@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 6 วันที่ 28 ธ.ค. 55

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 6 วันที่ 28 ธ.ค. 55

ระหว่างที่เอวานั่งรอ เมฆเข้ามาสะกิด เธอตกใจเผลอถามว่าเขามาทำไม

“ที่นี่มันแถวบ้านพี่ พี่น่าจะต้องถามเอวามากกว่า ว่ามาทำอะไรแถวนี้”

“อ๋อ...พอดีเอวาอยากได้เสื้อตัวนึง เขาบอกว่ามีที่สาขานี้ ก็เลยต้องมาถึงที่นี่ไงคะ แต่พอมาเห็นของจริงแล้ว ไม่ชอบอ่ะค่ะ เอวาไปก่อนนะคะพี่เมฆ”

“แล้วเมื่อกี้พี่เห็นคุยอยู่กับใคร มากับเพื่อนไม่ใช่เหรอ”

เอวานึกได้เกือบทิ้งตะวันฉายเสียแล้ว รีบโกหกว่านิคลองชุดอยู่ ไม่ทันไร นิควิ่งชูกุญแจเข้ามาว่าได้แล้ว เมฆหันขวับไปมอง ต่างชะงัก เมฆถามไหนบอกว่านิคลองชุดอยู่


“นี่มันร้านเสื้อผ้าผู้หญิง นิคจะลองเสื้อได้ยังไงล่ะคะพี่เมฆ” เอวาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ

ทันใด ตะวันฉายออกมาจากห้องลอง ในชุดสวยปล่อยผมยาวสยายบ่นเสียงดัง “โอ๊ย...ไม่ได้เป็นตัวเองมาตั้งนาน อึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว”

เอวากำลังแก้ตัวเรื่องนิค ได้ยินเสียงเพื่อนก็รีบดึงตัวเมฆให้หันไปอีกทาง ตะวันฉายเห็นด้านหลังเมฆจำได้ คว้าถุงใส่เสื้อผ้าเก่าจะวิ่งออกไป พนักงานมาขวางขอค่าชุด เธอนึกได้รีบส่งเงินให้และบอกว่าไม่ต้องทอน นิคกับเอวาเห็นว่ารอดแล้วรีบลากลับ สองคนแยกจากเมฆมาได้ถอนใจหวังว่าตะวันฉายจะเอาตัวรอดได้เหมือนกัน พลันเอวานึกได้ วิ่งกลับเข้าไปในร้านเพื่อเก็บวิกผมกับแว่นของตะวันฉาย จากนั้นโทร.บอกให้เธอไปเจอกันที่รถ

ไม่วาย ตะวันฉายรีบร้อนเดินชนกับเมฆเข้าอย่างจัง เธอหันกลับมาโวยวายตามนิสัยปกติ

“เดินยังไงเนี่ย ซุ่มซ่ามจริงๆเลย ไม่เห็นคนหรือไง”

เมฆเอ่ยปากขอโทษ แต่พอเห็นหน้าตะวันฉายก็ตกใจชี้หน้า “นี่เธอ! ยัยผู้จัดการรีสอร์ทตัวแสบ ตามมารังควานฉันถึงนี่เลยเหรอ”

สองคนเถียงกันยกใหญ่ ตะวันฉายต่อว่าชนแล้วไม่ขอโทษ เขาโต้ทันที

“ขอโทษไปแล้วตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้รู้ว่าเป็นเธอ ฉันขอเอาคืนดีกว่า น่าจะชนให้แรงกว่านี้ด้วย ให้ตีลังกาซัมเมอร์ซอล์ทไปซักสามตลบเลย”

“อี...อี...อีปากเน่า ปากเหม็น ปากเป็ด”

“อ้าวๆๆ ด่าไม่ทันเลย คิดไม่ออกเหรอ สมองกระทบ กระเทือนด้วยหรือเปล่า นี่ยังน้อยไปนะ อย่าคิดนะว่าฉันจะลืมว่าคราวก่อนเธอทำฉันแสบขนาดไหน ไฟช็อตกระตุกไปตั้งหลายวัน”

