันลังเลว่าควรจะทำยังไงดี”

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[3] วันที่ 30 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2 ผลิตโดย : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manage