@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 9 วันที่ 5 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 9 วันที่ 5 เม.ย. 57

อัมพิกามองหน้าเขมชาติ แล้วก็ยิ้ม....พอใจ เขมชาติเบือนหน้ามองออกอีกทาง..แววตาเต็มไปด้วยความดูถูก และชิงชัง ... อัมพิกายิ้มสะใจ
รูปถ่ายของเขมชาติและสุริยงวางอยู่ตรงหน้าเอื้อ....เอื้อมองอึ้งๆ โดยมีอรทัยยืนยิ้มสะใจอยู่ตรงหน้า

“นี่มันเข้าไปเริ่มงานได้ไม่นาน แล้วก็รู้ทั้งรู้ว่า เขมชาติมีเกนหลงอยู่ทั้งคน มันยังกล้าทำแบบนี้ พี่เอื้อตาสว่างสักที เลิกยุ่งกับมันได้แล้ว”


เอื้อมองหน้าอรทัย “พี่ว่าเรานั่นแหละ..ที่เลิกยุ่งกับหนูเล็กเขาได้แล้ว รู้หรือเปล่าว่าทำแบบนี้มันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ดีไม่ดี หนูเล็กเขาฟ้องร้องขึ้นมา เราจะเสียทั้งเงิน เสียทั้งชื่อ”

“อ้าวววว... อรเอารูปพวกนี้มาให้ดู เพราะหวังดี อยากให้พี่เอื้อรู้ว่ามันสำส่อน อ่อยผู้ชายไปทั่ว ไม่ใช่ให้พี่เอื้อมาว่าอร แล้วยังเข้าข้างมันอีก”

“ขอบใจที่หวังดี .. แต่พี่รู้จักหนูเล็กดีพอ และรูปพวกนี้มันก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าเขาเป็นคนยังไง”

เอื้อหยิบรูปมาดูทีละใบ... ”รูปนี้...ดูจากมือก็รู้ว่าเขมชาติเป็นคนจับมือหนูเล็ก แล้วก็ลากไป ถ้าดูให้ละเอียด จะเห็นว่าหนูเล็กไม่ยินดี เพราะมือดูเกร็งๆฝืนๆ แล้วก็ไม่ได้จับมือเขมชาติ”

อรทัยชะงักรีบหยิบรูปมาดู เพ่ง .. จริงหรือ?? เอื้อพูดต่อ

“ส่วนรูปนี้ ดูก็รู้ว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะท่านั่งมันไม่ได้สบาย หรือสวีทแม้แต่นิดเดียว หนูเล็กก็หน้าตาตกใจ ยิ่งกว่านั้น..คนรอบข้างไม่เห็นมีคนสนใจมอง แสดงว่าเหตุการณ์นี้มันต้องเกิดขึ้นเร็วมาก จนคนที่อยู่แถวนั้นไม่ได้สนใจ”

เอื้อวางรูปไว้ตรงหน้าอรทัย อรทัยเงยหน้ามามอง..จริงด้วย แต่ไม่อยากเสียหน้าก็ยังดันทุรังไป

“มันอาจจะเล่นละครก็ได้ ทำเป็นไม่อยากจะจับมือ ไม่อยากนั่งตัก แต่จริงๆระริกระรี้จนตัวสั่น”

“หนูเล็กเขาไม่เหมือนเรา .. อย่าเหมารวม”

“นี่พี่เอื้อด่าอร หาว่าอรบ้าผู้ชายหรือไงหะ?” เธอเสียงดังขึ้นทันที

“เดี๋ยวๆ พี่ไม่ได้ด่าสักคำว่า “บ้าผู้ชาย” พี่บอกแค่ว่าหนูเล็กไม่เหมือนเรา...แต่เราสรุปเองว่า..เราบ้าผู้ชาย”

อรทัยประท้วงเสียงดัง “พี่เอื้อ!!!!!”