ตะวันฉายสมน้ำหน้า เห็นเขาจะเอาเรื่องจึงร้องตะโกนให้คนช่วยว่าโดนลวนลาม เขาตกใจหันไปปฏิเสธกับคนรอบๆ เธอฉวยโอกาสเอาถุงฟาดเขาล้มลงแล้ววิ่งหนี...มาถึงรถได้ เอวากับนิคยืนรออยู่ ตะวันฉายรีบเล่าเรื่องเมฆ ทั้งสองตกใจกลัวความแตก เธอรับรองว่าเมฆจำไม่ได้ เพราะยังเรียกตนว่าผู้จัดการตัวแสบ ทั้งสามพากันขึ้นรถออกไป เมฆยืนอยู่หลังเสาสีหน้าเครียด

ooooooo

เมฆเอาเดโมมาให้จอมสยามที่ห้องอัด ทีมงานนั่งฟังเพลงของเขา ยิ้มอย่างพอใจ แต่ตัวเมฆกลับหน้าเครียด จนจอมสยามต้องชวนมาคุยส่วนตัว...พอรู้เรื่องตะวันฉายคือซันก็ตกใจ คิดไปต่างๆนานาว่าเธอจะมาแก้แค้น ทำให้เมฆเดือดร้อน จึงแนะนำให้ตรวจสอบประวัติ

เมฆลองโทร.ไปที่รีสอร์ท ขอพูดกับผู้จัดการ พนักงานคิดว่าจะโดนตำหนิการทำงานจากลูกค้า จึงรีบส่งสายต่อให้อ้อรับหน้า เมฆจำเสียงอ้อได้จึงโกหกว่า

“ผมแค่อยากรู้ชื่อของผู้จัดการคุณเท่านั้น พอดีผมมีของขวัญที่อยากส่งไปขอบคุณที่บริการผมได้ดีมากๆน่ะ แต่ผมจำชื่อเธอไม่ได้”

“อ๋อ...ผู้จัดการตอนนี้เธอลาพักร้อนค่ะ ยังไม่ทราบว่าจะกลับมาเมื่อไหร่”

“นี่รีสอร์ทคุณยอมให้พนักงานลางานได้นานยังงั้นเลยเหรอ”

“อูย...ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ ก็คุณตะวันฉายน่ะเป็นพนักงานธรรมดาซะที่ไหนล่ะคะ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณเกริกไกรกับคุณสายรุ้งเจ้าของที่นี่ค่ะ”

เมฆถึงกับเหวอ จอมสยามพลอยอึ้งไปด้วย เมฆเจ็บใจตัวเองที่ไม่เฉลียวใจบ้างเลย ชื่อรีสอร์ทก็ซันไรส์บีชรีสอร์ท น่าจะฉุกคิดบ้าง จอมสยามเตือนสติ

“ที่ผ่านมาแล้ว ช่างมันเถอะ พี่ว่าตอนนี้มาคิดดีกว่า ว่าระดับลูกสาวเจ้าของรีสอร์ทสุดหรูมาเลี้ยงลูกชายนายทำไม”

เมฆครุ่นคิดแล้วยิ้มๆอย่างเจ้าเล่ห์ “มันมีวิธีเดียว มายังไงก็ไปยังงั้น”...

บังเอิญเกริกไกรมีสัมมนาที่กรุงเทพฯ จึงชวนสายรุ้งไปด้วยกัน เธอเห็นดีเพราะถือโอกาสได้เยี่ยมลูกสาว ทั้งสองตกลงว่าจะไปเซอร์ไพรส์ลูกหลังจากเสร็จสัมมนา สายรุ้งข้องใจก่อนหน้านั้นจะนอนที่ไหน เกริกไกรยิ้มกริ่ม จะไปนอนพักที่บ้านเกี๊ยงเพื่อนรัก พ่อของยุทธการ...

ทางด้านยุทธการกำลังปฏิบัติหน้าที่สืบเรื่องบ้านพักที่คนร้ายเคยอาศัยอยู่ ชื่อเจ้าของบ้านคืออินฤดี สุรพรพงษ์ หญิงสูงวัยแต่เธอเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว สอบถามจากป้าอดีตเจ้าของบ้าน เธอว่าได้ขายบ้านให้ผู้หญิงสาวคนหนึ่ง ตอนหลังมารู้ว่าเธอออกหน้าให้ชาวต่างชาติชื่อเฮลมุท

ขณะเดียวกัน เฮลมุทซึ่งอยู่ที่เยอรมัน รู้ข่าวว่าตำรวจบุกสอบถามเจ้าของบ้านคนเดิม ชักหวั่นใจจึงตัดสินใจเดินทางไปเมืองไทย

ooooooo

บ่ายคล้อย เมฆรับหมอกกลับจากโรงเรียนตะวัน- ฉายรีบมาช่วยถือของที่รถ เก่งให้หมอกขี่คอเข้าบ้าน เมฆหันมาจ้องตะวันฉายถามกลับมานานแล้วหรือ เธอพยักหน้าและบอกว่าได้ซื้ออาหารไว้ให้หมอก เรียบร้อย เมฆยิ้มๆอย่างมีเลศนัย แถมชมว่าดี...น่ารักมาก เธอยืนอึ้ง

