@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 6 วันที่ 2 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 6 วันที่ 2 เม.ย. 57

“เอ่อ..สุหมายถึง..” สุริยงหยิบใบลาออกจากกระเป๋าส่งให้สมคิด “..สุขอลาออกค่ะ”
สมคิดช้อค เปิดจดหมายดู “จดหมายลาออก?? .. ดะ..เดี๋ยวนะครับคุณสุ นี่..ล้อเล่นหรือเปล่า? หรือว่า...น้อยใจเรื่องโต๊ะเก้าอี้?”

สุริยงขำ “ไม่ใช่ค่ะ สุแค่เบื่อ! และที่สำคัญ..งานของสุก็มีคนมาทำแทนแล้ว ก็เลยไม่รู้จะอยู่ไปทำไม .. สุคิดว่า..การลาออกคือทางออกที่ดีที่สุดค่ะ”


สุริยงตอบอย่างมั่นใจ ยิ้มน้อยๆ สมคิดช้อคอยู่ อึกอักพูดไม่ออก

จังหวะนั้นเองที่วิบูลย์วิ่งกระหืดกระหอบมา

“คุณสมคิดครับ คุณสมคิด! ลูกค้าตอบรับจะมาเยี่ยมชมโรงงานแล้วครับ นี่ครับ..ผมพริ้นท์รายละเอียดมาจากเมล์..”

วิบูลย์รีบส่งจดหมายให้สมคิดก็รับมา ในใจก็ยังกังวลเรื่องสุริยง แต่งานนี้ก็สำคัญ ในมือสมคิดมีทั้งจดหมายลาออก และเอกสารของวิบูลย์

วิบูลย์พูดต่อด้วยความตื่นเต้น “เขาบอกว่าจะมาอาทิตย์หน้า เราต้องรีบเตรียมงานแล้วนะครับ เดี๋ยวไม่ทัน คุณสมคิดจะเป็นคนโทรบอกคุณเขม หรือจะให้ผมโทร หรือจะให้คุณสุโทร ใครจะโทรดีครับ”

ทันใดนั้นเสียงเขมชาติก็ดังขึ้น “มีเรื่องอะไร? ส่งเสียงดังลั่นไปถึงข้างนอก”

วิบูลย์ตกใจหันขวับมาเห็นเจ้านายยืนอยู่ข้างหลังทำให้ต้องรีบรายงานด้วยความตื่นเต้น

“ลูกค้าส่งเมล์ตอบรับว่าจะมาเยี่ยมชมโรงงานแล้วครับ” วิบูลย์หันมาหยิบกระดาษจดหมายจากมือสมคิด “นี่ครับ..เมล์ของลูกค้า”

เขมชาติก้มดูแล้วก็เอ่ยออกมาอย่างงงๆ “จดหมายลาออก …”

สมคิดและสุริยงตกใจ วิบูลย์งง.. เขมชาติกวาดสายตาอ่าน

“จดหมายลาออกอะไรครับ?”

สมคิดรีบสะกิดวิบูลย์ หน้าดุๆ “หยิบผิด..เมล์มันแผ่นนี้!!!”

“อ้าววววว..แล้ว..แผ่นนั้น..เป็นจดหมายลาออกของใครครับ?”

เขมชาติเงยหน้ามาทางสุริยง..สุริยงยืนนิ่งๆ..ไม่หวาดหวั่น

เขมชาติหันมาทางวิบูลย์ “เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาประชุมที่ห้องประชุมใหญ่ด่วน”

วิบูลย์ตอบรับแล้วก็รีบวิ่งออกไป

“คุณสมคิด...เดี๋ยวคุณดำเนินการประชุมแจกงานไปตามที่เราตกลงกัน เอา “คนของคุณ” เข้าประชุมด้วย และช่วยบอกให้เขาเอาสมองมาทำงานสำคัญของบริษัท อย่าเอาไปคิดเรื่องไร้สาระ”

