@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 23 ธ.ค 2555

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 23 ธ.ค 2555

พิมภาได้ยินชื่อกิ่งแก้ว หน้าเสียทรงนิดหน่อยแต่ก็ยังพยายามทำเป็นไม่สนใจ ฤชวีเดินเอาน้ำมาให้พิมภาแต่ก็ยังไม่วางโทรศัพท์
“กิ่งชอบเหรอครับ โล่งอก นึกว่าจะแป๊กซะแล้ว”
พิมภารับน้ำที่ฤชวีส่งให้อย่างทำตัวไม่ถูก เพราะฤชวีดูแลพิมภาด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วย ฤชวีเห็นว่าพิมภาไม่ยอมดื่มน้ำซะที ทำท่ายกแก้วดื่มให้พิมภาดื่มน้ำ พิมภาทำตาม อึ้งๆ งงๆ
“ส่งคอมเม้นของคนอื่นๆ มาดูหน่อยสิครับกิ่ง”

พิมภายังเก้อๆ ที่ฤชวีไม่วางสาย จะลุกขึ้น ฤชวีคว้ามือพิมภาไว้ แล้วถามพิมภาอย่างไม่มีเสียง แต่อ่านปากได้ว่า “หิวมั้ยครับ” ทั้งที่ยังคุยงานกับกิ่งแก้วอยู่ พิมภาทำตัวไม่ถูก ได้แต่พยักหน้ารับ ฤชวีเดินไปอุ่นซุปให้พิมภา พิมภามองตามฤชวีไม่วางตาโดยที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังมองดูฤชวีที่คุยงานไปด้วยเตรียมอุ่นซุปให้พิมภาไปด้วย อย่างมีความสุข ฤชวีหันหน้ามา พิมภาสะดุ้ง ทำเป็นไม่ได้สนใจ ฤชวีคิดว่าพิมภาหิว ยกมือทำท่าทำทางบอกว่าแป๊บนึง ฤชวียกถ้วยซุปมาให้พิมภา แต่ก็ยังคุยโทรศัพท์กับกิ่งแก้วอยู่



“ล้อเล่นรึเปล่าครับกิ่ง หนังสือยังไม่ทันตีพิมพ์ ผู้จัดละครที่ไหนเค้าจะมาจองเรื่องไว้”
พิมภาแอบเซ็งที่ฤชวียังไม่วางสายซะที จะตักซุปกิน แต่ฤชวีคว้ามือไว้ แล้วเอาช้อนที่มือพิมภาคนซุปให้ ปากขมุบขมิบว่า “มันร้อน” แล้วก็คนซุปให้พิมภา ทั้งที่ยังคุยงานอยู่ พอรู้สึกว่าซุปไม่ร้อนเกินไปฤชวีส่งช้อนใส่มือพิมภา มือทั้งสองคนชนกันโดยบังเอิญ ฤชวีไม่ทันรู้ตัวเพราะคุยงานอยู่ แต่พิมภาเป็นฝ่ายที่แสดงอาการเขิน แต่ฤชวีไม่ทันเห็น แล้วพิมภาก็ค่อยตักซุปกิน สีหน้าทั้งสุขทั้งเขิน ทำหน้าไม่ถูก และแอบดูฤชวีที่คุยงานอย่างคล่องแคล่วอารมณ์ดีและดูมีเสน่ห์อย่างประหลาด
ฤชวีคุยงาน พิมภากินซุปที่ฤชวีทำให้อย่างมีความสุข ทั้งสองอยู่ในกิจกรรมที่ต่างกัน แต่ดูมีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกันอย่างคนที่มีที่ว่างให้กันอย่างสบายตัว