เอื้อยกมือห้าม “อย่ามาเหวี่ยง ตอนเด็กๆพี่ยังพอจะยอม แต่ตอนนี้โตๆกันแล้ว ถ้าคุยกันด้วยอารมณ์อย่าคุยกันดีกว่า”

อรทัยอึ้ง...โกรธจนตัวสั่น แต่ช็อค กรี๊ดไม่ออก

“ส่วนรูปพวกนี้ พี่ไม่อยากให้มันหลุดรอดออกไปแม้แต่เกนหลง..พี่ก็ไม่อยากให้เห็น” เอื้อดักคออย่างรู้ทัน อรทัยสะอึก “ถ้าไม่เชื่อ..พี่จะบอกเขมชาติว่าเราส่งคนแอบสะกดรอยตาม คิดเอาเองแล้วกันว่าเขาจะรู้สึกยังไง”

“อ๊ายยยย!!” อรทัยกรี๊ดจนได้ เอื้อส่ายหน้า “อรกับพี่อัมพยายามเตือนแล้วนะ พี่เอื้อไม่ฟังเอง คอยดู...สักวันพี่จะต้องเสียใจเพราะมัน” อรทัยทิ้งท้ายอย่างกราดเกรี้ยว แล้วก็เดินกระแทกซ้นออกไป เอื้อได้แต่ส่ายหน้า....พออรทัยออกไปแล้ว เอื้อยืนอยู่คนเดียวในคอนโดที่เงียบกริบ....เอื้อหันมาดูรูปเขมชาติกับสุริยงอีกครั้ง..แม้จะทำเป็นไม่แคร์ แต่เมื่ออยู่คนเดียว...แววตาของเอื้อก็แสดงความหวั่นไหวออกมา



เขมชาตินั่งหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของอาทิตย์ “อาทิตย์คอนสตรัคชั่น” มีภาพอาทิตย์ตอนยังทำธุรกิจ พร้อมหัวข้อข่าว “อสังหาซบ ผู้ลงทุนขนาดกลางทรุด” “พิษเศรษฐกิจอาทิตย์คอนสตรัตชั่นล้มทั้งยืน”

เขมชาติอ่านหน้าเครียด...เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อเห็นชื่อเกนหลง เขมชาติก็หลับตาปรับอารมณ์ตัดความแค้นออก แล้วกดรับด้วยน้ำเสียงร่าเริงขึ้น

“สวัสดีครับคุณเกน กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลย”

เกนหลงยืนโทรศัพท์อยู่ในชุดราตรีสวย “เกนก็คิดถึงคุณค่ะ คิดถึงตั้งแต่ยังไม่หิว จนตอนนี้หิวมาก”

เขมชาติทำหน้างง “อ้าว..หิวแล้วทำไมไม่ทาน...” แล้วเจ้าตัวก็นึกได้ ลุกพรวด “แย่แล้ว!! ผมลืมนัด คุณเกนผมขอโทษ พอดี มีเรื่องด่วนเข้ามาก็เลยลืมไปเลย” เขมชาติพูดไป เดินไป วิ่งไป รีบแต่งตัวสุดๆ

“คุณเกนอย่าเพิ่งโกรธนะครับ ผมขอโทษ แต่เมื่อเช้าผมจองโต๊ะ จองร้านเอาไว้แล้ว คุณเกนอย่าเปลี่ยนใจนะครับ ผมจะรีบออกไปรับเดี๋ยวนี้”

เกนหลงส่ายหน้านิดๆ ไม่หงุดหงิด แต่แอบดุ “ไม่ต้องมารับหรอกค่ะ”

เขมชาติกำลังจะแต่งตัวค้างเลยหน้าเสีย

“เดี๋ยวเกนให้คนขับรถไปส่งที่ร้าน จะได้ไม่ต้องเสียเวลา”

เขมชาติจึงโล่งอก “โอเคครับ ได้เลยครับ ผมจะรีบออกไปเดี๋ยวนี้เลย เจอกันครับ”

ชายหนุ่มรีบวางสายแล้วก็วิ่งถอดเสื้อออก หยิบเสืออีกตัว พร้อมกับสูทแล้วก็รีบวิ่งออกไปเลย



เกนหลงเดินเข้ามาในร้านอาหารหรูบนดาดฟ้าของโรงแรมที่มีบรรยากาศสวยงาม พนักงานเดินเข้ามาต้อนรับ“คุณเขมชาติรออยู่ทางนี้ครับ”

พนักงานเดินนำไป เกนหลงเดินตาม จนมาถึงมุมสวยงามของร้าน มองลงไปเห็นกรุงเทพ หญิงสาวมองวิวแล้วก็ยิ้มพอใจ ทันใดนั้นก็มีเค้กก้อนเล็กๆยื่นเข้ามา หน้าเค้กเขียนว่า “I’m sorry”