เขมชาติชูจดหมายลาออกขึ้นแล้วก็ขยำ พร้อมกับปาทิ้งผ่านหน้าสุริยงไปลงถังขยะ แล้วก็เดินผ่านเข้าห้องไป

อย่างไม่ใยดี สมคิดมองสุริยงด้วยความเห็นใจ หญิงสาวมองกระดาษจดหมายลาออกที่อยู่ในถังขยะด้วยความเซ็ง

เขมชาติเข้าห้องทำงานแล้วก็ปิดประตู ทันทีที่อยู่คนเดียว ชายหนุ่มก็เปลี่ยนจากใบหน้าเคร่งขรึมเป็นครุ่นคิด...จะลาออกจริงหรือ?

ในห้องประชุม สมคิดดำเนินการประชุม วิบูลย์ มาลัยนั่งข้างๆ สุริยง วิเวียน เจน และพนักงานคนอื่นๆนั่งเรียงกันไป

“อาทิตย์หน้าจะมีนักออกแบบตกแต่งภายในจากอังกฤษและฝรั่งเศสมาเยี่ยมชมโรงงาน ผมจะขอแบ่งงานตามนี้นะ...ฝ่ายต้อนรับ วิบูลย์กับวิเวียนรับไป” วิบูลย์กับวิเวียนพยักหน้ารับทราบ

“ฝ่ายประสานงานโรงงาน ก็เป็นเจน.” สมคิดอ่านตามรายการ “แล้วเจนก็รับหน้าที่บรรยายภาษาไทยให้ลูกค้าฟังด้วยนะ”

เจนพยักหน้ารับงงๆ แอบไม่มั่นใจ “ค่ะ ..” วิญญูที่นั่งอยู่ข้างๆมองอย่างไม่พอใจ อิจฉา และหมั่นไส้

“ฝ่ายประสานงานทั่วไปก็ .. คุณสุ ..”

“แล้วประสานงานทั่วไป..ต้องทำอะไรบ้างคะ?”

สมคิดอ่านแล้วก็เงยหน้าตอบยิ้มๆ “คุณเขมบอกว่า... “ทำทุกอย่าง” อะไรที่ไม่มีใครทำก็..”คุณสุ” หรือ..อะไรที่ใครทำไม่ได้ก็.. “คุณสุ” อีกเช่นกัน แหะๆ ฟังดูดี ฟังดูมีความสำคัญนะครับ”

“สุจะพยายามคิดแบบนั้นค่ะ” เธอเองก็ยิ้มแห้งๆกลับมา

“หน้าที่หลักๆก็มีแค่นี้..ส่วนในรายละเอียดยิบย่อย ผมจะแจกงานให้อีกที ตอนนี้ก็แยกย้ายกันไปทำงานได้”

พนักงานค่อยๆทยอยลุกขึ้น และเดินออกไป เหลือวิบูลย์ สมคิด และสุริยงที่กำลังจะลุกเดินออกไป

วิบูลย์รีบหันมาถามสุริยง “คุณสุครับ.. คุณสุ..จะลาออกจริงๆหรือครับ?”

หญิงสาวยิ้มรับ “จริงค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ สุจะอยู่ทำงานนี้ให้จบก่อน...แต่สุยืนยันว่า..ออกแน่ค่ะ” วิบูลย์พูดไม่ออก สุริยงก้มดูนาฬิกา “ได้เวลาเลิกงานพอดี คุณสมคิดคะ..ถ้าวันนี้ไม่มีงานอะไรแล้ว สุขอตัวกลับเลยนะคะ”

“ครับ”

สุริยงยิ้มลาแล้วก็เดินออกไป วิบูลย์หันมามองหน้าสมคิด..สมคิดยักไหล่ ทำไงได้

สุริยงเดินมาที่รถหน้าตาสบายอารมณ์ เปิดรถเข้าไปนั่ง สตาร์ท...ไม่ติด..สตาร์ทอีกทีก็ไม่ติด อีกทีก็ไม่ติด