เอกพลเข้ามาหาการะเกตุที่ห้องทำงานด้วยอาการมาดมั่นว่าการะเกตุต้องอยากออกไปทำกิจกรรมอย่างเคยด้วย
“จะกลับเลยรึเปล่าครับ”
การะเกตุรู้ว่าคำว่ากลับเลยรึเปล่าของเอกพล หมายถึงการชวนไปทำเรื่องอย่างว่า
“วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์นะ บ้านใครบ้านมันก็แล้วกัน”
เอกพลหน้าเสีย แต่ก็พยายามจะอ้อน
“เกี่ยวกับคนที่คุณยายคุณหาให้รึเปล่าครับ”
การะเกตุชักสีหน้าไม่พอใจทันที
“ฉันไม่ชอบให้ใครมาแอบฟังเรื่องของฉันนะ แต่ถ้าอยากรู้ก็จะบอกให้คุณต้นเป็นคู่หมั้นที่ผู้ใหญ่จัดหาให้ แล้วฉันก็พอใจ”
“ใจร้ายจังนะครับ พูดแบบนี้ผมก็ใจเสียหมดสิครับ”
“ใจเสียแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน” การะเกตุจ้องหน้าเอกพลแล้วพูดต่อ “เข้าใจซะใหม่นะว่าการที่ฉันมีอะไรกับคุณ มันแค่กิจกรรมยามว่าง ถ้าคิดจะผูกพันจริงจังกับฉัน หวังสูงไปรึเปล่าเอกพล”
เอกพลทำเป็นตัดพ้อหวังความเห็นใจ
“ใช่สิครับ ผมมันก็แค่ผู้ชายธรรมดาคนนึงเท่านั้น”
“ไปจำคำพูดตัดพ้อแบบนี้จากละครเรื่องไหนมา คิดว่าพูดแล้วฉันจะเห็นใจเหรอ ฉันไม่ชอบนะไอ้พวกผู้ชายฟูมฟายน้ำเน่าน่ะ ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองเป็นผู้ชายธรรมดาก็ดีแล้ว จะได้ไม่เอาตัวไปเปรียบเทียบกับคุณต้น ให้ฉันต้องเสียเวลามาอธิบายว่าใครเป็นใคร” การะเกตุมองเอกพลอย่างขู่ๆ “คิดจะอยู่กับฉัน ก็ควรจะรู้ว่าตัวเองควรจะอยู่ตรงไหน จำไว้”
การะเกตุเดินออกไปอย่างไม่สนใจเอกพล เอกพลหัวเสีย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่คิดแค้นฤชวี
“ไอ้ต้น”

ที่คอนโดเอกพล ปราสินีอ่านนิตยสารเกี่ยวกับแม่และเด็ก ปราสินีอ่านไปยิ้มไปแล้วจับที่ท้องอย่างมีความสุข
“ไม่ต้องห่วงนะลูก วันก่อนพ่อเขาคงอารมณ์ไม่ดี เดี๋ยววันนี้แม่จะเกลี้ยกล่อมพ่อเขาใหม่นะลูกนะ”
เอกพลเข้ามา ปราสินีรีบเก็บหนังสือซ่อนใต้หนังสือเล่มอื่นแล้วเข้าไปคลอเคลียเอาใจเอกพล เอกพลสังเกตเห็นหนังสือที่ปราสินีซ่อนดึงออกมา
“นี่อะไร” เอกพลรู้ทันทีว่าปราสินียังไม่จัดการเรื่องเอาเด็กออก “เธอยังไม่ไปเอาออกอีกเหรอ”
ปราสินีถอยห่างเพราะรู้ว่าเอกพลกำลังอารมณ์ขึ้น
“ปลาทำไม่ได้”
“แล้วถ้าไม่ทำตอนนี้ จะทำตอนไหน ไปเอาเด็กออก”
ปราสินีแข็งใจเถียงเอกพล
“ปลาอยากเก็บลูกไว้”
เอกพลดึงตัวปราสินีเข้ามาใกล้ๆ ยิ้มๆ ปราสินีหลงคิดเข้าข้างตัวเองว่าเอกพลอาจจะใจอ่อน
“ฟังออกมั้ยว่ามันเป็นคำสั่ง ไม่ใช่ให้เธอเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ”
“แต่”
เอกพลบีบปากปราสินีเอาไว้แรงๆ ไม่ให้พูด
“เอาเด็กออกซะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
แล้วเอกพลก็ผลักปราสินีลงไปกระแทกกับพื้น ปราสินีเจ็บ เอกพลเดินข้ามไปอย่างไม่สนใจ ปราสินีได้แต่ร้องไห้จับท้องตัวเองไว้แน่น เสียใจอยู่คนเดียว ไม่คิดว่าเอกพลจะเลวขนาดนี้

