@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 28 ธ.ค 2555

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 28 ธ.ค 2555

“ก็ในเมื่อเค้าไม่ศรัทธาลัลแล้ว ลัลต้องง้อเค้ามั้ยคะ”
“ใจเย็นค่ะไปนั่งคุยกันดีกว่า”
ลัลนามองเห็นว่าโซฟาที่ประจำถูกเดียร์กับฤทธิ์นั่งอยู่ ซูซี่รู้ว่าลัลนาไม่พอใจ
“เดี๋ยวพี่จัดให้ค่ะ” ซูซี่บอกแล้วหันไปถามฤทธิ์กับเดียร์ “รู้ใช้มั๊ยว่าตรงนี้มันที่ประจำของใคร”
“ที่ของคุณลัล ลูกบ้านเล็กของท่านประธานไงคะ”
ลัลนาได้ยินหน้าเสีย พิมภากับนันทิกานต์ที่เข้ามาได้ยินพอดี
“ปากร้ายนะนังกะเทยรถถัง เดี๋ยวฉันก็เฉาะแกสดๆ ตรงนี้เลย”

“ไม่ต้อง ฉันมีนัดกับคุณหมออยู่แล้ว เฉาะเองได้ย่ะ”
“ที่ยืนๆ กันอยู่ตรงนี้มันก็ไม่มีใครสูงใครต่ำกว่าใคร เลิกเบ่งได้แล้วมั้งคะคุณลัล ลูกบ้านเล็ก”
“งั้นเดียร์ก็ไม่ควรพูดแบบนั้นกับลัลนาเหมือนกัน” พิมภาบอกแล้วจ้องหน้าเดียร์กับฤทธิ์อย่างคาดโทษ “ไม่ใช่หน้าที่ของพวกเธอที่จะวิจารณ์ว่าคนอื่นเป็นยังไง พี่สอนให้ทำงานร่วมกันไม่ใช่ทำตัวเป็นพวกตัวร้ายคอยเสียดสีคนอื่นเขา ถ้าชอบพูดมากก็ลาออกมั้ย ไปใช้ปากให้เต็มที่”



“พี่พิม หนูเป็นกระบอกเสียงให้พี่นะคะ”
“ไม่ต้อง แล้วพี่ก็ไม่ชอบพวกสอพลอหวังเอาตัวรอด มันน่ารังเกียจ”
“เดียร์ ฤทธิ์ ไปรอที่ห้องพี่พิม งานนี้คงต้องคุยกันยาวแน่” นันทิกานต์บอกเสียงแข็ง
“ค่ะ”
เดียกับฤทธิ์ออกไปอย่างจ๋อยๆ ตอนนี้ลัลนายิ่งตกเป็นเป้าสายตาของพนักงานคนอื่นๆ พิมภาหันไปมองทุกคน
“อิ่มกันรึยัง จับกลุ่มเม้าท์เรื่องของคนอื่นเป็นอาหารเช้าแบบนี้ไง ถึงไม่มีอาหารไปเลี้ยงสมอง เวลาทำงานมันถึงไม่มีประสิทธิภาพ” พิมภามองกราดเรียงตัว “มาทำงานกันแต่เช้า แต่ไม่ได้งานนะ ได้แต่ข้อมูลว่าห้างไหนถูกห้างไหนลด ผัวใครหาย ผัวใครอยู่ รู้แต่เรื่องคนอื่น เรื่องตัวเองไม่เคยรู้เลย ชอบนักซ้ำเติมคนที่มีปัญหา คงเจริญหรอก” พนักงานที่จับกลุ่มเม้าท์ลัลนาเริ่มล่าถอย “เดี๋ยว” ทุกคนชะงัก “สิ่งที่พวกคุณทำวันนี้ ถึงคุณจะไม่ได้ขอโทษลัลนาออกมา อย่างน้อยก็ขอให้เก็บกลับไป ทบทวนด้วยว่ามันเหมาะสมที่คุณจะคิดกับเพื่อนร่วมงานของคุณมั้ย” พิมภาจ้องหน้าทุกคน “ฝีมือการทำงานของลัลนาต่างหากที่พวกคุณควรจะพูดถึง ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของเค้า”
ลัลนาอึ้งกับสิ่งที่พิมภาทำ พนักงานคนอื่นๆ ทยอยกันออกไป
“จะเล่นอะไรของเธออีก” ลัลนายังไม่ค่อยเชื่อใจพิมภานัก
“ฉันเจอตัวลำโพงกระจายข่าวเรื่องเธอแล้ว”

