@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 3 วันที่ 11 ก.ค. 57

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 3 วันที่ 11 ก.ค. 57

ปลาตวาดแว๊ด “อย่างพี่จะมาเข้าใจอะไร ทำเป็นพูดดี ทั้งๆที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยซักอย่าง”
“แล้วทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วย พี่พูดอะไรผิดเหรอ” เจติยารู้สึกแปลกใจกับอารมณ์ของปลาที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว

“ไม่ผิดหรอก คนสวยอย่างพี่จะไปผิดอะไร คนที่ผิดก็มีแต่คนหน้าตาอัปลักษณ์อย่างฉันเท่านั้นแหละ”
ปลายิ่งโกรธ รูปร่างหน้าตาปลาก็ยิ่งเน่าเละมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ก็หน้าตาบิดเบี้ยว มือไม้หงิกงอเกร็ง เหมือนศพที่ตายมาแล้วหลายวัน จนเส้นเอ็นหดไปทั้งตัว ไม่คาดคิดอวัยวะภายในบางอย่างพุ่งออกจากปลาใส่เจติยาทันที เจติยาตกใจสุดๆ หลบหลับตาปี๋พร้อมกรีดร้องออกมา เมื่อลืมตาก็พบว่าปลาหายไปแล้ว
เจติยาอึ้งไปครู่ กับอารมณ์แปรปรวนของปลา ก่อนจะถอนใจออกมาด้วยความอ่อนใจ


บรรยากาศในงานการประมูลมีแขกเหรื่อมามากมาย บริษัทที่ควบคุมการประมูล ก็ประมูลของแต่ละชิ้น เพื่อนำไปบริจาคการกุศล
ลาภิณ และพิมพ์อรกำลังคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่ง
“โชคดีนะครับที่พี่อรมาด้วย ไม่อย่างงั้นงานนี้ ผมไม่รู้จะคุยกับใครเลย”
“น้องต้นก็พูดเกินไป คนเกือบทั้งงานก็รู้จักน้องต้นทั้งนั้น พี่ซะอีก มาคนเดียวจริงๆ”
“รู้จักกับสนิท ก็ไม่เหมือนกันนะครับ คุยกับคนรู้จัก ไม่สนุกเหมือนคุยกับคนที่สนิทคุ้นเคยกันหรอกครับ”
พิมพ์อรแอบยิ้มปลื้มดีใจที่ลาภิณบอกว่าสนิทสนมกับตน
เจ้าหน้าที่ประมูลยกรูปภาพรูปหนึ่งออกมา “ของชิ้นต่อไปที่จะทำการประมูล ก็คือรูปภาพฝีมือศิลปินแห่งชาติอาจารย์รมณีย์ค่ะ สำหรับภาพนี้ ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งแสนบาทค่ะ”
“ภาพที่พี่อรอยากได้เริ่มประมูลแล้วครับ”
พิมพ์อรหันไปมองรูปภาพ ตั้งใจจะประมูลให้ได้
บรรดาแขกต่างยกป้ายหมายเลขชูขึ้นเพื่อประมูลราคา
“สองแสน”
“สามแสน”
“สามแสนห้า”
พิมพ์อรยกป้ายหมายเลขชูสูงขึ้น “ห้าแสนค่ะ”
ทุกคนหันไปมองหน้ากัน ไม่มีใครสู้ราคาอีก
แต่ไม่ทันคาดคิดมีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น “1 ล้านครับ” เรียกเสียงฮือฮาไปทั้งงาน ทุกคนหันมองไปที่เจ้าของเสียง...สิทธิพรยิ้มแย้มมั่นใจ ในขณะที่พิมพ์อรหันไปมองสิทธิพรด้วยสายตาไม่พอใจ ทั้งคู่รู้จักกันมาก่อนและไม่คิดว่าจะมาเจอกันอีก
สิทธิพรหันไปยิ้มให้พิมพ์อร ในขณะที่ลาภิณจ้องไปที่สิทธิพรด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