ส่วนที่คอนโดพิมภา พิมภากำลังจับหมอนให้เข้าที่ พอหันมาเห็นฤชวีเดินมาที่เตียง พิมภาตกใจเอาหมอนมากอด ฤชวีชะงักแล้วหยิบหมอนกับผ้าห่มจะขยับลงไปนอนที่พื้น พิมภาหน้าเสียที่แสดงอาการเหมือนรังเกียจฤชวีออกไป
“ผมหายดีแล้ว”
ฤชวีปูที่นอนที่พื้นลงนอน พิมภาลังเลว่าควรจะให้ฤชวีนอนบนเตียงด้วยเหมือนเดิมดีมั๊ย แต่ฤชวีล้มตัวลงนอน
พิมภาถึงรู้สึกผิดแต่ก็จำต้องปล่อยเลยตามเลย ปิดไฟหัวเตียง ฤชวีเรียกพิมภาโดยไม่ได้หันมามองพิมภา
“ขอบคุณนะครับที่ช่วยดูแลผมเมื่อคืน”
พิมภามองฤชวีที่หันหลังอยู่
“ฉันไม่อยากให้คุณมาตายในคอนโดฉัน ฉันกลัวผี”
พิมภาพูดจบก็ห่มผ้าหันหลังให้ฤชวี ฤชวีหันมามองพิมภาที่หันหลังให้ แล้วยิ้มๆ
ฤชวีกับพิมภาหันหลังให้กัน แต่ต่างฝ่ายต่างยิ้มปลื้ม สุขใจในแสงสลัวๆ เสียงโทรศัพท์ของฤชวีดังขึ้นมาทำลายบรรยากาศ ฤชวีกลัวพิมภาหนวกหู รีบรับโทรศัพท์
“ครับคุณย่า”