ลัลนาเดินเข้าหาป้าชื่นอย่างเอาเรื่องเพราะเป็นตัวการของเรื่อง ป้าชื่นรีบพ่นข้อมูลออกมาทันที
“ป้าเอาเรื่องคุณลัลไปพูดจริง แต่ป้าได้ยินมาจากคุณซูซี่นะคะ”
“ฉันเหรอ ตอนไหน?” ซูซี่ทำหน้าเหวอ

“ก็ตอนที่คุณซูซี่คุยกับคุณจุ๋มคุณลิลลี่ไงคะ คุณซูซี่บอกว่าเห็นใจที่คุณลัลเป็นลูกเมียน้อย ไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไร”
ซูซี่คิดทบทวน แล้วก็ใจหายเพราะนึกได้ว่าตัวเองพูดออกไปจริงๆ

“เป็นพี่จริงๆ ด้วย แต่พี่พูดไปเพราะหวังดีและเป็นห่วงน้องลัลจริงๆ นะคะ”
“ความหวังดีที่น่าปวดหัวน่ะสิคะพี่ซูซี่” ลัลนานิ่งเงียบไม่รู้จะพูดยังไง “ไง เงียบเลยนะ เชื่อหรือยังว่าคนอย่างฉันไม่เคยลอบกัดใคร ที่จริงเธอควรจะขอโทษที่กล่าวหาฉันนะ” พิมภาจ้องหน้าลัลนา “แต่ฉันรู้ว่าคนอย่างเธอไม่ทำหรอก”
“ขอโทษ” ลัลนาบอกออกมา พิมภาถึงกับอึ้ง
“หาว่าไงนะ ไม่ค่อยได้ยิน”
“ฉันบอกว่าขอโทษ”
“อะไรนะ”
“พอแล้วไอ้พิม”
“แต่ที่เธอควรจะรู้อีกเรื่องก็คือ มีคนจ้างให้ป้าชื่นเอาเรื่องเธอไปประกาศ”
“เธอรู้เหรอ” พิมภายิ้มร้ายๆ
“แล้วฉันก็เตรียมวิธีเอาคืนให้เธอแล้วด้วย”
ลัลนามองพิมภาที่ดูร้ายกาจมาก

ฤชวีเดินเข้ามาหาพิมภาที่รออยู่ที่ออฟฟิศนารี
“คุณพิมมีอะไรเหรอครับถึงให้ผมมาหาที่นี่” พิมภาส่งเอกสารเกี่ยวกับสินค้าของการะเกตุให้ฤชวี “อะไรครับ”
“รายละเอียดสินค้าที่อยากให้คุณเป็นพรีเซ็นเตอร์”
“แต่นี่มันเป็นสินค้าของคุณการะเกตุ”
“คุณพูดถูก บางทีครอบครัวมันไม่ได้หมายถึงคนในบ้านเราเท่านั้น แต่มันยังหมายถึงคนที่คนในครอบครัวของเรารักด้วย”
“นี่คุณจะช่วยคุณลัลเหรอครับ”
“ฉันไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ มันอยู่ที่คุณ”
“แล้วคุณไม่กลัวความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นเหรอครับ”
“ก็คุณเป็นคนบอกเองว่าตอนนี่ครอบครัวเรามีกันตั้งหลายคนถึงจะเกิดอะไรขึ้นเราก็จะช่วยกันแก้ไข”
พิมภาจ้องหน้าฤชวี ฤชวีดีใจที่พิมภาจำคำพูดของเขาได้ทุกคำ