สิทธิพรออกมาคุยโทรศัพท์มือถืออยู่หน้าห้องจัดเลี้ยง “งานจะเลิกแล้ว เดี๋ยวตามไป... โอเค”
พอสิทธิพรหันกลับมาจะเดินเข้างานก็ต้องชะงักเมื่อเห็นลาภิณและพิมพ์อร เดินเข้ามาหาตน ลาภิณเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าเครียดๆ “ไม่เจอกันนานเลยนะครับ คุณสิทธิพร”
“ก็หลายปีได้นะ ผมเองก็ไม่คิดว่าจะเจอคุณในงานนี้เหมือนกัน ธุรกิจของคุณ ไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องอะไรกับงานแบบนี้เลยนะครับ”
“งานนี้เป็นงานการกุศล ใครๆก็มาได้ทั้งนั้นล่ะครับ ไม่จำเป็นว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับความตาย แล้วจะต้องไปได้เฉพาะที่วัดหรือสถานที่ฝังศพซะหน่อย” ลาภิณพูดยักไหล่กวนๆ
สิทธิพรมองหน้าลาภิณแบบเอาเรื่อง สีหน้าเขม่นๆ “ปากเก่งไม่เปลี่ยนเลยนะ”
“กับบางคนเท่านั้นล่ะครับ” ลาภิณโต้กับพร้อมกับจ้องหน้าสิทธิอพรอย่างจะเอาเรื่อง
พิมพ์อรดูเหวอๆไปเมื่อเห็นการสนทนาตรงหน้า เริ่มใจคอไม่ดีกลัวทะเลาะกัน ทั้งคู่จ้องหน้ากันแบบไม่มีใครยอมใคร ก่อนจะหลุดขำออกมาพร้อมกัน
สิทธิพรหัวเราะ “แกจะขำทำไมวะไอ้ต้น ทำฉันหลุดไปด้วยเลย”
พิมพ์อรมองทั้งคู่ด้วยความรู้สึกอึ้งปนงง
ลาภิณหัวเราะ “แกนั่นแหละหลุดก่อน”
สิทธิพรดึงลาภิณไปกอดตบหลังทักทายกันฉันท์เพื่อนสนิท
พิมพ์อรมองภาพตรงหน้าอย่างนึกไม่ถึง “นี่รู้จักกันด้วยเหรอคะ”
ลาภิณตบไหล่สิทธิพรด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “เพื่อนซี้ผมตอนเด็กๆ เลยครับ พอผมไปเรียนต่อที่อเมริกาก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย”
“พอแกกลับมาฉันก็ไปต่อโท นี่จะไปย้ายไปไหนอีกรึเปล่าเนี่ย”
“ไม่ไปไหนแล้ว”
“สวัสดีครับคุณพิมพ์อร ยินดีครับ ที่ได้เจอคุณที่เมืองไทยอีกครั้ง” สิทธิพรหันไปยิ้มและทักทายตามมารยาทกับพิมพ์อร
“เช่นกันค่ะ” พิมพ์อรยิ้มทักทายเช่นกัน
“อ้าว เคยรู้จักกันด้วยเหรอครับ” ลาภิณมองทั้งคู่อย่างนึกไม่ถึงเช่นกัน
สิทธิพรมองหน้าพิมพ์อร สายตามีเลศนัย “ทำธุรกิจวงการเดียวกันจะไม่รู้จักกันได้ยังไงล่ะต้น”
พิมพ์อรปั้นยิ้มกึ่งเหยียด “ค่ะ เรารู้จักกันมานานแล้ว นานพอสมควรเลยล่ะ” พิมพ์อรพูดพร้อมเบะปากเล็กๆ ดูไม่ค่อยชอบหน้าสิทธิพร
“แต่ก็ไม่ได้เจอกันเป็นปีเหมือนกันนะครับ ครั้งสุดท้าย รู้สึกว่าจะเป็น” สิทธิพรเน้นเสียงแกล้งๆ “ในงานศพสามีของคุณพิมพ์อร ใช่มั้ยครับ”
พิมพ์อรหน้าบึ้ง มองสิทธิพรราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “น้องต้นคะ พี่ขอตัวกลับก่อนนะคะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ” พิมพ์อรเดินเลี่ยงออกไปทันที พยายามระงับอารมณ์เต็มที่ พร้อมหยิบมือถือโทรตามชาคร
ลาภิณหน้าเสีย “แกไปแกล้งพี่เค้าทำไมวะไอ้สิท”
สิทธิพรหน้าขรึมลง “แกชอบแม่นี่เหรอ”
“ไอ้บ้า ฉันแต่งงานแล้ว พี่อรเค้าเป็นลูกเพื่อนสนิทพ่อฉัน นับถือกันเหมือนพี่น้องโว้ย”
“เป็นงั้นได้ก็ดี แล้วนี่แกเคยรู้เรื่องที่เค้าเป็นแม่ม่ายผัวตายมาก่อนรึเปล่า”
“เปล่า มันเรื่องส่วนตัวของเค้า”
สิทธิพรตบบ่าลาภิณ “งั้นแกก็ระวังตัวไว้หน่อยแล้วกัน ผู้หญิงคนนี้จิตใจไม่ได้สวยเหมือนหน้าตาที่แกเห็นหรอกนะ”
ลาภิณหน้านิ่งไปอย่างใช้ความคิด ถึงจะไม่เชื่อ แต่สิทธิพรก็เป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็ก ส่วนพิมพ์อรก็เป็นคนที่ตนรู้สึกคุยด้วยแล้วถูกคอ เลยไม่อยากพูดอะไรมาก ได้แต่ปั้นยิ้มบางๆ คืนเพื่อนไป