พิมภาได้ยินมองฤชวี
ชุติภาอยู่บ้านที่ปทุมธานี คุยโทรศัพท์กับฤชวีด้วยสีหน้านิ่งแต่เอาเรื่อง
“แกอยู่ที่ไหนตาต้น บ้านเมียแกเหรอ”
น้ำเสียชุติภาประชดจนฤชวีรู้สึกอึดอัด
“คุณย่า”
“ลำบากมากมั้ย ที่ยังนับฉันเป็นย่าแกอยู่ตาต้น”
“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะครับ”
“แกคิดว่าคนที่หลานไม่เห็นหัว แต่งงานโดยไม่บอกไม่กล่าวซักคำจะมีอารมณ์ปั้นคำพูดดีๆ มาคุยกับแกมั้ยตาต้น” ฤชวีหนักใจ “แกไม่รักย่าแล้วใช่มั้ย”
ฤชวีได้ยินคำถามไม้ตายของชุติภาแล้วใจอ่อนยวบยาบ
“ไม่ใช่แบบนั้นนะครับคุณย่า”
“แล้วไม่คิดจะให้ย่ารู้จักเลยเหรอว่าเมียแกเป็นใคร”
“คุณย่าหมายความว่า”
“ในเมื่อแกแต่งกันแล้ว ย่าจะไปทำอะไรได้ หรือว่าไม่เห็นหัวย่าตอนแต่งไปครั้งนึงแล้ว มาถึงตอนนี้แกก็ยังไม่เห็นหัวย่ากันอยู่ดี”
ฤชวีมองพิมภาอย่างลำบากใจ
“ผมคงต้องถามคุณพิมก่อน”
“อ้อชื่อพิมเหรอเมียแกน่ะ”
“ครับ พิมภา”
พิมภาทำหน้าไม่ถูกเมื่อถูกพาดพิง
“งั้นพรุ่งนี้ก็ช่วยพาคุณพิมภาของแก มาหาย่าที่บ้าน เท่านี้นะ”
ชุติภาออกคำสั่งแล้ววางสายโดยไม่เปิดโอกาสให้ฤชวีต่อรองอะไร ฤชวีทำหน้าลำบากใจ
“มีอะไรรึเปล่าคะคุณต้น” พิมภาถาม ฤชวีลังเลไม่กล้าบอกพิมภา “มีอะไรให้ฉันช่วยรึเปล่า บอกมาเถอะค่ะ”
“คุณย่าจะให้ผมพาคุณไปพบ”
“คุณย่าคุณอยากพบฉัน”
น้ำเสียงของพิมภาแสดงความอึ้ง งง จนฤชวีรู้สึกว่ากำลังทำให้พิมภาลำบากใจ
“แต่คุณพิมไม่ต้อง...”
“ไปสิคะ ฉันจะไปพบคุณย่าคุณ”
“แต่ ผมไม่อยากให้คุณลำบากใจ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดาว่าตอนนี้คุณย่าคุณคงโกรธคุณ ที่...ที่คุณแต่งงานโดยไม่ได้บอกท่าน” ฤชวีลำบากใจ ไม่อยากพูดให้พิมภาลำบากใจไปด้วย พิมภาสบตาฤชวีก่อนจะพูด “ฉันรู้ค่ะว่าตอนนี้คุณลำบากใจ ฉันเองก็ทำให้คุณลำบากใจมามาก ครั้งนี้ถ้าฉันจะทำอะไรให้คุณบ้าง ก็ถือว่าเจ๊ากันนะคะ”
พิมภายิ้มให้ฤชวีอย่างจริงใจ ฤชวีค่อยใจชื้นขึ้น
“ขอบคุณครับคุณพิม”
พิมภาจับมือฤชวี
“ถ้าตอนนี้เราสวมบทบาทเป็นสามีภรรยากัน ก็เท่ากับตอนนี้ฉันมีหน้าที่ต้องเคียงข้างคุณและทำความรู้จักกับครอบครัวของคุณใช่ไหมคะ” ฤชวีอึ้งๆ “ให้ฉันช่วยคุณนะคะ”
ฤชวียิ้มมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พิมภาเห็นรอยยิ้มของฤชวีก็พลอยมีความสุขไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว
ขณะนั้นตรีวิญยังจอดรถอยู่หน้าคอนโดพิมภามองไปยังชั้นที่คิดว่าพิมภาน่าจะอยู่ ตรีวิญดูเหงาแล้วก็ออกรถไป
ตรีวิญกลับมาที่คอนโดตัวเอง ที่ห้องพักตรีวิญมีประกาศ ถ้วย โล่ และสิ่งต่างๆ ที่แสดงความสำเร็จของตรีวิญอยู่มากมาย แต่ห้องที่ดูแต่งเรียบๆ มีสไตล์กลับดูซึมๆ เหงาๆ ตรีวิญนั่งอยู่ในแสงสลัวเหงาๆ แล้วตรีวิญก็คิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง ตรีวิญหยิบไอแพดออกมาดูไฟล์งานที่พิมภาเซฟไว้ให้ สีหน้าตรีวิญเหมือนมีแผนการบางอย่างในใจ