ขณะนั้นสุกัญญาอยู่ที่ห้องประชุม สุกัญญาตกใจกับสิ่งที่การะเกตุบอก
“อะไรนะคะ คุณอยากจะเปลี่ยนตัวคนทำมาร์เก็ตติ้ง”
“ใช่ค่ะ ฉันรู้มาว่าคุณลัลมีเรื่องส่วนตัวซับซ้อนในครอบครัว” การะเกตุมองลัลนาอย่างดูถูก “ที่น่าจะมีผลกับประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีได้”
ลัลนามองการะเกตุอึ้งๆ
“ขอโทษนะครับ ผมว่าสองเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกันซักเท่าไหร่”
“คุณคงไม่รู้ว่าเมื่อวานคุณลัลนาพยายามจะโทรไปกล่อมให้คุณการะเกตุเปลี่ยนตัวพรีเซ็นเตอร์ เพราะคุณลัลนาไม่สามารถ…” เอกพลชะงักเมื่อ พิมภาเปิดประตูห้องเข้ามา
“ขอประทานโทษค่ะ ดิฉันมีเรื่องด่วนจะแจ้งทุกท่านค่ะ” ทุกคนงงว่าพิมภาจะเข้ามาบอกเรื่องอะไร “คุณฤชวียินดีเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าของคุณการะเกตุแล้วนะคะ”
ฤชวีเดินตามพิมภาเข้ามา ลัลนามองอย่างไม่อยากเชื่อ
“ขอโทษนะครับคุณลัล คือผมต้องให้ภรรยาเซ็นอนุมัติก่อน ถึงจะรับงานได้ครับ”
“ตอนนี้ก็อนุมัติแล้วไงคะ”
พิมภาพูดยิ้มๆ กับฤชวี แล้วหันไปยิ้มกับลัลนา ลัลนายิ้มตอบอย่างขอบใจ พิมภาหันไปมองการะเกตุกับเอกพลอย่างสะใจ การะเกตุตั้งสติได้ก็ยิ้ม
“ดีเลยค่ะ คุณลัลคะ นี่เป็นโฆษณาตัวแรกของดิฉัน เพื่อภาพลักษณ์ของสินค้าดิฉันจะร่วมเป็นนางแบบที่จะเล่นโฆษณาชุดนี้ประกบกับคุณฤชวีค่ะ”
พิมภาอึ้ง การะเกตุยิ้มเย้ยว่าเอาซี่ ลัลนา สุกัญญา ตรีวิญมองออกว่าสองคนนี้เล่นสงครามประสาทกันอยู่ เอกพลมองการะเกตุอย่างทึ่งๆ ที่คิดแผนย้อนได้เร็วมาก ปราสินีมองอย่างสังเกตความไม่ถูกกันของการะเกตุและพิมภา

พิมภา ฤชวี ลัลนาเดินออกมาจากห้องประชุม ลัลนายิ้มให้พิมภา
“ขอบใจสำหรับทุกอย่าง”
พิมภารู้ว่าเรื่องอะไรบ้าง แต่แกล้งยียวน
“ทุกอย่างน่ะ อะไรบ้างล่ะ”
“ยัยพิม” พิมภาหัวเราะ
“เอาล่ะๆ ตอนนี้ที่เธอต้องช่วยฉันคือ เรื่องที่ยัยนั่นจะเป็นนางแบบประกบคุณต้น”
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ยอมให้ยัยนั่นสมหวังง่ายๆ แน่”
“โอเค เดี๋ยวเจอกันตามที่นัดกันไว้นะ”
ฤชวีชักไม่ไว้ใจจึงถามขึ้นมา
“นัดอะไรกันเหรอครับ”
“เรื่องของผู้หญิง บอกคุณต้นไม่ได้หรอกค่ะ”
“เห็นสายตาคุณสองคนแล้ว ผมว่างานนี้ต้องมีเหยื่อ”
“รู้ก็ดีแล้วค่ะ กลับไปเตรียมอาหารเย็นรอพิมตามสัญญาแล้วกันนะ”
ฤชวีมองพิมภากับลัลนายิ้มๆ แล้วออกไป พิมภากับลัลนาพยักหน้ารับกันแล้วเดินออกไป
การะเกตุเดินออกจากห้องประชุมมาอย่างหัวเสีย เอกพลเดินเงียบๆ ตามออกมา ปราสินีตามออกมาด้วย
“ไหนบอกว่าสองคนนั่นไม่ถูกกันไง”
“ก็จริงนี่ครับ ใช่มั้ยปลา”
“ใช่ค่ะ แต่เวลาที่สองคนนี้รวมตัวกัน มันต้องมีอะไรแน่ๆ ระวังๆ ไว้หน่อยก็ดีนะคะ”
เอกพลหัวเสียที่ปราสินีดันพูดให้ดูแย่ลง
“พูดบ้าอะไรของเธอ”
เอกพลจะต่อว่าปราสินี โทรศัพท์ของเอกพลดัง เอกพลมองหงุดหงิด