บ้านลาภิณตอนเช้า เจติยากำลังจัดอาหารเช้าให้ลาภิณ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยมีสาวใช้คอยช่วย
“คุณเจตื่นมาทำแต่เช้าอย่างนี้ คุณต้นต้องเจริญอาหารแน่ๆเลยค่ะ”
“แค่คุณต้นเค้าไม่โกรธที่ฉันลืมนัดเมื่อวาน ก็ดีแล้วล่ะ”
ลาภิณในชุดเตรียมจะไปทำงาน ก็เดินเข้ามาในห้องอาหาร สาวใช้เดินเลี่ยงออกไป
“ตื่นแต่เช้าเลยนะเจ”
เจติยามองลาภิณในชุดทำงานมีสีหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย “วันนี้คุณต้นจะไปทำงานเหรอคะ”
“อ้าว ก็วันนี้ไม่ใช่วันหยุด ผมก็ต้องไปทำงานสิ”
“แต่วันนี้ เป็นวันทำบุญครบรอบวันตายคุณพ่อเจนะคะ”
“อ้าว จริงด้วย ผมลืมไปเลย ขอโทษด้วยนะเจ”
“เอาคืนเหรอคะ” เจติยาพูดกระเซ้า
ลาภิณเดินเข้ามาโอบเอวเจติยาพร้อมพูดแหย่ “เห็นผมเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นตั้งแต่เมื่อไหร่ผมลืมจริงๆ วันนี้มีนัดแล้วด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ทำบุญให้ท่านวันไหนก็เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องวันนี้วันเดียวหรอก”
ลาภิณทำหน้าอ้อนๆ “ไม่โกรธแน่นะ”
“ถือว่าเจ๊ากันกับงานเมื่อคืนแล้วกัน”
ลาภิณเข้าไปหอมแก้มเจติยาเป็นการให้รางวัลฟอดใหญ่
“ทานข้าวเถอะค่ะ”
“ไม่ทันแล้วล่ะ ผมนัดพี่อรดูแบบตึกที่จะสร้างใหม่ ไม่อยากสาย” ลาภิณมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ
เจติยาชะงักไปเล็กน้อยแต่ยังคงปั้นยิ้ม“รีบไปเถอะค่ะ”
ลาภิณหอมแก้มเจติยาอีกฟอดก่อนเดินออกไป แล้วนึกขึ้นได้ เดินย้อนกลับมา “เอ้อ คืนนี้ผมกลับดึกหน่อยนะ พี่อรเค้าชวนผมไป ดินเนอร์กับพวกนักธุรกิจสิงคโปร์ เจง่วงก็นอนก่อนเลย ไม่ต้องรอนะ”
เจติยายิ้มให้ “ค่ะ”
ลาภิณเดินยิ้มแย้มออกจากบ้านไป เจติยามีสีหน้าขรึมลงสีหน้าใช้ความคิด นับวันลาภิณจะใกล้ชิดกับพิมพ์อรมากขึ้นทุกที