เช้าวันรุ่งขึ้นภัทรพลออกมาเห็นฤชวีที่เตรียมอาหารเช้า
“เมื่อคืนแผนสองเป็นไงบ้าง” ฤชวีไม่ตอบแต่ยิ้มมีความสุขและทำอาหารต่อเงียบๆ “เงียบ เค้าว่าคนเงียบๆ แบบนี้ร้ายทุกคนนะคุณต้นแต่ก็ดีไม่ร้ายเอายายพิมไม่อยู่หรอก แล้วนี่ยายพิมตื่นรึยัง”
พิมภาออกมาในชุดดูเรียบร้อยจนภัทรพลแปลกใจ แต่แอคติ้งว่างอนพิมภา
“พี่ภัทร”
“แกไม่ต้องมาพูดเลยยายพิม เพราะแกผิดเวลา พี่เลยโมโหเทกับข้าวทิ้งหมด แล้วเป็นไงรู้มั้ย ตื่นมาพี่หิวมาก ถึงต้องเดือดร้อนคุณต้นทำอาหารให้แต่เช้า”
“พิมขอโทษ”
“พี่แต่อยากให้แกรู้จักรักษาเวลาบ้าง อย่าลืมสิตอนนี้แกไม่ใช่คนตัวเปล่าแล้ว เลิกงานก็ควรจะรีบกลับบ้านมาให้สามีดูแล”
พิมภากับฤชวีมองหน้ากัน
“ก็บอกแล้วไงว่าพิมขอโทษ”
ฤชวีแอบมองหน้าภัทรพล ขำความร้ายของภัทรพล
“แล้วมันจะมีอีกมั้ยล่ะ ไอ้ผิดเวลาให้คุณต้นรอแบบนี้ นี่ขนาดพี่อยู่นะแล้วถ้าพี่ไม่อยู่มันจะเป็นยังไง”
“จะพยายามให้ไม่มีนะ”
พิมภาตอบเสียงอ่อยๆ ฤชวีกับภัทรพลแอบมองหน้ากันยิ้มๆ
“ทานข้าวเถอะครับ ข้าวต้มกุ้งที่คุณพิมชอบ”
“ยายพิมชอบข้าวต้มกุ้ง แล้วคุณต้นชอบอะไร แกรู้มั๊ยยายพิม”
“เอ่อ”
“ทำไมแกแย่แบบนี้ล่ะยายพิม สามีตัวเองชอบไม่ชอบอะไรแกต้องรู้นะ ใส่ใจหน่อย” ภัทรพลบ่นไปกินไป “ผู้หญิงสมัยนี้ทีเรื่องนอกบ้านล่ะเก่งนักทีเรื่องในบ้านล่ะไม่ได้เรื่อง”
“เยอะไปแล้วพี่ภัทร”
“ไม่เยอะหรอกฉันบ่นเผื่อพ่อกับแม่ด้วย” พิมภาเซ็ง “แล้วจะไปไหนกัน แต่งตัวซะยังก็จะออกงานสันนิบาต”
“ผมจะพาคุณพิมไปพบคุณย่าครับ”
ภัทรพลได้ยินแล้วชะงัก ยิ้มพอใจ แต่ทำเป็นเก็บอาการ
“ก็สมควร แต่งกันมาตั้งนาน แกควรไปกราบคุณย่าคุณต้นเค้าตั้งนานแล้วนะยัยพิม”
“ก็จะไปอยู่นี่ไงคะ”
“ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ก็มีงานด่วนอะไรขึ้นมาอีกล่ะ แม่คนบ้างาน”
ภัทรพลพูดจบ มือถือพิมภาก็ดัง พิมภารีบรับ
“ค่ะคุณตรีวิญ”