“ผมขอเขาแต่งหน้าเค้กเองเลยนะ .. ผมขอโทษ”

เกนหลงรับมาดู “เขียนแค่นี้เอง ทำมาเป็นคุย เกนยกโทษให้ก็ได้ เพราะตอนนี้หิวมาก ขอทานก่อนนะคะ เรื่องโกรธเอาไว้ทีหลัง”

เขมชาติยิ้มกว้างโล่งอก รีบกุลีกุจอพามาที่โต๊ะ “ได้เลยครับ ผมสั่งอาหารไว้ให้แล้ว รับรองว่าถูกใจแน่นอน”

ทั้งคู่นั่งประจำที่ อาหารมาเสิร์ฟ เกนหลงลงมือกินแบบไม่ห่วงสวย เขมชาติเห็นแล้วก็ยิ้มๆ ในความเป็นธรรมชาติของเธอ



กรุงเทพยามราตรี..ขนมเค้กเยินๆของเขมชาติยังวางอยู่กลางโต๊ะ สองคนเริ่มมาดื่มชาเบาๆ หลังอาหารก

“คืนนี้เกนอยู่ดึกมากไม่ได้นะคะ เพราะพรุ่งนี้ต้องเริ่มทำงานกับคุณเป็นวันแรก..ลืมอีกหรือเปล่า?”

เขมชาติรีบบอก “ไม่ลืมครับ จำได้แม่นมาก และผมก็เตรียมทุกอย่างไว้อย่างดี”

“ไม่ต้องดีมากก็ได้นะคะ เกนไปทำแค่วันเดียว คุณอาจจะอยากไล่ออกก็ได้”

“ผมหาเหตุผลที่จะไล่คุณออกไม่ได้แน่นอน”

“มีสิคะ เกนเป็นคนทำงานช้านะคะ คิดแล้วคิดอีก คุณอาจจะรำคาญ”

“ช้าสิดี จะได้ช่วยรั้งผมไว้ ผมเป็นคนใจร้อน”

“ถ้าอยากได้คนรั้ง ต้องคุณสุเลยค่ะ รายนั้นทั้งหนักแน่น ทั้งเยือกเย็น”

เขมชาติรู้สึกเหมือนโดนจี้ใจ อารมณ์กรุ่นๆจากเรื่องที่เพิ่งได้ยินจากอัมพิกาวูบกลับมา

“อย่าเอาตัวคุณไปเทียบกับเขา แม้แต่ปลายก้อยของคุณเขาก็เทียบไม่ได้!”

“เขมก็พูดเกินไป เกนไม่ได้ดีกว่าคุณสุสักหน่อย”

“ถึงคุณจะถ่อมตัว แต่ความจริงก็คือความจริง ผมผ่านอะไรมามาก ผมรู้ว่าเพชรกับพลอยมันต่างกันยังไง ผมไม่โง่อีกต่อไป”

“ไม่โง่อีกต่อไป...แสดงว่า เคยโง่มาก่อน”

“ใช่ ทั้งโง่ ทั้งงมงาย ดูคนไม่ออก โดนหลอกจนต้องเจ็บเกือบตาย แต่ผมตั้งใจไว้ว่าจะใช้
บทเรียนที่ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด”
เกนหลงมองเขมชาติ และสัมผัสได้ถึงความเจ็บกับบางสิ่ง
“คุณเขมคะ ไม่มีใครหรอกนะคะที่จะไม่เคยโง่ แล้วก็ไม่มีใครที่จะสมหวังไปทุกอย่าง คนเรามี
ความหวังตั้งมากมาย มันก็ต้องมีทั้งสมหวังและผิดหวัง บทเรียนแต่ละบทที่เราได้รับเป็นสิ่งที่เราซื้อไม่ได้ จ้างใคร
มาสอนก็ไม่ได้ เราต้องเจอเอง ต้องเจ็บเอง ถึงจะรู้ว่ามันเป็นยังไง”
เขมชาติฟังแล้วก็คิดตาม
“ใช่ ต้องเจอเอง ต้องเจ็บเอง ถึงจะรู้ ความเจ็บนั้นมันเป็นยังไง”