ป้าชื่นยืนรอเอกพลอยู่ เอกพลรีบเดินเข้ามาหา
“มีอะไรป้า ก็บอกแล้วไงว่าค่าจ้าง เดี๋ยวจะจัดการให้”
“แต่คุณลัลรู้แล้วนะคะว่าป้าเป็นคนเอาเรื่องของเธอไปประกาศ”
“แล้วไง ป้าพลาดเองแล้วจะให้ผมทำยังไง”
“คุณเอกทำไมพูดหมาๆ แบบนี้ล่ะ”
“อ้าว ป้านี่ ก็แกพลาดเอง แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง”
พิมภา ลัลนา นันทิกานต์ ซูซี่ เดินออกมา
“เป็นอย่างที่พิมบอกมั้ยล่ะป้าชื่น”
“นี่พวกเธอทำอะไร”
“แนน”
นันทิกานต์โยนกระโปรงให้เอกพล
“อะไร”
“กระโปรงไง คุ้นไม่ใช่เหรอ”
“อย่าบอกนะคะว่าหน้าตัวเมียอย่างคุณ นุ่งไม่เป็น”
“พวกแก”

เอกพลจะเอาเรื่อง ซูซี่ชักคัตเตอร์ออกมา เอกพลชะงัก
“ก่อนที่พี่จะอันยองฮาเซโยขนาดนี้ ฉายาเดิมพี่ซูซี่ สิงห์คัตเตอร์นะจ๊ะ”

“คิดว่าฉันจะกลัวเหรอ”
“ก็เอาซี่ ถึงเราจะตัวเล็กบาง แต่ถ้ากล้าเจอสี่ต่อหนึ่งก็เข้ามา”
“มันจะมากไปแล้วนะ” เอกพลจะเข้าไปเล่นงาน แต่ฤชวีเดินเข้ามาซะก่อน
“แต่ถ้าสี่คนยังเอาไม่อยู่ ก็ยังมีหมัดผมอีกคน”
“คุณต้น”
“เฮ้ย นี่คิดจะรุมเหรอ”
“เมื่อก่อนคุณพิมตัวคนเดียว คุณจะรังแกยังไงก็ได้ แต่ตอนนี้คุณพิมมีสามีดูแลแล้ว คุณคงปฎิบัติกับเธอเหมือนเดิมไม่ได้”
“ทำไมจะไม่ได้”
เอกพลปราดเข้าหาพิมภา ฤชวีต่อยหน้าเอกพลทันที เอกพลลงไปกองกับพื้น
“รู้แล้วใช่มั้ยครับว่าผมพูดจริง ทำจริง”
“แก”
“คุณจะแจ้งความก็ได้ คุณลัลจะได้แจ้งด้วย ว่าคุณเป็นต้นเหตุของเรื่องหมิ่นประมาททั้งหมด แต่ถ้าคุณเงียบ ผมก็จะถือว่าเราเจ๊ากัน”
“เจ๊าได้ไงคะคุณสามี คุณเจ็บมือแย่ หน้าไอ้นี่มันด้านจะตาย”
“พิมภา”
“เอกพล” ฤชวีมองเอกพลด้วยสายตาเอาจริง จนเอกพลไม่กล้าเอาเรื่อง
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” เอกพลบอกอย่างอาฆาตแล้วเดินออกไป
“คุณต้น ทำไม” พิมภามองหน้าฤชวี
“ก็บอกแล้วไงครับว่าผมเห็นสายตาของคุณสองคนแล้ว ผมไม่ไว้ใจ”
“แหมคุณต้นขา เรื่องแค่นี้ไอ้พิมมันเอาอยู่”
“ยังไงคุณพิมก็เป็นผู้หญิง คุณทุกคนด้วย ไม่ควรเสี่ยงกับคนพาลๆ แบบนี้”
“ในที่สุดก็มีคนเห็นความเป็นผู้หญิงในตัวพี่” ซูซี่ยกมือทำสัญลักษณ์ว่ารัก “เลิฟนะคะคุณต้น”
“หมดเรื่องแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ อย่าไปเที่ยวหาเรื่องใครอีกนะครับคุณภรรยา”
“ค่า คุณสามี” ฤชวีออกไป
“ขอบใจอีกครั้งนะพิมภา”
“เธอขอบใจ ขอโทษ ฉันครบหมดทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว แต่มีคนนึงที่เธอควรจะขอโทษ”
พิมภายิ้มเจ้าเล่ห์ ลัลนารู้ดีว่าพิมภาหมายถึงภัทรพล