ภัทรพลกับฤชวีมองหน้ากัน
พิมภามีงานด่วนต้องรีบเข้าบริษัท ฤชวีจึงต้องไปพบชุติภาตามลำพัง ชุติภาเดินนำฤชวีเข้าบ้านด้วยท่าทางนิ่งๆ
“แล้วไหนเมียแกล่ะตาต้น”
ฤชวีมีสีหน้าลำบากใจ
ส่วนที่บริษัทนารี พิมภาเข้ามาในห้องทำงานตรีวิญพร้อมกับเอกสาร
“ขอโทษนะครับ พอดีทางผู้ใหญ่เร่งมา ผมเลยต้องเช็คงานทั้งหมดให้เร็วที่สุดผมคิดว่าถ้ารอวันจันทร์จะช้าเกินไป”
“ค่ะ”
พิมภาแอบมีความกังวลที่ต้องให้ฤชวีล่วงหน้าไปก่อน
“ขอโทษนะครับที่ต้องให้คุณพิมมาทำงานวันหยุด”
“เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่...”
“แต่อะไรครับ”
“คือ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรารีบทำงานกันดีกว่า”
พิมภาจัดการเลือกเอกสารที่ตรีวิญควรจะได้เห็นวางให้ตรีวิญ ตรีวิญมองนิ่งๆ แต่ก็พอใจที่ดึงตัวพิมภามาได้

ทางด้านชุติภา ชุติภานิ่งจนฤชวีรู้สึกอึดอัด
“คือคุณย่าครับ”
“ย่าประทับใจมากนะ ที่เมียแกทำแบบนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน”
“คุณพิมติดงานด่วนล่ะครับ แต่เดี๋ยวจะตามมา”
ชุติภาได้ยินรู้สึกไม่สบายใจนิดๆ ที่พิมภาดูเป็นคนบ้างาน
“เมียแกเป็นพวกบ้างานสินะ” ฤชวีมองหน้าชุติภาแบบต้องการบอกว่าพิมภาก็เหมือนกับชุติภา “แล้วนี่ย่าต้องรอเมียแกนานแค่ไหน”

“ทั้งหมดเป็นข้อมูลของทางโรงงาน เรียบร้อยแล้วนะคะ”
พิมภาบอกกับตรีวิญแล้วเตรียมจะออกไป เสียงเคาะประตูดังขึ้นเจ้าหน้าที่จากโรงงานเข้ามา
“ผมอยากคุยกับเจ้าหน้าที่ทางโรงงานก็เลยเรียกให้มาคุยกับเราเพิ่มเติมเผื่อจะมีไอเดียที่น่าสนใจน่ะครับ เชิญนั่งครับ”
เจ้าหน้าที่นั่งลง ตรีวิญเปิดเอกสารถามเจ้าหน้าที่อย่างไม่เร่งรีบอะไร ทางด้านพิมภาแม้จะตั้งใจทำงานแต่ก็มีความกังวลในสายตา
“ข้อมูลทั้งหมดที่คุณตรีวิญอยากทราบก็มีเท่านี้ล่ะครับ”
พิมภาโล่งใจขึ้นมานิดหนึ่งคิดว่าน่าจะหมดเรื่องแล้ว
“ผมทราบมาว่าเราเคยรับเป็นสายการผลิตให้กับลูกค้ารายอื่นมาก่อนช่วยเรียกให้เขาเข้ามาได้ไหมครับ ผมอยากจะคุยด้วยหน่อย”
พิมภาหน้าเสียที่ตรีวิญยังไม่หมดเรื่อง
“เดี๋ยวผมขอโทรเช็คแป๊บนึงนะครับ”
เจ้าหน้าที่โทรเช็คเรื่องให้ตรีวิญ ตรีวิญหันมาหาพิมภา
“คุณพิมรีบไปไหนรึเปล่าครับ”
“เอ่อ คือ”
พิมภาพูดไม่ออกไม่รู้จะอธิบายยังไง