เขมชาติคิดกับตัวเอง แววตาแข็งขึ้นเล็กน้อย เหม่อมองวิวกรุงเทพเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิด เกนหลงมองเขมชาติ และในวูบนั้น เธอเห็นความเศร้าในแววตาชัดเจน เกนหลงสงสัย หากก็เลือกที่จะเก็บความสงสัยนั้นไว้กับตัวเอง
วิบูลย์จอดรถที่หน้าบริษัท ก่อนที่จะเดินนำสุริยงลงจากรถ แล้วเดินคุยกันไปตามทาง
“อีก 2 วันจะได้รถนะครับ ผมจะให้เขาเอามาส่งที่บริษัท”
“ขอบคุณมากค่ะ ได้รถสักทีก็ดีค่ะ จะได้ไม่ต้องลำบากคุณวิบูลย์มารับมาส่ง”
วิบูลย์พูดอย่างจริงใจ
“บ้านเราไม่ไกลกันไม่ได้ลำบากเลยครับ ถ้าผมไม่รับส่งแล้วโดนคุณเขมด่านี่สิครับ ลำบากแน่”
สุริยง ยิ้มรับนิดๆนึกได้
“อ้อ..ธุระด่วนที่ต้องไปทำเมื่อวันเสาร์เรียบร้อยดีมั้ยคะ?”
“ธุระด่วนอะไรครับ” วิบูลย์แปลกใจ
“ผู้อำนวยการบอกว่า วันเสาร์ที่คุณวิบูลย์ไม่ได้ไปซื้อของด้วยกัน เพราะติดธุระด่วน”
วิบูลย์หน้าเหวอ แต่ก็รีบรับมุกไปก่อน
“อ๋อ ใช่ครับ ติดธุระด่วนมาก แต่ตอนนี้เรียบร้อยแล้วครับ” พลางหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนจะ
ถามกลับ “แล้วคุณสุหล่ะครับ ซื้อเฟอร์นิเจอร์กับผู้อำนวยการเป็นยังไงบ้างครั ? โอเคหรือเปล่า?”
“ก็โอเคนะคะ กำลังจะขึ้นไปดูว่าจัดออกมาแล้วเป็นยังไง สุขอตัวก่อนนะคะ”
“ครับๆ เชิญครับ”
เมื่อสุริยงเดินคล้อยหลังไป วิบูลย์มองตามแล้วก็บ่นกับตัวเองงงๆ
“ทำไมคุณเขมต้องโกหกว่าเราติดธุระด้วย”
วิบูลย์ค้างคาใจอย่างแรง

ห้องทำงานของเกนหลง ได้รับการตกแต่งอย่างดูดี สุริยงกำลังจัดดอกไม้ เพิ่มความสดชื่น
พลางดูความเรียบร้อยภายในห้อง
ทันใดนั้นเขมชาติก็เดินเข้ามาทางด้านหลังและมองสุริยงที่กำลังจัดดอกไม้อย่างอ่อนโยน แต่
คำพูดของอัมพิกา ที่ดังก้องในหัวกลับแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว
“เขาเป็นได้อย่างมากก็แค่ “นางบำเรอ” ที่มีทะเบียนสมรสของคุณพ่อพี่ ผู้หญิงไร้ศักดิ์ศรี
แต่งงานกับเพื่อนพ่อเพื่อแลกกับเงินสองร้อยล้านจะรักใครเป็น นอกจากรักตัวเอง”
เขมชาติเหยียดริมฝีปากอย่างดูถูก จงเกลียดจงชัง
สุริยงรู้สึกตัวเหมือนมีคนยืนอยู่ จึงหันมา เขมชาติรีบเปลี่ยนจากเหยียดเป็นยิ้มทันที

“สวัสดีค่ะผู้อำนวยการ ดิฉันจัดห้องคุณเกนหลงตามที่ผู้อำนวยการต้องการเรียบร้อยแล้ว ขอ
ตัวไปเตรียมงานที่จะสอนก่อนนะคะ”
สุริยงหันหลังจะเดินไป เขมชาติเรียกขึ้น เสียงเข้ม แววตากระด้างกว่าเดิม ความรู้สึกเบื้องลึกถูก

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 9 วันที่ 5 เม.ย. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3