อีก 3-4 ทีก็ไม่ติด สุริยงหน้าเริ่มไม่ชิลล์...เฮ่อออออ

รถลากกำลังลากรถสุริยงออกไป..สุริยงยืนมองตามด้วยความเซ็ง ข้างๆกันมีคุณวิบูลย์ยืนถือกระเป๋างานอยู่

“ขอบคุณคุณวิบูลย์มากนะคะ ที่ช่วยโทร.เรียกอู่มาลากรถไปซ่อม”

“ยินดีครับ..อู่นี้ซ่อมนี้ครับดี ไม่ต้องห่วง งานเนี้ยบ เร็ว ไม่วางยา แล้วคุณสุ กลับยังไงครับเนี่ย?”

“ก็คงจะแท็กซี่หรือไม่ก็รถเมล์ค่ะ”

“งั้นไม่ต้องเลยครับ บ้านคุณสุอยู่ไม่ไกลบ้านผม เดี๋ยวผมไปส่งเอง”

“ขอบคุณค่ะ”

วิบูลย์เดินนำไปมีสุริยงเดินตาม ทันใดนั้นมือถือวิบูลย์ดังขึ้นพอเห็นชื่อแล้วก็ต้องรีบกดรับทันที “คุณเขม สวัสดีครับคุณเขม... หะ?? ไปโรงงานตอนนี้หรือครับ..ครับๆได้ครับ..เอ่อแต่ว่าคุณสุเธอรถเสียแล้วผมต้องไปส่งเธอที่บ้าน ......โอเคครับๆ ได้ครับ สวัสดีครับ” วิบูลย์วางสายแล้วหันมาทางสุริยง

“คุณเขมให้ผมเข้าไปดูงานที่โรงงานด่วน คงไปส่งคุณสุไม่ได้แล้วนะครับ”

สุริยงยิ้ม “ไม่เป็นไรค่ะ สุกลับแท็กซี่ก็ได้ค่ะ”

วิบูลย์รีบบอก “แต่คุณเขมบอกว่า..จะไปส่งคุณสุเองนะครับ คุณเขมให้บอกคุณสุว่ายืนรออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวคุณเขมลงมา อ้อ..แล้วยังกำชับว่าถ้าคุณหนีกลับไปก่อน..ผมจะซวย..คุณสุก็ช่วยยืนอยู่ตรงนี้หน่อยนะครับ ผมจะได้ไม่ซวย แหะๆ .. ผมไปโรงงานก่อนนะครับ”

วิบูลย์พูดจบก็รีบเดินไปที่รถทันที สุริยงมองตามวิบูลย์ด้วยความลังเล..เอาไงดี แต่แล้วก็จำใจยืนรอ

เขมชาติยืนมองสุริยงจากห้องกระจกในบริษัท.. ในมือมีกระดาษจดหมายลาออกที่ยับยู่ยี่อยู่ด้วย ชายหนุ่มก้มดูจดหมาย และเงยหน้ามองสุริยงที่ยืนอยู่ .. แล้วก็คิดว่าจะทำยังไงดี?

ในห้องประชุมเล็ก เกนหลงเลื่อนแบบแพลนโรงแรมบูธีคขนาดเล็กที่อยู่ตรงหน้า ไปให้สถาปนิก 2 คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามดู โดยมีพจน์นั่งอยู่ข้างเธอ

“เกนตรวจแบบอาคารที่พักแล้ว มีแก้เล็กน้อย เขียนกำกับไว้แล้วค่ะ”

“ได้ครับ ผมจะกลับแก้ไขเรียบร้อยแล้วจะรีบส่งมาให้ดูอีกที” สถาปนิกยกมือไหว้แล้วพากันเดินออกไป

พจน์หันมาพูดกับเกนหลง “ถ้าโรงแรมแห่งใหม่สร้างเสร็จ ลูกต้องมาคุมให้พ่อนะ ห้ามเบี้ยว”

“รับทราบค่ะ กว่าโรงแรมจะเสร็จ เกนก็พักจนชุ่มปอด พร้อมทำงานแน่นอน”

“ดีมาก! เออ แล้วเรื่องไปเป็นเลขาให้เขมชาติ เป็นยังไงบ้าง? เริ่มหรือยัง?”