ภัทรพลอยู่ที่คอนโด นั่งมองโทรศัพท์ตัวเองอยากโทรหาลัลนาแต่ว่าลังเล แล้วโทรศัพท์ของภัทรพลก็ดัง เห็นว่าลัลนาเป็นคนโทรเข้ามา
“คุณลัล” ภัทรพลดีใจแต่ได้สติมีกระแอมเพื่อตั้งเสียงให้เข้มก่อนรับสาย “คุณลัลมีอะไรครับ”
“คุณภัทร เอ่อ คุณภัทรทำอะไรอยู่คะ”
“ผมเหรอครับ ก็นวดประคบหน้าที่โดนคุณตบจนบวมไงครับ”
“นี่ลัลมือหนักขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“นี่คุณคิดว่าผมหน้าหนาขนาดตบไม่เจ็บเลยเหรอครับ”
“เปล่าค่ะเปล่า”
“แล้วคุณโทรมามีอะไรครับ จะมาประคบหน้าให้ผมเหรอ”
“เรื่องประคบหน้ายังไม่สะดวกค่ะ แต่ว่าลัลอยากจะขอโทษคุณภัทรค่ะ เรื่องที่ลัลเข้าใจคุณภัทรผิด”
“แล้วทำไมไม่ถามให้รู้เรื่องก่อนตบครับ”
“ก็ตบไปแล้วนี่คะ คุณภัทรจะเอายังไงคะ ชักเยอะเกินไปแล้วนะคะ”
“โอเค ตบแล้วก็แล้วกัน แล้วที่มาขอโทษนี่เคลียร์กับยัยพิมมันแล้วเหรอครับ”
ภัทรพลรอฟังยิ้มๆ

ฤชวีเดินเข้ามาส่งพิมภาที่ห้องทำงาน
“ถึงห้องทำงานแล้ว มั่นใจรึยังคะว่าพิมจะไม่ไปก่อเรื่องที่ไหนอีก”
“คนอย่างคุณพิม อยากจะก่อเรื่องที่ไหนก็ทำได้ครับ”
“คุณต้น”
“ล้อเล่นครับ เย็นนี้ผมจัดซีฟู้ดชุดใหญ่ให้ตามสัญญานะครับ เป็นการเลี้ยงฉลอง” ตรีวิญเดินเข้ามา
“ฉลองอะไรเหรอครับ หรือว่าฉลองที่ผมหาต้นตอที่ปล่อยข่าวเรื่องคุณลัลได้” ฤชวีมองตรีวิญ แล้วหันไปมองพิมภาอย่างเป็นคำถาม พิมภายังไม่ทันอธิบายอะไรให้ฤชวีฟัง ตรีวิญพูดก่อน “คุณพิมสัญญากับผมไว้น่ะครับว่าจะเลี้ยงมื้อเย็นเป็นการขอบคุณผม”
ฤชวีหันไปมองหน้าพิมภา พิมภาอึ้งๆ งงๆ เพราะไม่ได้สัญญากับตรีวิญไว้เลย
“งั้นก็เชิญคุณตรีวิญมาฉลองพร้อมกันเลยแล้วกันครับคุณพิม” ฤชวีมองหน้าตรีวิญแล้วพูดต่อ “แต่ขอเตือนนะครับ น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรนี้เผ็ดมาก อาจกระแทกปากจนคุณรับไม่ไหวก็ได้”
“ลองดูก่อนก็ได้นี่ครับ”
“ได้ งั้นก็เชิญ ผมกลับก่อนนะครับคุณพิม”
ฤชวีจะออกไป แล้วหันกลับมาหาพิมภา
“เย็นนี้ขับรถกลับบ้านด้วยนะครับ พรุ่งนี้ผมจะเอาไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้”
ฤชวีพูดจบมองหน้าตรีวิญเป็นการบอกว่านี่คือการกั๊กไม่ให้พิมภาไปรถตรีวิญ แล้วฤชวีก็เดินออกไปอย่างผู้มีชัย ตรีวิญทำอะไรไม่ได้ พิมภาได้แต่มองตามฤชวีอย่างชอบใจ แต่ก็ต้องเก็บอาการเพราะเกรงใจตรีวิญ