มิ้นท์อยู่ที่สำนักพิมพ์กิ่งแก้วและกำลังบรรยายสรรพคุณชุติภาให้ทุกคนฟัง
“คุณย่าเป็นคนน่ากลัวมาก เป็นคนจริงจังบ้างาน เข้มงวดกับทุกอย่าง ขนาดปู่ยังชิงตายหนีคุณย่าตั้งแต่ยังไม่ห้าสิบเลย”
“เอ่อ ที่พูดถึงอยู่น่ะคุณย่าของมิ้นท์นะ” ภัทรพลแย้ง
“มิ้นท์พูดความจริงพี่ คุณย่าน่ะเวลาดีดีใจหายเวลาร้าย แค่ปรายตามองอย่างกับโดนอัดไส้ทะลักเลย” ภัทรพลกับนันทิกานต์สยอง “ที่สำคัญคุณย่าทาบทามหลานสาวเพื่อนของคุณย่าให้มาแต่งงานกับพี่ต้น แต่พี่ต้นก็ดันมาแต่งงานกับพี่พิมก่อน ขอบอกว่าคุณย่าโกรธมาก”
“โอย ไม่อยากจะคิด” นันทิกานต์กลัวแทน
“เอ่อ เท่าที่กิ่งเห็นเมื่อวาน คุณพิมคงไม่ใช่คนที่ยอมใครง่ายๆ ไม่คิดกันบ้างเหรอคะว่า คราวนี้มวยอาจจะถูกคู่ก็ได้”
ทุกคนหันมามองกิ่งแก้ว แบบว่าเรื่องที่กิ่งแก้วพูดมันก็จริงเหมือนกัน

ฤชวียังอยู่ที่บ้านชุติภาและมองนาฬิกาอย่างเครียดๆ
“ไม่คิดจะโทรตามเมียแกบ้างเหรอตาต้น”
“โทรไปถ้างานคุณพิมยังไม่เสร็จ ก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดีนี่ครับคุณย่า”
“ไม่มีประโยชน์หรือไม่รู้ว่าจะปั้นคำมาโกหกกับย่ายังไงดี ว่าเมียแกไปไหนกันแน่”
“คุณพิมไปทำงานครับ เสร็จงานแล้วจะรีบตามมา” ฤชวียืนยัน
“งั้น ย่าก็คงต้องรอสินะ ถ้ามามื้อกลางวันไม่ทัน ก็เป็นมื้อเย็นก็แล้วกันนะ” ชุติภาประชด แต่ฤชวีคุมสติได้นิ่งอยู่ “ย่าจะขึ้นไปเอนหลัง เมียแกมาก็ตามย่าก็แล้วกัน ย่าจะรีบมาพบ”
ชุติภายังไม่วายประชดฤชวีก่อนออกไป ฤชวีหนักใจ

ตรีวิญเดินนำพิมภาออกมาจากห้องทำงาน
“ใกล้เที่ยงแล้ว เดี๋ยวผมเลี้ยงอาหารเที่ยงคุณพิมดีกว่าครับชดเชยที่ต้องให้คุณพิมออกมาทำงานวันหยุด”
พิมภาอึดอัดเพราะมันไม่ใช่เวลาที่ไปกินอาหารเที่ยงกับตรีวิญ เธอจึงตัดสินใจขัดตรีวิญ
“คุณตรีวิญค่ะ”

ตรีวิญหันมามองหน้าพิมภา
ภัทรพลขับรถมาส่งนันทิกานต์ที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
“วันหยุดยังต้องมาดูงานที่ช็อปอีกเหรอ บริษัทแกนี่โหดนะ”
“เค้าเรียกว่าบริษัทของหญิงยุคใหม่ ที่มุ่งมั่นกับความสำเร็จจ้ะ”
“เหรอ มิน่าขึ้นคานกันเป็นแถวๆ เพราะมัวแต่ทำแต่งานรึเปล่า”
นันทิกานต์เหลือบไปเห็นลัลนาที่เดินออกมาจากในห้างกำลังจะไปที่รถ
“ไม่รู้สิ แต่ที่นี่ก็มีคนที่พี่ภัทรอยากให้ลงจากคานไม่ใช่เหรอ”

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 23 ธ.ค 2555

ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทประพันธ์โดย ปัณณพร
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก ผลิตโดย บ.เมกเกร์ เจ กรุ๊ป จำกัด(โดยคุณนก จริยา แอนโฟเน)
ติดตามชมละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รักได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา manage