”จะเริ่มแล้วค่ะ เร็วๆนี้เกนจะเข้าไปฝึกงานกับ “คุณสุ” เลขาคนปัจจุบันน่ะค่ะ จริงๆเขาก็ดูเป็นเลขาที่ดีทำไมเขมไม่ชอบก็ไม่รู้ อ้อ..คุณสุเป็นภรรยาคนสุดท้ายของเจ้าสัวชวลิต รัตนชาติ นะคะคุณพ่อ”

“ห๊า?? รวยระดับนั้นจะมาเป็นเลขาทำไม....ลูกรู้หรือเปล่า?”

เกนหลงนิ่งพลางคิด..นั่นสิ....

ตกเย็น เกนหลงกำลังนั่งอ่านแท็บแล็ตอยู่ในบ้านของเธอ ที่หน้าจอขึ้นภาพหนังสือ “ปิดรั้วบ้าน รัตนชาติ” ซึ่งยิ่งอ่านก็ยิ่งสงสัย

“ในบทสัมภาษณ์ไม่เห็นมีใครพูดถึงคุณสุเลย คุณสุกับคนในรัตนชาติต้องมีปัญหากันแน่ๆ”

ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เกนหลงหันไปหยิบมาดู ไม่มีชื่อขึ้น เกนหลงจึงกดรับ “สวัสดีค่ะ”

“คุณเกนหลง อรเองนะคะ อรทัย รัตนชาติ น้องสาวพี่เอื้อ คิดว่าน่าจะจำกันได้นะคะ” เสียงที่ตอบมานั้นมีความนุ่มนวลเป็นมิตรเต็มเปี่ยมเลยทีเดียว

ค่ำแล้ว สุริยงยังคงยืนอยู่ที่หน้าตึกบริษัท ฟ้าครึ้มๆเหมือนฝนจะตก สุริยงตัดสินใจเดินออกไปเลย รปภ. รีบเดินมาหา

“คุณสุริยงครับ..ยังไปไม่ได้นะครับ คุณเขมชาติสั่งให้ผมคอยดูคุณไว้ ไม่ให้กลับ ถ้าคุณเขมลงมาไม่เห็น..ผมซวยแน่ๆครับ”

สุริยงจึงหันมาทางรปภ.และบอกเขาอย่างเซ็งๆ “ฉันไม่กลับหรอก..กลับไปทำงานต่อเถอะ”

ได้ยินแบบนั้นรปภ.จึงยอมเดินกลับไป

ขณะเดียวกัน จดหมายลาออกของสุริยงยังวางนิ่งอยู่ตรงหน้าเขมชาติ..ทันใดนั้นฟ้าก็แล่บแปลบทำให้ชายหนุ่มหันมามองที่นอกหน้าต่าง

สุริยงยังรออยู่ที่เดิม จู่ๆ ฝนก็ตกมาซู่ใหญ่ สุริยงตกใจมองหาที่กำบัง ..ระหว่างกำลังวิ่งไปสมุดแฟ้มงานก็ร่วงลงพื้น กระดาษหล่นเกลื่อน สุริยงรีบก้มลงเก็บท่ามกลางฝนที่กระหน่ำลงมา ทันใดนั้นก็มีร่มยื่นเข้ามากันฝนให้..สุริยงเงยหน้าพบว่าคนที่ถือร่มอยู่ก็คือเขมชาติ เธอจึงออกจะแปลกใจไม่น้อย..สองคนยืนอยู่ในร่มคันเดียวกัน

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 6 วันที่ 2 เม.ย. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3