ค่ำวันนั้นที่คอนโดพิมภา ภัทรพลพูดเกริ่นนำเข้าการฉลอง
“ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน อาหารในคืนนี้เป็นการเลี้ยงขอโทษที่กระผม นายภัทรพลกล่าวหาน้องสาวสุดที่รักเสียๆ หายๆ” พิมภาค้อนภัทรพลนิดๆ “และเป็นการฉลองที่น้องสาวผู้แสนดีของผม ยอมให้คุณต้นเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าที่คุณลัลดูแล”
“นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไรกันยังเป็นเดือดเป็นร้อนแทนหนูลัลขนาดนี้ ถ้าแต่งกันแล้วจะหลงเมียจนลืมแม่มั้ยเนี่ย”
“ทีแม่หลงลูกเขยจนลืมลูกชาย ภัทรยังไม่บ่นสักคำ”
“ก็ลูกเขยแม่ฉลาดแบบเนี๊ย แม่หลงแล้วมันผิดตรงไหน”
“เอ่อทุกคนคะ ลืมอะไรไปรึเปล่าคะ วันนี้เรามีแขกนะคะ”
พิมภาขัดเพราะมีตรีวิญนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย แต่ทุกคนลืมที่จะสนใจ
“เออ ใช่ๆ คุณตรีวิญอยู่ด้วย ลืมไปๆ เรามีคนนอกอยู่ด้วย”
“พูดมากไปแล้วน่าตาภัทร งั้นก็ทานกันเลยดีกว่า ยัยพิมจะได้เลี้ยงข้าวตอบแทนคุณตรีวิญให้มันจบๆ ไป”
“พ่อก็ทำไมพูดแบบนี้ ทานๆ กันเถอะ ให้มันเสร็จๆ ไปนะ”
พิมภาเห็นตรีวิญหน้าเสีย พยายามจะปราม
“พ่อจ๊ะ แม่จ๊ะ”
“อะไรยัยพิม ล้อเล่นขำๆ ไม่ถือสากันนะคุณตรีวิญ”
“ไม่ครับ ครอบครัวคุณพิมนี่อบอุ่นดีนะครับ”
“เอาแบบอุ่นจนร้อน หรือจนสุกก็มีนะครับ”
“ฮะ” ตรีวิญไม่เข้าใจมุกภัทรพล “ครับ”
“คนนะครับพี่ภัทรไม่ใช่ไข่ปิ้ง ถึงต้องอุ่นจนสุก” ฤชวีช่วยรับมุกภัทรพล