เมฆเข้าบ้านมาเจออิงฟ้าเล้าโลม เขาถึงกับมือไม้สั่น พยายามเลี่ยงหนี แต่กลับกลายเป็นเงอะงะทำอะไรไม่ถูก อิงฟ้ายิ่งมั่นใจว่าเมฆยังไม่ลืมตน จึงตั้งใจจะทำให้กลับมารักกันอย่างเดิม เขารีบผละหนีเข้าห้องทำงาน...พอดีหมอกโยเยจะเอาลูกบอลสีส้มเข้าไปเล่นในอ่างอาบน้ำด้วยแต่ลืมไว้ในห้องทำงานพ่อ ให้ตะวันฉายไปเอามาให้ก่อนถึงจะยอมอาบน้ำ

ตะวันฉายจำต้องลงมาเอา พอเปิดประตูห้องทำงาน เมฆเข้าใจว่าอิงฟ้าตามมา จึงเสียงเข้ม

“ฟ้า...ผมขอร้อง คุณดูแลหมอกอย่างเดียวเถอะ ผมไม่อยากกลับไปรื้อฟื้นอดีตอีกแล้ว” เมฆเห็นเงียบๆจึงหันไปมอง เจอตะวันฉายยืนเหวอ “เข้ามาทำไมไม่เคาะ ประตู เสียมารยาท”

“ผมน่ะเหรอเสียมารยาท ผมก็นึกว่าคุณเมฆขึ้นไปอาบน้ำแล้ว ใครจะไปคิดล่ะครับว่าจะได้ยินความในใจที่คุณจะบอกคุณฟ้า”

“นายเงียบไปเลยนะ ไม่งั้น...” เมฆเห็นตะวันฉายหัวเราะจึงเข้ามาจ้องหน้า

ตะวันฉายถอยกรูดจนชนกำแพง เมฆก้าวเข้าประชิด ทำเสียงหายใจหื่นๆ เธอหน้าตื่นตระหนก รีบบอกว่าไม่ได้ตั้งใจยุ่งเรื่องชาวบ้าน ที่ลงมาเพราะมาเอาลูกบอลให้หมอก เมฆเอื้อมหยิบบอลมาแกล้งปาใส่หัวเธอ ตะวันฉายข่ม อารมณ์โกรธ เมฆอดขำไม่ได้ สะใจที่ได้แกล้ง

ถือบอลหน้าหงิกออกมา เจอเก่งถามว่าเป็นอะไร ตะวันฉายบอกตนไม่ได้เป็นอะไร แต่เจ้านายเขานั่นแหละที่เป็น เก่งตกใจจะรีบเข้าไปดูแล เธอรั้งเขาไว้พร้อมบอกว่า เมฆเป็นตุ๊ดให้ระวังตัวไว้ ทำเอาเก่งเกาหัวงงๆ

หลังจากนั้น ระหว่างที่ตะวันฉายกำลังป้อนข้าว หมอก อิงฟ้าแต่งตัวสวยลงมา หมอกเอ่ยปากชมแม่ เธอยิ้มเข้ามาดึงข้าวไปป้อนให้หมอกเอง ตะวันฉายเห็นอย่างนั้นก็จะเลี่ยงไปทำอย่างอื่น เธอกลับเรียกไว้และบอกว่าเดี๋ยวเมฆมาจะออกไปข้างนอก พอดีเมฆลงมาอิงฟ้ารีบลุกขึ้น

“ฟ้ากำลังปรับตัวกับลูก หมอกน่ารักนะเมฆ ไม่ดื้อกับฟ้าเลย”

เมฆพยักหน้า “หมอกครับ พ่อไปทำงานนะ เดี๋ยวหมอกทำการบ้านแล้วรีบนอนนะครับ”

“ฟ้าแต่งตัวแล้ว ให้ฟ้าไปด้วยนะ ฟ้าอยากจะ ทลายกำแพงในใจเมฆ ให้ฟ้าไปเถอะนะ”

อิงฟ้าเข้าเกาะแขน เมฆสบตาตะวันฉาย แกะมืออิงฟ้าออกแล้วเปรยว่า “ฟ้าปรับตัวกับลูกได้ดีนี่ งั้นทำไมฟ้าไม่อยู่กับหมอกทั้งคืนล่ะ ทำหน้าที่แม่ที่กำลังไปได้ดี ผมเอาใจช่วยนะ”

อิงฟ้าจะแย้ง เมฆหันมาดึงตะวันฉายบอกให้ไปกับตน อิงฟ้ามองเมฆจูงมือตะวันฉายก็ขัดใจ จะตามไปแต่หมอกเรียกไว้ให้ป้อนข้าว เธอจึงชะงักได้แต่หงุดหงิดใจ

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 6 วันที่ 28 ธ.ค. 55

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