มยุรี นที และเจติยาไปทำบุญให้พ่อที่วัด โดยมี นวัช นิษฐา และพลอยมาร่วมงานด้วย
ทั้งหมดร่วมฟังพระสวด หลังจากนั้นนทีและนวัชช่วยกันถวายเครื่องสังฆทาน เจติยา มยุรี นิษฐา กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล

นที และพลอยกำลังให้อาหารปลาตรงท่าน้ำของวัด ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส คุยกันกระหนุงกระหนิง เหมือนคนเป็นแฟนกันไม่มีผิด มยุรียืนมองลูกชายด้วยใบหน้าหงิกงอ โดยมีเจติยายืนอยู่ใกล้ๆ
“ใจเย็นๆค่ะแม่ อาจจะไม่มีอะไรก็ได้”
“น้อยไปสิ ขนาดต่อหน้ายังขนาดนี้ ลับหลังจะขนาดไหน”
“วัยรุ่นสมัยนี้ก็แบบนี้ล่ะค่ะ ถ้าห้ามถ้าเตือนไม่ฟัง ก็ต้องสอนให้รู้จักป้องกัน”
มุยรีหยิกแขนเจติยา “เดี๋ยวเถอะเจ”
“โอ๊ย เจ็บนะแม่”
“อย่ามาส่งเสริมน้องให้ชิงสุกก่อนห่ามนะ แม่ไม่ชอบ”
“ไม่ชอบก็ต้องทำใจไว้บ้างค่ะแม่”
“ยังอีก” มยุรีหยิกแขนเจติยาซ้ำ เจติยาสีหน้าจ๋อยๆไปถอยห่างแม่ออกมา มยุรีจับตามองนทีและพลอยอย่างไม่วางตาด้วยความไม่สบายใจ
นิษฐาและนวัชเดินเข้ามาหาเจติยา ลากตัวออกมาคุยห่างๆ จากมยุรีด้วยสีหน้าท่าทางตื่นเต้น “เจ ฉันมีเรื่องจะบอก”
นวัชปราม “ตื่นตูมไปรึเปล่าฐา หลักฐานอะไรก็ไม่มี เดี๋ยวก็หน้าแตกหรอก”
“โอ๊ย ตำรวจก็เงี้ย มัวแต่รอหลักฐาน คนร้ายถึงได้หนีรอดไปหมด” นิษฐาพูดด้วยความหมั่นไส้เล่นเอานวัชเจื่อนไปเล็กน้อย
เจติยางง “มีอะไรเหรอฐา”
นิษฐาจูงข้อมือเจติยา “ตามฉันมา เดี๋ยวเดินไปเล่าไป” นิษฐาดึงเจติยาไปกับตน โดยมีนวัชเดินยิ้มๆ ส่ายหน้าตามหลังไป

อีกมุมหนึ่งของวัด มิ้น คุกกี้ และ เด กำลังเทน้ำลงใต้ต้นไม้ใหญ่ หลังจากทำบุญกรวดน้ำเสร็จ
คุกกี้ถาม “รู้สึกดีขึ้นรึยังล่ะมิ้น เลิกประสาทเสียซะทีนะ”
มิ้นหน้าบึ้ง “มาว่าแต่ฉัน ฉันรู้นะว่าแกสองคนก็เครียดจนนอนไม่หลับเหมือนกันแหละ คนตายทั้งคน”
เดตวาดแว๊ด“แกจะพูดทำไม กลัวคนเค้าไม่รู้เหรอะ”
ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงนิษฐาดังขึ้นนำมาก่อนตัว “ไม่รู้อะไรเหรอจ๊ะน้องๆ”
ทั้งสามคนสะดุ้งตกใจ หันกลับไปมอง เห็นเจติยา นวัช และนิษฐา ยืนมองพวกตนอยู่
คุกกี้ตั้งสติได้ก่อนเพื่อนทำเสียงดังเข้าข่ม “จะไม่รู้อะไรก็เรื่องของพวกหนู ไม่เกี่ยวกับพวกพี่ พวกพี่เป็นแค่เจ้าหน้าที่มูลนิธินะคะ ไม่ใช่ตำรวจซะหน่อย”

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 3 วันที่ 11 ก.ค. 57

ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