“เย้ย ไม่ได้คุณต้นนี่มุกผมฟาล์วเลยนะเนี่ย”
ภาณุวัฒน์ พิมมาลา ภัทรพลหัวเราะชอบใจ ตรีวิญยิ้มแหย รู้สึกเป็นส่วนเกิน
“คุณพิมทานกุ้งสิครับ” ฤชวีวางกุ้งที่แกะแล้วให้พิมภา แล้วทุกคนก็จัดการใช้มือแกะกุ้ง แกะปูอย่างเป็นกันเองมาก ตรีวิญดูท่าทางแกะกุ้งไม่ค่อยเป็น
“พิมช่วยค่ะ”
พิมภาจะแกะกุ้งให้ตรีวิญ แต่ภัทรพลเอื้อมไปหยิบกุ้งมาแกะให้ตรีวิญ
“แกจะกินเองยังต้องให้คุณต้นแกะให้ มาพี่แกะให้คุณตรีวิญเอง” ภัทรพลแกะกุ้งให้ตรีวิญ แต่ออกมาในสภาพที่ไม่รู้ว่าจะกินยังไงดี “มากินข้าวบ้านคนอื่นแบบนี้ ที่บ้านไม่ว่าเหรอครับ อย่าบอกนะครับว่าคุณตรีวิญเป็นเด็กกำพร้า”
ภัทรพลยิงมุกใส่ตรีวิญอีกแต่คราวนี้เข้าทางตรีวิญ ตรีวิญจึงจัดดราม่าใส่
“ครับ คุณภัทรนี่น่าจะไปเป็นหมอดูนะครับ” ทั้งโต๊ะอึ้ง
“นั่น ดราม่าซะงั้น”
พิมมาลาเอาศอกกระทุ้งภัทรพลเป็นการบอกให้หยุดก่อน
“ผมเป็นกำพร้าครับ ถูกทิ้งอยู่ข้างถนนที่นิวยอร์ค โตในวัดไทยที่โน่น ผมต้องใช้ชีวิตตัวคนเดียวในเมืองใหญ่มาตลอด”
พิมภาอึ้งและรู้สึกเห็นใจ แต่สีหน้าภัทรพลบอกว่ารู้สึกว่าสิ่งที่ตรีวิญพูดมันดัดจริตมาก
“จดไว้สิคุณต้น” ภัทรพลบอกฤชวี ฤชวีงง ว่าภัทรพลให้จดไว้ทำไม “เอาไว้ใช้ในนิยายของคุณ ตัวละครเรียกร้องความเห็นใจบอกว่าตัวเองอยู่ตัวคนเดียวในเมืองใหญ่ที่ต้องแก่งแย่งชิงดีจนติดเป็นนิสัย” ทุกคนอึ้งที่ภัทรพลพูดแบบนั้น แต่ภัทรพลไม่แคร์ “ผมว่านะไม่ต้องไปสงสารหรอก คนแบบนี้ถ้าไม่แน่จริงมันอยู่ไม่ได้หรอก คนบางคนมันก็สร้างภาพทำตัวน่าสงสาร แต่ข้างในลึกๆ คิดแต่จะแย่งของคนอื่นอยู่ตลอดเวลา แปลกกันขึ้นทุกวันนะคนสมัยนี้”
“คุณตรีวิญไม่เป็นแบบนั้นมั้ง ไหนเล่าเรื่องของคุณต่อสิคุณตรีวิญ กำลังสนุกเลย”
พิมมาลาหยิกภาณุวัฒน์
“สนุกอะไรพ่อ เค้าเล่าเรื่องเศร้า”
“พิมว่าเราทานกันต่อดีกว่าค่ะ”
แล้วทุกคนก็ลงมือทานอาหารกันต่อ ภาณุวัฒน์ พิมมาลา ภัทรพลตักอาหารเอาใจฤชวีมาก พิมภามองตรีวิญที่ดูจะเจื่อนไปอย่างเห็นใจนิดๆ

เอกพลเอาเอกสารมาวางที่โต๊ะการะเกตุ ปราสินีเดินเข้ามาหา
“พี่เอกกับคุณเกตุเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้นใช่มั้ย”
ปราสินีถามเอกพล เอกพลไม่พอใจ
“ถ้าไม่ใช่แล้วจะทำไม” เอกพลหันมาจ้องหน้าปราสินี “คนเรามันก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเจ้านาย เพื่อความก้าวหน้ากันทั้งนั้น”
“ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้”
“เงิน อำนาจไง เธอให้พี่ได้มั้ยล่ะ”
“แต่ปลาไม่ยอมให้พี่ทำแบบนี้อีกแล้วนะ ปลาไม่ยอม”
ปราสินีเข้าไปตีเอกพลด้วยความเสียใจ เอกพลรำคาญตบปราสินีผัวะ!
“อย่ามายุ่ง ถ้าฉันหมดความอดทน เธอจะไม่มีแม้แต่ที่จะอยู่”
เสียงการะเกตุคุยกับสินีนาฏดังเข้ามา เอกพลลากปราสินีเข้าไปหาที่หลบ
“เมียคุณต้นมันก็ร้ายนะยาย

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 28 ธ.ค 2555

ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทประพันธ์โดย ปัณณพร
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก ผลิตโดย บ.เมกเกร์ เจ กรุ๊ป จำกัด(โดยคุณนก จริยา แอนโฟเน)
ติดตามชมละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รักได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา manage